359 | The Way I loved

จาก Entry ก่อน ที่เกริ่นไว้แต่ว่ายังไม่มีเวลาเขียน วันนี้ก็ได้โอกาสจะเขียนซะที ท้าวความเดิมสักเล็กน้อยคือหลังจากที่ FFXIV ออกอัพเดท Patch 1.19a ออกมา ก็ได้มีการเปิดเผยแผนงานการพัฒนาระยะยาวออกมา โดยจะมีชื่อเรียกว่า Final Fantasy 2.0 จะเปิดเบต้าเทสต์ PS3 ราวๆปลายปีหน้าและวางขายจริงต้นปีถัดมา รายละเอียดในแผนงานก็ไปอ่านเอาเอง เนื่องจากเยอะมากและขี้เกียจเรียบเรียง….

สรุปให้นิดนึงละกัน คือปลายปีนี้จะมีอัพเดทใหญ่ 1.20 และเริ่มเก็บตัง(แต่จะถูกกว่าค่าบริการปกติ) ปีหน้าจะมี 1.21 1.22 และ 1.23 ในเดือนกรกฏา และจะเริ่มโปรโมท 2.0 และปล่อย Teaser ในงาน E3 เดือนมิถุนายน 2012 จนกระทั่งเดือนตุลาปีเดียวกันก็จะปล่อยตัวเกมเวอร์ชั่น 2.0 โดยจะยกเครื่อง Engine ใหม่หมด (กราฟฟิคจะไม่ต่างจากเดิมมาก แต่จะรองรับ spec สูงกว่า) จากนั้นจะเข้าช่วง Reboot ในเดือนพฤศจิกายนและเปิด Beta บนเครื่อง PS3 ข้อมูลตัวละครทั้งหมดจะอยู่ครบ และสุดท้ายออกตัวสมบูรณ์บนเครื่อง PS3 ต้นปี 2013

ชีวิตผมนั้นแม้จะเล่นเกมมาเยอะมาก แต่แท้จริงแล้วผ่านเกมออนไลน์มานับได้ด้วยมือข้างเดียว ย้อนกลับไปจริงๆเกมแรกที่เล่นก็คือ Phantasy Star Online บนเครื่อง Dreamcast ผมเล่นเป็น FOmarl ชุดดำวิ่งกระดุ๊กกระดิ๊กๆ โดน NOL ไปสองรอบ (NOL คือการที่โดนคนเล่นคนอื่นมาแจมแล้วใช้ Code โกงทำให้ตัวละครเรากลายเป็น Nol เลเวล 14 และจะเป็นไปตลอดกาล พูดง่ายๆก็คือโดนทำลายเซพไปเลย) ผมเล่นไปจนเลเวล 80 ได้ แล้วก็เลิกเล่นไปเพราะ DC ยืมเครื่องชาวบ้านมา เกมที่สองที่เล่นก็คือ Ragnarok Online แน่น้อนว่าผมก็ไม่พลาดเทรนด์สุดฮิทอันนี้! ผมเริ่มเล่นช่วงที่มันยังเป็น Server เกาหลี ด้วยความที่ผมไม่มี PC เป็นของตัวเอง(มีแต่ Mac) ก็เลยไม่ค่อยสะดวกที่จะเล่นเท่าไหร่ แถมเล่นๆไปก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ก็เลิกไปตอนเลเวล 14 เท่านั้น

และเกมที่สามก็เป็น Final Fantasy XI นี่เอง ผมเล่น FFXI อยู่ราวๆ 8 ปี เล่นตั้งแต่เกมออกใหม่ๆจนถึงปีที่แล้ว ก็ย้ายมาเป็นพลเมือง Eorzea เต็มตัว ระหว่างเล่น 11 เคยแอบนอกใจไปเล่น Cabal อยู่ราวๆสองอาทิตย์เพราะอยากเล่นเกมที่ดาแมจหล่นเยอะๆรัวๆ เล่นจนเลเวล 50 ก็เลิกไป เพราะรู้สึกไม่ค่อยสนุก

เอาเข้าจริงๆแล้วผมเป็นคนที่เลือกอะไรจากเหตุผลที่ไม่มีสาระมากนัก และไม่ค่อยใส่ใจเรื่องที่ควรจะใส่ใจจริงๆเท่าไหร่ แถมบางครั้งก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาไปด้วยซ้ำ แต่ถ้าเลือกแล้วก็จะรักเดียวใจเดียวยึดมั่นถือมั่นไม่ว่ามันจะดีหรือแย่ขนาดไหน ดังนั้นโดยปกติแล้วผมจะมีบาเรียระดับนึง ผมจะไม่ค่อยเลือกอะไร วางตัวเป็นกลางและเว้นช่องว่างเอาไว้เสมอ ตอนที่ผมเลือก Linkshell ที่จะสังกัด ผมไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์และคุณภาพมากนัก แต่ถ้าเลือกไปแล้วไม่ว่ามันจะดีหรือแย่ขนาดไหนผมจะไม่เป็นฝ่ายทอดทิ้งมัน แต่จะรอให้มันพังไปเอง(ฮา) สำหรับ Final Fantasy XIV ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ผมจะอยู่เคียงข้างกับมัน ไม่ว่ามันจะดีหรือเลวเพียงใด

