142 | ef#2


เอนทรี่นี้เป็นเอนทรี่แบบเร่งด่วนหลังจากดู ef ตอนที่ 11 และแน่นอนว่ามันต้อง Spoil นี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย ใครที่อยากได้อรรถรสสูงสุดในการรับชม ef : a tale of memories. ขอให้หลีกเลี่ยงการอ่านข้อความตั้งแต่ย่อหน้าถัดไป
อย่างที่ผมเคยบอก บางครั้งการรับชมเนื้อหาโดยเว้นระยะที่เหมาะสมก็ทำให้เรื่องราวมันสนุกขึ้นไปอีก หลังจากจบเรื่องราวของมิยาโกะไปแล้วก็เหลือเรื่องราวของจิฮิโระที่ซึ่งไม่มีในเกม จริงๆเรื่องราวของมิยาโกะนั้นก็มีในเกมอยู่แล้วใครที่เคยเล่นเกมก็พอจะรู้เนื้อหาส่วนใหญ่ แต่สำหรับจิฮิโระนั้นในเกมยังไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวส่วนนี้ออกมา (จะออกในครึ่งหลังซึ่งยังไม่ได้วางจำหน่าย) จึงเป็นจุดสำคัญที่ให้อนิเมเรื่องนี้น่าติดตามทั้งๆที่สร้างมาจากเกม

อย่างที่รู้ๆกันว่าจิฮิโระเป็นโรคความจำสะท้อน (ไม่รู้จะเรียกอะไรเหมือนกันดี) คือสมองจะสามารถจดจำความทรงจำได้เพียง 12 ชั่วโมงและจากนั้นก็จะค่อยๆลืมและก็หายไปทั้งหมดในตอนเช้า ทุกเช้าของจิฮิโระก็จะเหมือนกันตลอดกาล เป็นเด็กอายุ 12 ที่ตกใจกับร่างกายของตัวเองที่กลายเป็นผู้ใหญ่ ร้องเรียกหาพี่สาวและพี่ชาย(ไม่แท้) จากนั้นก็ตกใจกับบาดแผลที่ตาข้างซ้ายของตัวเองแล้วก็ร้องไห้เหมือนเด็กๆ จิฮิโระจะสานต่อความทรงจำของชีวิตด้วยไดอารี่ของตัวเอง ในเล่มนั้นจะบันทึกเรื่องราวที่พบเจอในแต่ล่ะวันเพื่อให้ “ตัวเองในวันพรุ่งนี้” ได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ เมื่อจิฮิโระได้พบกับเรนจิ ไดอารี่ของจิฮิโระก็เต็มไปด้วยเรื่องราวของเรนจิ ความสุขที่ได้พบเจอกัน จิฮิโระตัดสินใจเขียนนิยายเรื่องนึงซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพยายามจะทำ แต่เหมือนว่าได้พยายามมามากกว่า 30 ครั้งในช่วง 4 ปี ซึ่งไม่มีครั้งในเลยที่สำเร็จ แต่ที่ไม่เหมือนครั้งก่อนๆก็เพราะว่าคราวนี้มีเรนจิคอยช่วยและให้กำลังใจ ถ้าไม่รู้จักกับความสุขก็จะไม่รู้จักกับความทุกข์ ถ้าไม่รู้จักกับความอบอุ่นก็จะไม่รู้จักความเหงา เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างเรนจิกับจิฮิโระได้พัฒนาจนถึงจุดจุดนึง จิฮิโระเขียนนิยายจบและมอบให้เรนจิอ่าน จากนั้นตัดสินใจฉีกไดอารี่ส่วนที่บันทึกเรื่องราวระหว่างตัวเธอกับเรนจิและปล่อยทิ้งไปจากดาดฟ้าของโรงเรียน เพราะว่าเธอไม่อยากให้เรนจิต้องลำบากเพราะเธอ เพราะอาการป่วยของเธอ สำหรับเธอมันเพียงพอแล้วสำหรับสิ่งที่ได้รับ เพราะเธอได้รู้จักกับความสุขจึงรับรู้ถึงความทุกข์ของตัวเอง ไดอารี่ที่ปลิวตามลมลอยไปทั่วท้องฟ้า จิฮิโระในวันพรุ่งนี้จะไม่รู้จักเรนจิอีกต่อไป เรื่องราวจะจบลงอย่างไร นี่เป็นตอนจบของตอนที่ 11 เรื่องเศร้าของชายหญิงที่ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไรและดูไร้ทางออก

เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้
กรณีความทรงจำสะท้อนไม่ได้พบในเรื่อง ef เป็นเรื่องแรก ก่อนหน้านี้มีหนัง Romatic Comedy เรื่องนึงชื่อ 50 first date แสดงโดย Draw Barrymore ก็เป็นโรคเดียวกับจิฮิโระ ทุกเช้าของเธอจะเหมือนเดิม แต่หนังเรื่องนี้เป็นหนังตลกเฮฮา ในตอนจบพระเอกใช้วิธีวางโน๊ตให้นางเอกทุกครั้งที่ตื่นนอนทำตาม แล้วก็ไปดูวิดีโอเรื่องราวความสุขระหว่างเธอกับพระเอกที่แต่งงานกันแล้ว และเป็นอย่างนั้นทุกวันจนกระทั้งแก่เฒ่าไปด้วยกัน และอีกเรื่องก็คือ Memento เป็นหนังปี 2000 พระเอกเป็นโรคความจำสั้น ไม่เหมือนจิฮิโระแต่ว่าคล้ายๆ โดยพระเอกจะจำได้ราวๆ 3 ชั่วโมง (รายละเอียดจำไม่ได้ อาจผิดพลาด) พระเอกจะลืมทุกอย่างไปเรื่อยๆและก็จำสิ่งใหม่ๆแทนที่ ไม่มีการรีเซ็ต ดังนั้น อะไรที่จำเป็นต่อชีวิตพระเอกจะสักไว้บนตัว จุดหักมุมของเรื่องคือพระเอกที่ตามล้างแค้นให้ภรรยา สุดท้ายล้างแค้นสำเร็จและพบว่าภรรรยาตนเองไม่ได้ตาย แต่โดนตัวเองหลอกให้ตัวเองล้างแค้นเพื่อเป็นเป้าหมายในชีวิต พอหมดสิ้นเป้าหมายในชีวิต ก็เลยหลอกตัวเองอีกครั้งและก็ออกล้างแค้นให้ภรรยาอีกรอบ…..
จากตัวอย่างทั้งสองและดูจากคอนเซ็บของเรื่อง ปาฏิหารย์ที่จะให้จิฮิโระหายนั้นแทบไม่มีแน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับว่าตัวละครทั้งสองจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างไร และเรื่องราวก็ดำเนินไปจนถึงจิฮิโระทำลายไดอารี่ไปแล้ว ตัวตนของเรนจิจะทำอย่างไร มีทางเลือกไม่มากนักที่เรนจิจะทำได้
-อย่างแรก ปาฏิหารย์จิฮิโระหาย-
ปาฏิหารย์ไม่มีอยู่ในอนิเมเรื่องนี้ ความจริงที่ต้องเผชิญคือสิ่งที่อนิเมเรื่องสื่อมาตลอด ดังนั้น ข้อนี้ตกไปเลย
-อย่างที่สอง เรนจิรวบรวมไดอารี่กลับมา-
ถ้าพยายามสื่อให้ซึ้งโดยให้เรนจิรวบรวมไดอารี่กลับมาจากที่ต่างๆ แล้วมอบให้จิฮิโระอีกรอบ ในความรู้สึกผม เรนจิจะค้นพบว่าตัวตนของเค้าเป็นเพียงตัวหนังสือในหน้ากระดาษ มันช่างล่องลอยและเปราะบางเหลือเกิน และเป็นไปได้ว่าจิฮิโระอาจจะทำลายมันอีกครั้งได้ไม่ยาก ตอนจบแบบนี้เป็นไปได้ แต่ไม่น่าจะเป็น
-อย่างที่สาม ทางใครทางมัน-
อันนี้คิดว่าคงไม่มีทาง มันเศร้าเกินไป เรนจิอาจจะมีทางออก แต่จิฮิโระไม่มี และเรนจิก็คงมีแผลในใจที่ลึกสุดหยั่ง ถ้าเป็นแบบนี้จิฮิโระอาจจะตายด้วยซ้ำ แต่เรื่องเศร้ามันมากเกินไปแล้ว อนิเมเรื่องนี้ถึงจะหดหู่แต่ว่าไม่สิ้นหวัง คิดว่าไม่น่าจะใช่
-อย่างที่สี่ เรนจิคุงทุกทุกวัน-
ข้อนี้คิดว่าเป็นไปได้สูงสุด เรนจิจะไปทำความรู้จักกับจิฮิโระอีกครั้ง และอีกครั้ง และตลอดไป เป็นทางออกที่ดูจะมีความหวังและมีความสุขที่สุดแล้ว แต่อยู่ที่ว่าจะนำเสนอได้อย่างไรเท่านั้น และพอดีมีคนบอกว่าพบความเห็นอันนึง (น่าเสียดายที่ไม่ได้คิดออกเอง) จาก 2ch คือทางออกของเรนจิกับจิฮิโระด้วยวิธีที่น่าสนใจและสมเหตุสมผล
ในเมื่อจิฮิโระเขียนนิยายของเธอจบลง ก็เหมือนหลุดพ้นจากพันธนาการ 12 ชั่วโมง ก็ถึงคราวที่เรนจิจะต้องเป็นคนทำบ้าง เรนจิจะเขียนเรื่องราวความรักของตัวเขาและจิฮิโระขึ้นมา และนำมาไปให้จิฮิโระอ่านทุกครั้งที่ได้รู้จักกัน ฟังดูเป็นทางออกที่สว่างไสวและเข้ากับเรื่องราวอย่างมาก เรนจิเคยพูดอยู่เสมอว่าอยากจะเขียนนิยายมั่ง แต่ก็ไม่ได้ลงมือซะที (หรืออาจจะลงมือไปแล้ว) จิฮิโระรับรู้เรื่องราวทั้งหมดผ่านทางหนังสือตลอด ไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่านี้ และในตอนต้นของตอนที่ 1 เรนจิพูดกับตัวเองว่า “นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเธอ เพียง 45 วินาทีเท่านั้นที่ได้พบกัน” ประโยคนี้ฟังดูเป็นการบอกเล่ามากกว่าพูดกับตัวเอง ซึ่งนั่นอาจจะเป็นประโยคนึงในนิยายของเรนจิ และในโปรล๊อกของเรื่อง เรนจิพูดกับจิฮิโระว่า “เรามาเป็นเพื่อนกันได้มั้ย” ซึ่งจริงๆแล้วประโยคนี้จิฮิโระเป็นคนพูด การที่เรนจิพูด เป็นการสื่อนัยๆว่านั่นไม่ใช่การพบกันครั้งแรก แต่เป็น​ “อีกครั้ง” ที่ได้พบกัน และครั้งนั้น เรนจิเป็นฝ่ายพูดก่อน
ยังไงเสียตอนจบของ ef ก็จะฉายในคืนพรุ่งนี้แล้ว การคาดเดา (โดยคนอื่น) จะถูกหรือผิดก็จะทราบกันในไม่ช้า แต่จะเสียอย่างไรก็ตามอนิเมชั่นเรื่อง ef ก็จะเป็นอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมในใจผมแน่นอน

Shaft นี่ถ้ามันไม่ได้ล้อชาวบ้านแล้วจะอกแตกตายกระมัง
เกร็ดเล็กๆน้อยๆเพิ่มเติม ชื่อตอนของ ef
1. eve
2. upon a time
3. paradox
4. honestly
5. outline
6. rain
7. I…
8. clear color
9. forget me not
10. I’m here
11. ever forever
12. love
อ่านแต่ตัวแรกจะออกมาเป็น Euphoric Fiel(d) ชื่อเพลง OP สุดเจ๋ง ถึงจะยังขาดตัว D อีกก็เถอะ…ไม่รู้ว่าจะเก็บตัว D ไว้ทำอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า

2 thoughts on “142 | ef#2”

  1. เนื้อเรื่องในเมะแรงโคตร แต่ละคนชีวิตมันโหดร้ายจริงๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *