188 | FFTA2 : The Sealed Grimoire.

หมดไป 92 ชั่วโมงกับ Final Fantasy Tactics A2 ในที่สุดผมก็ถึงจุดที่เป็นไทซะที FFTA2 เป็นภาคย่อยของ Final Fantasy Tactics (ซึ่งไม่ได้มีภาคต่ออย่างเป็นทางการซะที) FFTA นั้นมีเอกลักษณ์ตรงเนื้อเรื่องสบายๆ มีลักษณะเป็นเควสต์จำนวนมาก ตัวเอกเป็นเด็กที่หลุดมาจากโลกปัจจุบัน ใช้ระบบอาชีพและเผ่าพันธุ์ผสมผสานกัน ภาคแรกบนเครื่อง GBA ผมก็เล่นจบ แต่ไม่ได้เก็บรายละเอียดอะไรมากมายนัก ส่วนในภาคสองนี้ก็ได้ทุ่มเทเล่นจนสะใจไปเลย

Final Fantasy Tactics A2 เป็นเกมที่ไม่มีอะไรเลยแต่ว่ารู้ตัวอีกทีก็เสียเวลากับมันไปร่วมๆ 100 ชั่วโมง เกมนี้เนื้อเรื่องหลักเหลวเป๋ว ตัวร้ายก็น้อย บอสก็น้อยฉากก็ซ้ำๆ พวกเราก็น้อย (เอ๊ะหรือว่าไม่น้อย) แต่เวลาเล่นกลับเพลิดเพลินกับการกระทำซ้ำไม่มีที่สิ้นสุด ตัวเกมเดินเรื่องด้วยเควสต์ล้วนๆ เราก็จะผจญภัยไปในอิวาวิส-ดินแดนจิลแลนด์ไปเรื่อยๆ วนไปทำโน่นทีทำนี่ที เดี๋ยวข้ามมาฝั่งนี้หาคนโน้น คนโน้นให้ไปเก็บแสตมบ์ตรงนี้ วันนี้ลานประมูลเปิดต้องรีบไปเมืองโน้นก่อน พัวพันวกวนไปเรื่อยๆจนหยุดไม่ได้
เนื้อเรื่องหลักของเกมมีแค่ตัวเอกลุสโซไอ้หนูเกรียนออนไลน์ (มีมุขด้วยว่าปิดเทอมนี้มันจะเล่น FF11 เก็บเลเวล WAR ให้ 75) วันก่อนจะปิดเทอมโดนคุณครูดุไล่ไปทำความสะอาดห้องสมุด แล้วบังเอิญไปเปิดหนังสือเล่มนึงแล้วก็หลุดเข้าไปในโลกอิวาลิส แล้ววิธีการกลับโลกเดิมนั่นก็คือให้ผจญภัยไปเรื่อยๆจนกว่าหนังสือจะถึงตอนจบ ไอ้หนูลุสโซ่ก็เลยออกยิงนกตกปลา ป่วนชาวบ้านไปทั้งจิลแลนด์

ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นหน้าลุสโซ่ก็คือ “ไอ้หนูนี่แม่งปากดีหว่ะ” ซึ่งก็จริงๆ บทพูดของลุสโซ่ในเกมนั้นอวดดีและแฝงความมั่นใจอย่างล้นปรี่ ซึ่งต่างจากมาร์ชตัวเอกภาคแรกราวฟ้ากับเหว มาร์ชนั้นเป็นคนรักความยุติธรรม ไม่มีมุขตลก และแบกรับทุกอย่างไว้ด้วยตัวเอง แต่ลุสโซ่จะร่าเริง มั่นใจ อวดเก่ง และมองทุกอย่างเป็นเรื่องสนุก ซึ่งให้ธีมของภาค A2 นั้นมีความสดใสร่าเริ่งตามไปด้วย (ในภาคแรกนั้นธีมของเกมจะออกหม่นๆ แม้จะดำเนินเรื่องด้วยละครเด็ก แต่พอจบเกมกลับไม่ได้สัมผัสความสุขแบบเด็กๆเลย แต่กลับสัมผัสถึงความจริงอันโหดร้ายของโลก)
ความสนุกของเกมคือระบบอาชีพและเผ่าพันธุ์ที่จะให้เรานำมาผสมผสานพลิกแพลงได้ร้อยแปด เราสามารถเซ็ทเอบิลิตี้จากอาชีพโน้นผสมกับอาชีพนี้เพื่อให้ได้ตัวละครที่เก่งขึ้น พลิกแพลงขึ้น แต่จุดที่เป็นปัญหาก็คือ AP ในเกมนั้นขึ้นยากมาก ก็เลยทำให้การพัฒนาตัวละครเป็นไปอย่างช้าๆ ถ้าได้เยอะกว่านี้ก็คงเพลินกว่านี้ (และใช้เวลาเล่นน้อยกว่านี้) ภาคนี้นอกจากเผ่าพันธุ์เก่าๆบนโลกอิวาลิสแล้ว FFTA2 ยังมีเผ่าใหม่เพิ่มขึ้่นมาอันได้แก่เกรียส์ (Grias) เป็นเผ่าคล้ายมนุษย์ มีปีกคล้ายค้างคาวและมีเขาบนหัวคล้ายปีศาจ เน้นทางด้านพละกำลัง แต่กลับมีแต่เพศหญิงซะงั้น รู้สึกว่าจะขายโมเอะ หวังว่าโครงการ Ivalice Alliance จะมีโปรเจ็คลงใหญ่ลงเครื่อง Next-Gen สักภาค เพราะอยากเห็น Grias แบบรายละเอียดสูงดูสักทีว่าจะโมเอ้เซ็กซี่ขนาดใหน

ตัวละครภาคนี้นั้นออกแบบโดย Ito Ryoma จริงๆแล้วในครั้งแรกที่ผมเห็นตัวละครในภาค FFTA นั้นค่อนข้างผิดหวัง เหตุผลหนึ่งก็คือผมค่อนข้างยึดติดในตัว Akihiko Yoshida (ผู้ออกแบบตัวละคร Final Fantasy Tactics และ Ogre Battle รวมไปถึง Tactic Ogre, Vagrant Story, FF12 ด้วย) แต่พอดูไปนานๆก็พอจะเข้าใจว่ามันก็น่ารักเข้ากับธีมของภาคดี แต่ในภาค FFTA2 นั้นตัวละครออกแบบได้สวยงามมาก รายละเอียดต่างๆก็ทำได้ยอดเยี่ยม แม้จะมีกลิ่นของ Akihiko Yoshida โชยมาเยอะก็เหอะ ตัวละครที่ผมชอบที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Adelle นางเอก(มั้ง)ผู้มีพลังพิเศษที่ไม่ค่อยจะพิเศษเท่าใหร่เลย อาเดลเป็นตัวละครสมัยนิยม น่ารักปากแข็ง(ซึนเดเระ) แต่ตัวเกมไม่ได้เน้นเรื่องความรักระหว่างชายหญิง ดังนั้นภาพที่พบก็จะออกไปในทางมิตรภาพระหว่างเพื่อนมากกว่า จากที่ไล่เก็บเควสต์ ดูเหมือน “Gifted One” จะเป็นความสามารถที่น่ากลัวใช้ได้ เพราะสามารถสืบทอดถึงกันและกันในหมู่ผู้เป็น Gifted One ได้ อาเดลได้รับอาวุธที่มีชื่ออลังการหลายอย่างที่เหล่า Gifted One ผู้อื่นมอบที่เธอ อาทิเช่น Masamune-Hyakkushiki หรือ Nagrarok (ไม่แน่ใจในชื่อภาษาญี่ปุ่น) แต่สังเกตได้ว่ามีการปูพื้นไว้ค่อนข้างเยอะ ถ้าเธอได้ไปปรากฏในเกมอื่นน่าจะมีศักดิ์ศรีในระดับสูงเลยทีเดียว
จุดน่าเบื่อและน่าตำหนิในเกมนี้หลักๆก็มีอยู่ 2 จุด จุดแรกก็คือความช้าของการเล่น ตัวละครมีจังหวะหยุด จังหวะชะงักระหว่างใส่คำสั่งเยอะมาก เดินก็ช้า ทำให้เสียเวลามากเกินไปในการต่อสู้แต่ละทีทั้งๆที่ตัวเกมไม่ได้มีการตัดฉากต่อสู้ ถ้าทำให้ฉากสู้และฉากเดินไวกว่านี้ คิดว่าตัวเกมจะลื่นใหลกว่านี้ และใช้เวลาเล่นน้อยกว่านี้เยอะ สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกได้ชัดก็คือหลังจากเล่นเกมนี้ ผมไปเล่น Fire Emblem ต่อ ใน Fire Emblem นั้นเดินได้เร็วกว่า FFTA2 มาก ฉาก 1 ฉากแม้จะกว้างกว่าและศัตรูเยอะมาก แต่ก็เล่นผ่านได้ในเวลาไม่กี่นาที ต่างจาก FFTA2 ที่มีกันแค่ฝ่ายละ 6 คนแต่กลับใช้เวลานานกว่าหลายเท่า และนานเข้าไปอีกในการปรับแต่งตัวละคร

สี่สาวพรีมาดอนน่า (Lovely Voice ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น) ในภาพเป็น Fan Art
อีกจุดก็คือบาลานซ์ของเกมกับความยาก โอเคเกมนั้นสนุกที่จะได้พลิกแพลงใช้เอบิลิตี้ทั้งหลายผสมผสานกัน แต่สุดท้ายมันก็มีเอบิลิตี้ที่ดีกว่าจนโดดเด่น วิเอร่า-แอสแซสซินผมติด Summon Magick + Blood Price และถือธนู คอมโบนี้จุดอ่อนน้อยมาก สามารถยิงอัลทิม่าช๊อตได้ตลอดเวลา สามารถเรียกฟินิกส์มาเพิ่มพลังและชุบชีวิตเพื่อนทุกคนได้ฟรี เดินเร็ว ถ้าหากมีวิเอร่าแบบนี้ 6 คนก็เรียกได้ว่าไม่มีวันตายเลยทีเดียว แต่ส่วนนี้ผมยังพอรับได้เพราะเป็นเกมออฟไลน์ธรรมดา ถ้าเทียบกับบาลานซ์ของ FF11 ก็คงต้องมีปัจจัยและเงื่อนไขอีกเยอะ แต่ที่รับไม่ได้ก็คือหอคอยพิเศษ brightmoon tor ที่เหมือนเป็นดันเจี้ยนลับ ไม่ว่าอย่างไร เราจะเลเวลมากขนาดใหน สปีดเยอะเพียงใด ศัตรูในหอคอยนี้จะได้เดินก่อนเรา 2 เทอร์น และทุกชั้นจะมีศัตรูที่มีเอบิลิตี้ Light Curtain มีผลให้ Haste+Protect ทุกตัว ยิ่งทำให้มันเดินก่อนเราได้เยอะเข้าไปอีก บางครั้งศัตรูเดินไปเกือบ 20 หน(1หน 1ตัว)แล้วเรายังไม่ได้เดินเลยทั้งๆที่ตัวเรามี Speed มากกว่า และศัตรูเกือบทุกตัวจะมีเอบิลิตี้พื้นฐานเป็นท่าโจมตีทุกตัว+ไร้ธาตุ+ไม่เสีย MP ซึ่งยิ่งเล่นจะยิ่งรู้สึกว่าโดนโกง ก็รู้นะว่ามันเป็นดันเจี้ยนพิเศษ แต่การรับบทผู้โดนกระทำอย่างเดียวนี่มันไม่สนุกเอาเสียเลย อยากให้คิดวิธีที่ทำให้ยากได้สร้างสรรค์มากกว่านี้หน่อย ไม่ใช่โกงเอาโกงเอาหน้าด้านๆ
หลังจากตรากตรำกว่า 90 ชั่วโมง ผมเคลียร์ไปทั้งหมด 276/300 เควสต์ ขาดอีก 24 เควสต์ที่มีเงื่อนไขการทำค่อนข้างน่าเบื่อ และหอคอยแห่งที่ 3 ที่ยังไม่เคลียร์ (2 อันแรกผ่านแล้ว) ซึ่งผมก็เล็งเห็นแล้วว่าสมควรแก่เวลาที่จะไปทำ(เล่น)อย่างอื่นซะที เพราะเล่นไอ้เนี่ยกลับบ้านแล้วไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย ผมก็จึงขอบอกลาเกม Final Fantasy Tactics A2 นี้แต่เพียงเท่านี้ และหวังว่าสักวันเราคงได้พบกันอีก
Final Fantasy Tactics A2 Japanese Official Website
Final Fantasy Tactics A2 North American Official Website

5 thoughts on “188 | FFTA2 : The Sealed Grimoire.”

  1. ภาคนี้ถ้าคิดดีๆ ก็มีคอมโบโหดๆ เยอะนะครับ ไม่ว่าจะคอมโบของวิเอร่าที่พี่พูดถึงเอย คอมโบ Magic Frenzy+ Illusion เพื่อโจมตีศัตรูทั้งฉาก เอย หรือคอมโบตายชุบตายชุบเพื่อนทั้งฉากของอาเดลเอย… มีให้เลือกใช้มากมายจริงๆ ตอนผมเล่น The Final Quest ผมก็ถึงกับอึ้งครับ ใน The Final Quest ศัตรูจะเลเวล 99 ทุกตัว แล้วมันจะได้เทิร์นตามสปีด ไม่การโกงเรา แต่พวกมันก็เซตอบิลิตี้กันมาดีมากๆ หลายๆ คอมโบที่คิดได้ ผมก็ลอกมาจากที่พวกมันเซตติ้งกันไว้แล้วแหละครับ 555+
    brightmoon tor น่าเบื่อจริงๆ น่ะแหละ ผมไม่ชอบก็ตรงที่มันได้เทิร์นก่อนเราประจำ ดูเหมือนโกงยังไงไม่รู้ ถ้าให้ได้เทิร์นตามสปีดจะไม่ว่าเลย ต่อให้ศัตรูมีอบิลิตี้โกงขนาดไหนผมก็ไม่ว่า แต่ไอ้ให้เรารอนานๆ กว่าจะได้เทิร์นนี่ไม่ไหวจริงๆ
    จริงๆ ไอ้การปลดล็อคเควสที่เหลือมันก็ไม่ยากนะครับ ถ้าเรารู้เดือนที่เควสมันจะออกแล้วก็ง่ายๆ อย่างเควสบ่อน้ำที่ออกมาปีละหนเนี่ย ถ้าเรารู้เดือนแล้วก็เข้าไปนอนในกระท่อมให้เวลามันผ่านไปถึงเดือนนั้นๆ แล้วก็ออกไปทำเควส ทำเสร็จแล้วก็มานอนใหม่ให้เวลาผ่านไปครบปีแล้วก็ออกไปทำใหม่ จริงๆ แล้วมันก็ไม่ยากนะ
    ตอนนี้ผมมาสเตอร์ทุกอาชีพไป 4 ตัวละ…เวลาเล่นก็ใส่อบิลิตี้ Ap3 อย่างเดียว เล่นฉากนึงก็จะได้ AP คราวละ 90 มาตลอด ขนาดทำแบบนี้แล้วกว่าจะมาสเตอร์ครบทุกอาชีพยังลำบ๊ากลำบากจริงๆ

  2. ผมเคยใช้ Illustrator+Magic Frenzy พักนึงนะ ถือไม้เท้าสองอันวาร์ปไปทุบ
    ปัญหาก็คือ MP ไม่ค่อยพอใช้ แถมติด Blood Price ช่วยไม่ได้ (มนุษย์ไม่มี
    Blood Price ใช่ใหม?) จะให้เพื่อนโยน Ether ก็งก จะเติมด้วยตัวเองก็เสียเทอร์น
    อีก กว่าจะใช้ได้โน่น แม่วิเอร่าชียิงตายไปสามตัวแล้ว เหลือให้วาร์ปไปทุบแแค่
    สองตัวอย่างกร่อย…
    ตอนเลเวล 50 ผมไปรับเควสต์ Five Kings มาก็เจอพวกเลเวล 99 สู้ไม่ได้เลย
    โดนยำแบบนั้นยังดีกว่าไปเข้าหอคอยนรกอีก สุดท้ายไปอัพ evade magick มา
    หลายคนๆ เอาหมูมาโยน Hi Potion ถึงจะชนะไปได้

  3. ฮิวม์ไม่มี Blood Price ครับ ดังนั้นเวลาจะใช้คอมโบ Illustrator+ Magic Frenzy เราจึงจำเป็นต้องติดแคลนอบิลิตี้ MP Channeling ที่ทำให้ได้ MP เทิร์นละ 20 เข้าไปด้วย พอทำแบบนี้แล้วก็ให้ Illusionist ยืนอยู่กับที่เฉยๆ ในเทิร์นแรก จากนั้นเทิร์น 2 และ 3 ก็จะสามารถใช้คอมโบนี้ได้เลย
    เมื่อวานผมไปทำ The Final Quest มาแล้ว… พอผ่านปุ๊บภาพก็จะเลื่อนขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วก็ตัดขึ้น Staff Roll ซะงั้น… พอ Staff Roll จบก็ไม่มีขึ้นให้เซฟด้วย… คงต้องเรียกว่าเป็นฉากจบเกมแบบที่สองล่ะมั้ง =___=”

  4. อ่า~ อันที่จริง รู้ป่าวคับว่า “ภาคนั้กับอีกภาคมันต่อกันเล็กน้อย”
    คือห้องสมุดที่ลูโซ่เข้าไปตอนเเรกน่ะ”มันเป็นห้องของมิวท์ (Mewt Randell From FFTA)
    ไอ้หนังสือนั่นก็อันเดียวกัน(ล่ะมั้ง ภาพมันเปลี่ยนนี่) ตุ๊กตาหมีในห้องสมุดนั่นก็ของมิวท์(หาดูได้ที่มิชชั่นลับ With Babus)
    เเถมตอนเข้ามา ลูโซ่ยังบอกว่านี่เปนห้องของ”MR. Randell” พอเห็นผปุ๊บผมเลยคิดว่า “สงสัย
    จะเป็นอีก20ปีข้างหน้าซะล่ะมั้ง” เลยล่ะ หะหะ
    ปล. ไหนๆทวีปมันก็ชื่อเหมือนกันเเล้วไม่ใช่เรอะ จำได้ว่ายังมีป่าKoring wood เหมือนกันด้วยนี่ฝ่า

    1. น้องเป็นคนล่าสุดที่รู้เลยนะครับ
      ขอแสดงความยินดีด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *