ได้รับการยืนยันแล้วว่าภาคต่อของ ef – a tale of memories. อนิเมชั่นที่สร้างจากเกม (วิชวลโนเวล) สำหรับผู้ใหญ่ จะมีการสร้างอนิเมภาคต่อ โดยจะใช้ชื่อว่า ef – a tale of melodies. ตัวเอกของภาคนี้นั้นจะเป็น อามามิยะ ยูโกะ และ ฮายามะ มิซึกิ โดยน่าจะมี ฮิโรโนะ นางิ เป็นตัวละครเสริมอีก 1 คน ทีมงานสร้างและนักพากย์ทั้งหมดยังคงเป็นชุดเดิม อนิเมชั่นโดย SHAFT กำกับโดยโอนุมะ ชิน เพลงประกอบโดย Tenmon ออกแบบตัวละครโดยนารุ นานาโอะ
เว็บไซต์หลัก : http://www.ef-melo.com/top.html
คำว่า “ef” อ่านว่า “เอฟ” ตัวอักษร e และ f นั้นถูกส่งต่อไปในหลายๆความหมายในเพลงเสมอ แรกสุดนั้นเป็นคำว่า eternal feather (悠久の翼) เพลงหลักของ อามามิยะ ยูโกะ จากนั้นก็เป็น euphoric field เพลงเปิดของภาคอนิเมชั่น และก็มี emotion flutter เพลงประกอบของเกมภาค the latter tale. และสำหรับภาค a tale of melodies ก็คงมีอีกเพลงที่ใช้อัก ef เป็นคำย่ออีกแน่นอน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยอะไร
หลายคนอาจจะผ่านตากับคำต่อท้ายที่ไม่ซ้ำกันเลย เช่น ef – the first tale. หรือ ef – a tale of memories. ถามว่ามันเป็นภาคใหม่ภาคต่อหรืออย่างไรมันก็ไม่เชิงนัก .ใครที่ไม่ได้ติดตามละเอียดอาจจะงงจึงจะมาอธิบายให้ชัดๆหน่อย
พื้นฐานที่สุดของชื่อเรื่องนี้ก็คือ ef – a fairy tale of the two เป็นชื่อเกมที่ใช้ในการโปรโมท แต่ด้วยหลายๆสาเหตุ (ความจุ ทางการค้า) สตูดิโอ Minori จึงแบ่งเกมออกเป็นสองภาคได้แค่ ef – the first tale. ที่มีตัวเอกเป็นชินโด เคย์ และ มิยามุระ มิยาโกะ และ ef – the latter tale. ที่มีตัวเอกเป็น ชินโด จิฮิโระ และฮายามะ มิซึกิ รวมไปถึง อามามิยะ ยูโกะด้วย ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วจึงสามารถเรียกเกมทั้งสองเกมว่า ef – a fairy tale of the two. ได้ทั้งคู่
หลังจากเกมภาค the first tale. วางจำหน่ายได้พักนึง SHAFT ก็ได้จับมันมาทำเป็นอนิเมชั่นออกฉายในช่วงปลายปี 2007 โดยใช้ชื่อว่า ef – a tale of memories. โดยนอกจากเรื่องราวของ มิยามุระ มิยาโกะ และ ชินโด เคย์ เหมือนในเวอร์ชั่นเกมแล้ว ยังจะมีเนื้อเรื่องของ ชินโด จิฮิโระ ซึ่งจะบรรจุอยู่ในเวอร์ชั่นเกมครึ่งหลัง ที่จะวางจำหน่ายในปีถัดไปอีกดด้วย ดังนั้นเรื่องราวของจิฮิโระจึงเป็นจุดดึงดูดให้ติดตาม เพราะเป็นเนื้อหาที่ยังไม่เปิดเผย ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร และเมื่อตัวอนิเมชั่นจบลง ก็เหมือนกับว่ามันได้ทำหน้าที่ส่งต่อเรื่องราวให้ผู้ชมไปติตตามต่อในเกมภาค the latter tale. ที่วางขายตามหลังไม่นาน จนกระทั่งกลางปี 2008 ได้มีการยืนยันว่าจะสร้างภาคต่อของอนิชั่นเรื่องนี้โดยใช้ชื่อว่า ef – a tale of melodies
ส่วนตัวแล้วชื่นชอบเรื่อง ef นี่มาก มันเป็นเรื่องราวที่ธรรมดา แต่ว่าลึกซึ้งและประทับใจ รู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่ไปเล่นภาคเกม (วิชวลโนเวล) มาแล้วจึงทำให้รู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นพอสมควร แต่ก็มั่นใจว่า SHAFT จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน อย่างที่เคยบอกไปหลายทีแล้วว่าผมชอบ มิยามุระ มิยาโกะ ตัวเอกคนนึงของภาคแรก ในภาค tale of melodies นั้นก็น่าเสียใจที่เธอไม่มีบทเลย แต่สำหรับจิฮิโระแล้ว เราจะได้พบกับเธออีกแน่นอน
เล่าเกร็ดเล็กน้อยให้ฟังหน่อย เมื่อก่อนผมเคยดูอนิเมชั่นทาง UBC เรื่องนึงแล้วชอบมากๆ ก่อนจะหยุดดูไปหลายปี เรื่องนั้นก็คือ Starship Girl Yamamoto Yohko (それゆけ!宇宙戦艦 ヤマモト・ヨーコ) ผมชอบโยโกะมาก เธอเป็นเด็กสาวที่มั่นใจในตัวเองสูง เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ฟังคนอื่น ก้าวไปข้างหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเสมอ (ฟังดูคล้ายๆฮารุฮิ แต่โยโกะไม่บ้า แล้วก็ไม่พูดมากด้วย) บรรยากาศของอนิเมชั่นเรื่องนี้มันมีอะไรบางอย่างที่ผมรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ มุมมองภาพ การจัดวางตำแหน่งของตัวละคร ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่มาตรฐานแบบอนิเมชั่นทั่วไป ไม่ใช่ว่าสูงกว่า แต่มัน “แตกต่าง” จากนั้นผ่านไปหลายปีจนมาได้ดู ef ผมก็สัมผัสได้ถึงความ “แตกต่าง” อีกครั้ง ในตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษ จนมีคนบอกว่าเรื่องยามาโมโตะโยโกะนั้นเป็นงานยุคแรกๆที่ อากิยูกิ ชินโบ กำกับ ซึ่งเขาเป็นทีมงานของ SHAFT ซึ่งเป็นผู้ดูแลการสร้างของ ef – a tale of memories / melodies และนอกจากนั้นเค้ายังเป็นผู้กำกับ Sayonara Zetsubou Sensei อีกด้วย!! หนีกันไม่พ้นนี่เอง
ดาวน์โหลดเทรลเลอร์ ef – a tale of melodies