ตอนนี้จักรยานโทรม(มาก) เลยเริ่มสำรวจหาร้านจักรยานซ่อม ตัวเลือกก็มี ร้านแถวบ้าน→ห่วย ขายของโก่งราคา คนงานพม่า ร้านแถวบ้านสอง→บังพูดมากนิสัยดีแต่ร้านเล็กของน้อย ร้านระหว่างทาง→โอเคอยู่แต่ปิดไวไม่มีโอกาสแวะ ร้านระหว่างทางอีกร้านนึง→เหมือนจะดีแต่พอมีปัญหาแล้วพูดจากหมาไม่แดก ร้านใกล้ออฟฟิศที่เคยแวะไปบ่อยๆ ร้านใหญ่ พนักงานคุยรู้เรื่อง แมวน่ารักฟัดมันมาก→เจ๊ง จนวันก่อนผ่านไปตรงเดอะซีน เจออีกร้านที่เป็นคาเฟ่และจักรยานในร้านเดียว ตอนแรกไม่กล้าเข้าไปเพราะมองไปเห็นแต่ลูกค้าคาเฟ่ โซนจักรยานดูเงียบๆ จนกระทั่งวันนึงจักรยานยางรั่วแต่ก็ลากไถไปถึงออฟฟิศ แล้วก็เลยเปลี่ยนยางสำรองที่ออฟฟิศ จากนั้นก็พยายามปะยางเก่าที่รั่วและสลับยางนอก ซึ่งไม่รู้ว่าทำยังไงแม่งเก่งฉิบหาย ยางที่ไม่รั่วก็กลับรั่วขึ้นมาด้วย…. แถมพอไอ้ที่พยายามปะก็ไม่อยู่อีก ขลุกอยู่ครึ่งวันทำไงก็ไม่สำเร็จ (งานไม่ทำละเห้ยมึง) เลยเดินไปร้านจักรยานร้านที่เป็นคาเฟ่นี่ สอยมาทั้งยางนอกยางใน ยางนอกเป็นแบบ Extra Thick หน้าพิเศษ รูปภาพประกอบว่าเหยียบหมุดทั้งดุ้นก็ยังไม่ถึงยางใน หิ้วกลับมาเปลี่ยนเองใช้งานได้ดีไม่มีปัญหา จากเหตุการณ์นี้เองทำให้รู้ว่า แถวออฟฟิศยังมีร้านจักรยานให้พึ่งพายามยากอยู่
วันนึงจักรยานมันก็เน่าถึงระดับว่าถ้ายังหน้าด้านใช้ต่ออาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ก็กลับไปที่ร้านคาเฟ่นี้อีกครั้ง แวะไปครั้งแรกเจอแต่พนักงานเฝ้าร้านที่ไม่ค่อยจะมีความรู้เกี่ยวกับจักรยานเท่าไหร่ คุยๆ ถามราคาก็ตอบไม่ค่อยได้ ก็เลยให้เบอร์ไว้เค้าบอกว่าจะติดต่อมา สามสี่วันต่อมาก็มีคนโทรมาบอกราคา ทีนี้เลยถามอย่างอื่นเพิ่ม เค้าก็บอกว่าขอไปเช็คก่อน ผ่านไปอีกหลายวันโซ่จักรยานมันก็แดกเฟืองเข้าไปเรื่อยๆ ด้วยความเป็นคนไม่ชอบโทรศัพท์ ก็เปิดเพจของร้านจักรยานคาเฟ่นี้ แล้วส่งข้อความไปหาว่าที่ถามราคาเป็นไงมั่ง ปรากฏว่าแป๊บเดียวตอบแฮะ แถมตอบยาวและไวด้วย คุยไปคุยทางนั้นก็โม้ใหญ่ ผิดวิสัยการคุยด้วยข้อความกับเพจพวกนี้มาก สุดท้ายถามว่าเอาไงดี เข้าไปให้ดูอีกรอบมั้ย ก็โอเคเข้าไป
ไปถึงไม่มีใคร รอแป๊บนึงเจอไอ้เด็กเฝ้าร้านที่ไม่ค่อยรู้เรื่องคนเดิมมารับหน้าก่อน สักพักเจ้าของร้านตัวจริงก็มา เท่านั้นแหละ พูดไม่หยุดเลย เฉ่งทุกอย่าง ขับยังไง ดูแลมั่งมั้ย ต้องหมั่นล้างโซ่หมั่นเปลี่ยนโซ่ หยอดน้ำมัน เช็คนิสัยการขี่ หยอดจารบีมั่งมั้ย ล้างยังไง ได้แกะออกมามั่งมั้ย จักรยานผมนะ 27 ปีสภาพยังนิ้ง (จริงๆ ก็อยากขัดคออยู่ คือพี่มีจักรยานประมาณ 15 คันได้…แต่ยอมละกัน) มีหยิบอุปกรณ์เสริมประกอบการทอล์คโชว์ จานหน้าของลูกค้าที่ใช้ไม่ดูแล โซ่กินซี่เฟืองจนแหลมอย่างกับชูริเคน ใช้เป็นพร๊อบคอสเพลย์นารุโตะปล่อยกระสุนวงจักรได้เลย จากนั้นผมก็นั่งฟังเล็คเชอร์จากทั่นเจ้าของร้านร่ายยาวร่วม 30 นาที… ดูเค้ามีความสุขมากเลยในการเฉ่งนักขี่จักรยานที่ไม่ดูแลรักษาของ ฟังไปฟังมาเริ่มเคลิ้ม รู้ตัวอีกทีก็ตกลงราคาที่ 2,800 ไปเรียบร้อยเว้ยเฮ้ย…
ตกลงว่าจะเปลี่ยนโซ่ เปลี่ยนเฟืองหลัง เปลี่ยนผ้าเบรค สลิงสี่เส้น แล้วก็ถอดล้างประกอบทั้งคัน ทิ้งไว้วันนึง แต่ยังไม่ได้ทำนะ รอสั่งของก่อน เจ้าของร้านคุยไว้ว่าทำแล้วจะรู้สึกได้เลยว่ามันแน่นไปหมด ในเพจร้าน เจ้าของจะพูดเหมือนคิวล้างเค้าเยอะมาก งานพี่เนี๊ยบสุดๆ ทำทีละคัน ทำด้วยใจ แต่ผมไปถึงนัดวันไหนก็ได้หมด(ฮา)… ส่วนตัวคิดว่าร้านนี้ในส่วนจักรยานไม่ได้มีลูกค้ามากนัก นอกจากเจ้าของร้านแล้วพนักงานในร้านไม่สามารถถอดจักรยานได้เลย (ให้เปลี่ยนยางก็ทำไม่ได้) แสดงว่างานล้างทั้งหมดเจ้าของร้านก็ทำเอง คิดว่าคงเป็นรสนิยมความชอบส่วนตัวถึงได้เปิดร้านแบบนี้ รายได้หลักอาจจะมาจากส่วนของคาเฟ่ (หรืออย่างอื่น เพราะคาเฟ่ก็ดูไม่ค่อยมีคนเหมือนกัน) แต่ดูลักษณะอะไรแล้ว ร้านค่อนข้างตกแต่งสวย แบ่งโซนแลดูดี อุปกรณ์ดูใช้งานตลอด ก็รอดูละกันว่างานจะออกมาเป็นยังไง
ด้วยจรรยาบรรณ(?)จึงไม่อาจเปิดเผยชื่อร้านได้
ปล. เอ็นทรี่นี้เป็นส่วนขยายของที่เขียนในเฟสบุ๊ค
Update
ไปรับจักรยานมาแล้วครับ ลื่นหัวแตก(อุปมาอุปมัย ไม่ได้หัวแตกจริงๆ) จำไม่ได้เลยว่านี่เหรอรถกูที่เน่าๆ คันนั้น เบรคลื่นกระชับ เกียร์เปลี่ยนได้ดังใจ โซ่แวววาว ล้อแน่น โอคุณพระ เฮียนี่ของจริง พี่ไม่ได้มาเล่นๆ แอบไปเช็คโปรไฟล์เจ้าของร้าน ไม่ธรรมดามากๆ… ไว้จะมาซ่อมบำรุงกับเฮียอีก
เข้ามาอ่านหลังจาก edit แล้ว ต้องบอกว่าสมราคาคุยจริงๆสินะ XD
ถึงแม้ให้พนักงานที่ไม่รู้เรื่องจักรยานเลยแต่เฝ้าร้านอยู่รอดได้ ก็แปลว่าโซนจักรยานคงไม่มีใครสนใจจริงๆ ^^;;