เกริ่นก่อนว่าผมไม่ใช่คนที่ปั่นจักรยานเป็นงานอดิเรก แบบวันหยุดแต่งเต็มยศกางเกงรัดติ้วออกไปปั่น ถ่ายรูปชิคๆ ทำหน้าฟินๆ แวะดูดกาแฟแล้วบอกว่า This is My Life อะไรทำนองนี้ ผมใช้จักรยานปั่นไปทำงานเพื่อหนีรถติด วันหยุดผมไม่เคยถีบจักรยานออกไปไกลเกินเซเว่นปากซอย ขอกูนอนอยู่กับบ้านเท่านั้นก็พอแล้ว แล้วถามว่าทำไมถึงไปแบบนี้? เออว่ะ ไปทำไมวะ ฮ่าๆ นอกจากการโดนป้ายยาแล้วก็คงเป็นความรู้สึกอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงนั่นแหละ
ทริปนี้ผมไปทั้งหมด 10 วัน ใช้เงินราวๆ 45,000 บาท นอนสนามบิน 1 คืน นอนเกสเฮาส์ 1 คืน นอกนั้นเป็น Air BNB ทั้งหมด ปั่นจักรยานไปราวๆ 350 – 400 กิโล เส้นทางการเดินทางคือ สนามบินคันไซ → ฟุคุยาม่า → โอโนมิจิ → อิมาบาริ → โอโนมิจิ → เกียวโต → โอซาก้า → สนามบิน ขึ้นรถไฟจากสนามบินไปฟุคุยามะ กับ จากโอโนะมิจิไปเกียวโต แล้วก็จากนัมบะ(โอซาก้า)ไปสนามบิน มีนั่งเรือจากอิมาบาริไปฮาคามะ เพื่อลดเส้นทางการปั่นด้วยนิดหน่อย
สิ่งที่ประทับใจ
อืม… น่าจะเป็นชิมานามิ เพราะเกิดมาไม่เคยออกทริป ไม่เคยปั่นไกลเกิน 40 กิโล มาเจอเส้นทางนี้ก็ถือว่าเอาเรื่องอยู่ (เรียกว่าไม่ประมาณตัว) โดยปกติผมก็ไม่ใช่สายสปอร์ทแมนอะไรอยู่แล้วด้วย… พอผ่านไปได้ก็เลยรู้สึกว่า เห้ยคนอย่างกูก็ทำเรื่องแบบนี้ได้เว้ย ส่วนที่เที่ยวที่ประทับใจก็เป็นอาราชิยามะกับวัดนิซง อาราชิยามะคนเยอะไปหน่อย แต่ภูเขาสวย ต้นไม้สวย วัดนิซงจริงๆ ไม่มีอะไรเลย คนก็ไม่ค่อยเข้ามา แต่ชอบเพราะไม่มีอะไรเลยนี่แหละ มีแต่ต้นไม้ พวกวัดยอดนิยมนี่ไม่ชอบเท่าไหร่ ส่วนเส้นทางปั่นนอกจากชิมานานิ ที่รู้สึกว่าปั่นแล้วรู้สึกดีก็มีเส้นจากศาลเจ้าอินาริไปอุจิ ไม่มีไฟแดง ถนนเรียบ มีรถยนต์นิดหน่อย ลมเย็นๆ เพลินดี
สิ่งที่ไม่ประทับใจ
การปั่นจักรยานในเมือง พวกเว็บแนะนำการท่องเที่ยว ชอบบอกว่าญี่ปุ่นเป็นแดนจักรยาน ปั่นสบาย ปลอดภัย ก็ยอมรับว่าปลอดภัยจริงแหละ แต่มันไม่ได้สบายเลย ประเทศเชี่ยนี่เป็นประเทศที่ไฟแดงเยอะมาก เยอะเหี้ยๆ ยืนกลางถนนมองไปจะเห็นไฟแดงซ้อนกัน 10 อันเป็นเรื่องปกติ เวลาเจอแยก จักรยานจะต้องเอี้ยวหลบเข้าไปข้ามทางม้าลายในซอย และก็ต้องรอไฟแดงด้วย ทำให้ต้องปั่นๆ หยุดๆ ทำความเร็วไม่ได้ และถ้าปั่นบนฟุตบาทก็จะต้องคอยหลบคน ซึ่งคนแม่งเยอะมาก เยอะมากๆ ทำให้ต้องใช้สมาธิตลอดเวลาและเครียดกว่าปกติ แต่พวกเส้นชานเมืองหรือเลียบแม่น้ำนี่ดีเลย ไปได้เรื่อยๆ ชิลๆ อีกอย่างที่ไม่ประทับใจเลยก็คือถังขยะอยุ่ไหนวะ!
ความผิดพลาด
แน่นอนว่าเป็นทริปที่ไปคนเดียว จึงพยายามวางแผนให้รัดกุม ผิดพลาดน้อยที่สุด ก็ไม่มีอะไรผิดพลาดใหญ่ๆ รถไม่พัง ยางไม่รั่ว ไม่ล้มหัวทิ่มเจ็บตัว แต่ก็มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าจะบันทึกเอาไว้
เน็ทซิมของ AIS
ผมใช้ซิมทูฟลายของ AIS แต่มันใช้ได้แค่ 8 วัน ผมจึงเติมเงินไว้ 150 บาทเพื่อซื้อวันเพิ่มอีก 2 วัน ผมกดซื้อวันเพิ่มตอนที่ถึงสนามบินคันไซ แต่วิธีคิดวันเพิ่มของซิมทูฟลายจะคิดทันทีที่กดโปร ดังนั้นวันมันก็ไปซ้อนกับ 8 วันปกติ ไม่ได้วันเพิ่ม ต้องฝากให้คนที่ไทยซื้อบัตรเติมเงินอีก 100 นึงมาเติม แล้วกดซื้อวันตอน 2 วันสุดท้ายที่โอซาก้าแทน
การประเมินขีดความสามารถของตัวเอง
ก่อนจะไป ผมใช้วิธีคิดว่าจากที่พักระยะไม่เกิน 15 กิโล คือขอบเขตที่เดินทางได้สบายๆ หรือเส้นชิมานามิ มีระยะทางเท่าไปกลับทำงานปกติ x 3 เท่านั้น ซึ่งมันเป็นวิธีที่ผิด! มันมีตัวแปรมากกว่านั้นเยอะ และตัวแปรเหล่านั้นผมก็ไม่เคยใส่ใจมาก่อน ตัวแปรอย่างแรกคือ เนิน ผมไม่เคยขึ้นเนิน แต่ญี่ปุ่นแม่งเนินเยอะ ที่พักที่เกียวโตอยู่บนภูเขา (ยิ่งกว่าเนิน) แค่กลับที่พักก็ทำเอาแทบจะเป็นลม (ไม่เคยรู้สึกว่าจานหน้า 3 ใบมันมีประโยชน์ก็จนตอนนี้แหละ) เส้นชิมานามิก็เนินเยอะ ไอ้ที่ประเมินไว้ว่า “ไปกลับที่ทำงาน x 3” นั้นห่างไกลความจริงไปเยอะมาก… ตัวแปรอย่างที่สอง ลม อันนี้ไม่ค่อยได้มีผลในเมือง แต่มีผลมากที่ชิมานามิ ลมต้านบนสะพานสุดท้ายทำเอาเสียน้ำในร่างกายไปเยอะจนแทบเป็นลม แถมยังซวยที่น้ำดื่มหมดอีก… ตัวแปรอย่างสุดท้ายคือไฟแดง ในตัวเมืองมีแต่ไฟแดง การปั่นๆ หยุดๆ ทั้งช้า ทั้งกินเวลา ทั้งเหนื่อย ทั้งใช้สมาธิ เส้นทางแค่ 12 กิโลที่ปกติสามารถปั่นได้ขำๆ อาจจะต้องใช้เวลาถึงชั่วโมงครึ่งแทน
ส่วนของโอตาคุ
ไปเดนเดนทาวน์ในโอซาก้าแล้วรู้สึกว่าการเป็นโอตาคุเนี่ย ขนาดในญี่ปุ่นเองยังไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สินค้าอะไรก็ต้องหาเฉพาะที่ อนิเมก็หาดูยาก การ์ตูนที่ขายทั่วไปก็มีแต่พวกโชเนน ยิ่งร้าน 18+ นี่อย่างกับดันเจี้ยนลับหลังประตูล่องหน สินค้าก็มีลักษณะของมัตสึริ คือเป็นเทศกาล มีแต่ของที่โปรโมทในเวลานั้น ของเฉพาะกลุ่มจะหายากมาก ผมไม่เจอสินค้า FF14 เลยสักอย่าง สินค้า Bakemonogatari ยังพอมีแต่ก็น้อยมาก ทั้งเดนเดนมีแต่คังโคเระกับเลิฟไลฟ์ ถ้าตามสถานที่ปกติก็มีแต่โฆษณา DQXI กับ คิมิโนะนะวะ สองอย่าง โอตาคุออนไลน์เป็นวัฒนธรรมที่น่ากลัวมาก เพราะมันเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลา
ส่วนถ้าถามว่าคุ้มมั้ย ก็ตอบว่าคุ้มมากครับกับทริปนี้ แต่ถ้าถามอีกว่าแล้วจะไปอีกมั้ย ก็ตอบได้เลยว่าไว้ก่อนละกัน….orz
จาก Entry หน้าจะเขียนเป็นแบบ Diary แต่ละวันล่ะ