พูดได้โดยไม่อายเลยว่า FFXIV นั้นเปิดตัวได้ย่ำแย่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เรื่องจะด่านั้นมีให้มากมายเล่าถึงพรุ่งนี้เช้าก็ไม่จบ แต่กระนั้นเลยเชื่อหรือไม่ว่าผมก็รู้สึกว่ามันสนุกนะ ช่วงที่มันห่วยแตก UI อืดระบบห่วยผมก็เล่นได้โดยไม่บ่นอะไร…ไม่สิ ก็บ่นนะ แต่รู้สึกราวๆว่าเชี่ยเอ้ยแม่งอืดฉิบหาย แล้วไงเหรอ? เจอระบบแย่ๆผมก็ไม่โวยวาย บอกตรงๆว่าบ่อยครั้งผมไม่รู้สึกว่ามันแย่ด้วยซ้ำจนกระทั่งมีคนมาบอก…. หลายๆคนบอกเกมโน้นดีกว่า ระบบนี้เกมนี้เจ๋งกว่า ผมก็ไม่เข้าใจหรอก เพราะผมไม่ค่อยได้สัมผัสเกมออนไลน์อื่นนอกจาก FFXI อ๋อเหรอดีเหรอ กุไม่รู้กุเล่นอย่างเดียว

นับตั้งแต่เกมออกวางจำหน่าย จนเริ่มเล่นฟรีมาตลอดปี ผมก็เห็น Final Fantasy XIV พัฒนาไปมาก ไอ้เรื่องที่เคยบ่นไว้ก็ค่อยๆน้อยลง มันทำให้ผมรู้สึกว่า “มันกำลังพัฒนาอยู่นะ” สัมผัสได้ว่าเกมมันยังไม่ตายนะ และทีมพัฒนาทั้งหลายก็กำลังเผชิญกับความยากลำบากแสนสาหัส แต่ก็พยายามทำให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ถึงจุดที่หลายคนพอใจ แต่ก็พูดได้เต็มปากว่ามันกำลังเดินไปข้างหน้า ผมได้รู้จักกับทีมพัฒนาผ่านทาง forum ผมได้รู้จัก YoshiP โปรดิวเซอร์คนใหม่ที่มาแทนทานากะ (ส่วนตัวผมก็ชอบทานากะนะ แต่วินาทีนี้ผมคิดว่าทานากะไม่สามารถต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงได้ทันและน่าจะมีปัญหาภายในมากมาย)

โยชิปี้เป็นโปรดิวเซอร์คนใหม่ที่ต้องถือเผือกร้อนไว้ในมือ และมันไม่ใช่เผือกร้อนธรรมดา แต่มันเป็นเผือกร้อนที่ทั้งร้อนมากและใหญ่มาก ผมไม่รู้ว่า Square-Enix ไปขุดโยชิปี้มาจากไหน (แจ้งอีกครั้งว่านาโอกิ โยชิดะ ไม่ใช่คนพัฒนาเกมออนเซ็นกล้วยนะครับ แค่ชื่อเหมือนกันเฉยๆ) แต่ 1 ปีที่ผ่านมาผมพอใจใจผลงานของโยชิปี้ ผมไม่รู้ว่าถ้าดีกว่านี้จะเป็นยังไง หลายๆคนก็ยังด่าโยชิปี้ไม่หยุด แต่ผมก็รู้สึกพอใจในงานที่ออกมา

จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนตุลาคม Square-Enix ก็ประกาศแผนงาน 2.0 ออกมาอย่างชัดเจน มันเป็นวินาทีแรกที่ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่เสียใจเลยที่เล่นมาจนวันนี้ ผมรู้สึกว่าเวลาที่เล่นไปนั้นมันไม่เสียเปล่า ทีมงานทุกคนรับรู้และตอบสนองความตั้งใจออกมา และปลายทางของถนนอันแสนขรุขระนี้มันมีแสงสว่างอยู่รำไร

หลายต่อหลายคนมักจะบอกว่า FFXIV เป็นเกมที่สร้างไม่เสร็จ เป็นเกมที่ไม่สมบูรณ์ เป็นเกมที่ไม่พร้อมและไม่สมควรเล่นในเวลานี้ และยิ่งถ้าให้เสียเงินเล่นก็ยิ่งไม่มีทาง ผมเห็นด้วยทุกประการว่า FFXIV เป็นเกมที่ไม่พร้อมจริงๆ คุณอาจจะเอาเวลาและเงินไปเล่นเกมอื่นที่มันพร้อมกว่าสนุกกว่าได้มากมาย วิธีของผมมันอาจจะไม่ใช่วิธีการสนุกกับเกมออนไลน์ที่ถูกต้อง สำหรับผมการเฝ้ารอสัมผัสการพัฒนาทีละก้าว ทีละก้าว ก็เป็นเรื่องที่ไม่เลวร้ายนัก

เกมออนไลน์อื่นมากมายมีให้เล่นดุจดาวบนฟ้า เข้าไป Grind เลเวล แข่งขัน ต่อสู้ สนุกสนานกับเพื่อนๆ ก็เป็นรูปแบบการเล่นที่หลายๆคนเลือกจะทำ แต่จะมีสักกี่เกมที่มีไว้ให้เราสัมผัสความห่วยแตก(ฮา)และค่อยๆเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปเรื่อยๆ (เกมห่วยๆจริงๆมีเยอะ แต่สุดท้ายมันจะเจ๊งไปซะแทน ไม่ได้มีสายป่านยาวแบบ Square-Enix) อารมณ์และประสบการณ์แบบนี้คงหาจดจำสัมผัสในเกมอื่นไม่ได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันอาจะเป็นประสบการณ์เลวร้ายก็ตาม(หัวเราะ) วิธีสนุกในรูปแบบนี้ผมคงไม่อยากจะแนะนำคนอื่นมากนัก แต่การเลือกที่จะอยู่กับมันก็เป็นเรื่องสนุกที่ท้าทายไม่เลวเลยทีเดียว