511 | Heavensward III

Heavensward Expansion สามารถเล่นจบได้อย่างรู้สึกว่าจบจริงๆ มี End Credit อะไรเรียบร้อย (เหมือน A Realm Reborn) สำหรับเนื้อเรื่องภาคนี้ทำได้ดีขึ้น เข้าใจง่ายขึ้นและก็แฟนตาซีอลังการมากขึ้น ไม่ค่อยมีปมการเมืองหรือวิ่งไปวิ่งมาเจ๊มินสั่งแล้ว ภาคนี้จะเป็นการเดินทางไปเรื่อยๆแทน จริงๆแก่นหลักของเนื้อเรื่องจะคลาสสิคมาก เหมือน FF ยุค 8 บิท 16 บิท มีมังกร มีอัศวินมังกร มีเรือเหาะ มีบาเรีย แล้วก็มาขยายเรื่องราวรายละเอียดและเหตุผลลงไป เล่นจบไปแล้วกลัวว่าเวลาผ่านไปแล้วจะลืมอีก ก็เลยขอสรุปเรื่องย่อเก็บไว้ดังนี้
หลังจากที่โดนตราหน้าว่าเป็นฆาตกรลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาทนานาโมแล้ว นักรบแห่งแสงก็หนีไปที่ Ishgard ซึ่งทางนั้นก็หาได้แคร์เรื่องคดีที่ก่อไว้ไม่ หนึ่งในตระกูลใหญ่ทั้ง 4 ได้รับดูแลเรา แล้วก็จับเราใช้สอยทำโน่นทำนี่ไปตามประสานักรบแห่งแสงผู้รับผิดชอบงานจิปาถะได้ทุกอย่าง เราก็ได้สืบหา Iceheart หรือ Ysayle แล้วได้พบว่าจริงๆเธอไม่ได้ต้องการก่อความวุ่นวาย แต่เธอต้องการจะหยุด Dragonsong War ที่ดำเนินมาพันปี ไปๆมาๆเราเลยต้องออกเดินทางตามหามังกรเทพ Hresvelg กับ Ysayle และ Estinien (อัศวินมังกร)เพื่อหยุดสงครามพันปี ซึ่งทั้งสองคนแม้จะเป้าหมายเดียวกันแต่อุดมการณ์ต่างกันสุดขั้ว Ysayle ต้องการให้มนุษย์กับมังกรอยู่ร่วมกันเพื่อจบสงคราม แต่ Estinien ต้องการฆ่า Nidhogg เพื่อจบสงคราม ก็เดินทางไปกัน ตีมดกระทืบมังกรจนถึง Churning Mist ก็ได้พบกับ Hresvelgr และได้พบกับความจริงต้นกำเนิดสงครามพันปี เมื่อพันปีก่อนมังกรกับมนุษย์ไม่ถูกกัน วันนึง Shiva เกิดสนิทสนม(พบรัก?)กับ Hresvelgr แต่มนุษย์มีอายุขัยจำกัด พอ Shiva รู้ว่าตัวเองจะตายก็เลยบอกให้ Hresvelgr กินเข้าไปจะได้อยู่ร่วมกัน ด้วยความซาบซึ้งมังกรกับมนุษย์ก็อยู่ร่วมกันสมานฉันท์ได้
แต่วันนึง อัศวินมังกรของ Ishgard โดนยุแยงจาก Ascion จนไปจับ Ratatosk มังกรน้องสาวของ Nidhogg มาทรมานแล้วฆ่า(ไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าทำอะไรมั่ง) Nidhogg โกรธมาก(เป็นซิสคอน?)เลยไปถล่ม 12 อัศวินของ Ishgard ตายห่าไปครึ่งหน่วยแต่ก็เสียทีโดน Haldrath ผู้ได้รับฉายาว่า Azure Dragoon ซึ่งเป็นลูกของราชา Thordan ที่ 1 ของ Ishgard ควักดวงตาไปสองข้าง พอเจ็บหนัก Nidhogg ก็กลับไปหา Hresvelgr ให้ช่วย Hresvelgr สงสารก็เลยมอบดวงตาตัวเองให้ไป 1 ข้าง Nidhogg พอได้ตาก็ประกาศว่าลูกหลาน Ishgard จะต้องไม่ได้ตายดี ขอจองเวรทำสงครามด้วย ก็ก่อกำเนิดเป็นสงครามพันปีจนถึงปัจจุบัน
พอ Hresvelg เล่าจบ Ysayle เลยบอกว่าตัวเองเป็น Shiva กลับชาติมาเกิด อยากให้มังกรกับมนุษย์อยู่ร่วมกันเหมือนแต่ก่อน แต่ Hresvelgr ปฏิเสธบอกว่า Ysayle ไม่ใช่ Shiva จิตวิญญาณของ Shiva อยู่ร่างของ Hresvelgr เธอที่สามารถเป็นร่างทรง Shiva ได้เกิดทับซ้อนตัวเองลงไปเอง Ysayle ก็เลยเสียใจชีวิตออกจากตี้ไป เรากับ Estinien เดินทางต่อ คราวนี้เล่นแผนง่าย จะหยุดสงครามก็ต้องไปกระทืบ Nidhogg สิ ด้วยพลังนักรบแห่งแสง น้องนิดหรือจะทนมือทนตีเราได้ กระทืบเสร็จ….แล้วไงต่อวะ ก็เดินทางกันต่อ ไปเจอซากเมือง Sharayan บ้านเกิด Alphinaud กับ Alisaie (เอ้อเกือบลืมบอก ตลอดทางนี้ Alphinaud ก็มาด้วย)

เอ้อ ระหว่างนั้นมันก็มีการกลับไปเคลียร์เรื่องลอบสังหารนานาโมด้วย เราจะกลับไปช่วยลุงรูบานแล้วสืบต่อพบว่าความจริงนานาโมยังไม่ตาย เป็นแผนของทารุหนวดที่เปลี่ยนยาพิษเป็นยานอนหลับหลอกให้คนที่คิดร้ายองหงิงแสดงตัว แต่รูบานแม่งใจร้อนฟันขาดครึ่งไปแทน รูบานเห็นองหงิงไม่ตายปุ๊บอะไรกูก็ยอมหมด เป็นอันว่าชื่อเสียงของนักรบแห่งแสงก็ถูกชำระล้างด้วยประการนี้ ทางด้าน Alphinaud​ (อ่านว่าอัลฟิโน) ถึงจะเคลียร์เรื่องราวได้แต่ก็เสียใจที่กลุ่ม Crystal Braves ถูกใช้เป็นเครื่องมือในทางชั่วร้าย ก็เลยตัดสินใจสลายกลุ่ม เหล่า Crystal Braves ที่ยังจงรักภักดีอยู่ก็เข้าใจและสลายกลุ่มแต่ว่ายังเป็นสหายกันตลอดไป

หลังจากนั้นพวก Thordan VII มันจะเริ่มมีพิรุจว่าแอบคุยลับๆล่อๆกับ Ascion แถมมีข่าวลือว่า Aymeric เป็นลูกของ Archbishop อีก แล้วก็โดนจับตัวไป เราก็บุกไปช่วยแต่สุดท้ายพี่ไม่หล่ออย่าง Haurchefant ก็ต้องเสียสละชีวิตไป… พวก Thordan VII ก็มุ่งหน้าไป Azys Lla ทวีปเกาะลอยฟ้าที่ Allagan สร้างเอาไว้ (Allagan ในอดีตแม่งยิ่งใหญ่มาก…สร้างไว้ทุกอย่าง) หวังจะเคลมพลังของ Warring Triad ซึ่งคือ Primal ตัวแรกที่จักพรรดิ์ของ Allagan จับได้ เราก็ตามไป แต่ไปไม่ได้เพราะเรือเหาะติดบาเรีย ก็ต้องไปหายาย Matoya อาจารย์ของ Y’stola ซึ่ง Y’stola เจ๊วาร์ปหนีไปไม่ดูตาม้าตาเรือจุดหลุดไปอยู่ในไลฟ์สตรีมร้อนถึงเรากับท่าน Kan E Senna ช่วยออกมา (ชุดใหม่ของ Y’stola เด็ดมาก) พอได้วิธีอัพเกรดเรือเหาะมาแต่กลับไม่มีแหล่งกำเนิดพลัง ก็เลยใช้พลังของลูกตา Nidhogg ที่ Estinien มันเก็บไว้ในการทะลวงบาเรีย แต่อนิจจาเรื่องยังไม่ง่าย พวก Garland Empire ก็หวังสมบัติใน Azys Lla เหมือนกัน ก็เลยมาเจอกัน ทันใดนั้น Iceheart ที่คิดว่าเฟลชีวิตแล้วก็โผล่มาโดย Hresvelgr มาส่ง Iceheart แปลงร่างเป็น Shiva บู๊กับกองเรือของ Garland เสียสละตัวเองให้นักรบแห่งแสงขึ้น Azys Lla สำเร็จ
เดินๆไป พอถึงช่วงท้ายของเกาะลอยจะได้เจอกับ…เทียแมทป่ะวะ ลืมแล้ว แต่ Midgardsorm จะโผล่มาแล้วเล่าให้ฟังว่าเมื่อนานนนนนมาแล้ว Midgardsorm ได้เดินทางมายังดาวดวงนี้พร้อมกับไข่ 7 ใบ ไข่แต่ละใบฟักก็ออกมาเป็นมังกรเทพ (Bahamut, Tiamat, Nidhogg, Hresvelg, Ratatosk นับมั้ย? ขาดอีก 2 ตัว สรุปได้ว่า…มังกรคือเอเลียนมาจากต่างดาว!? และ Midgardsorm เป็นตัวผู้ ไข่นี่ก็ไม่ใช่ไข่มัน แถมบาฮามุทยังเป็นแฟนกับเทียแมทอีก…. บาฮามุทที่เราสู้ก็อาจจะเป็นเพียงสิ่งที่ Allagan ลอกเลียนแบบมาเท่านั้น) พอฟังเสร็จก็ไปกันต่อเจอปู่ Thordan VII แอนด์เดอะแกงค์ลงลิฟท์อยู่ก็ตามไปซะ ที่ชั้นสุดท้ายจะเจอกับ Ascion สองคน Lahabrea เจ้าเดิมกับตัวใหม่ผู้หญิง ด้วยผลึกจาก Moeจังที่สละชีวิตไปตั้งแต่ 2.5 ทำให้เราสามารถผนึก Ascion ได้สมบูรณ์แบบ ก็จัดการกระทืบมันซะ หลังจากนั้น Thordan VII ก็โผล่มาพร้อมกับโลงศพของ Haldrath อัศวินมังกรสีครามผู้พิชิต Nidhogg แล้ว Thordan ก็ใช้ลูกตา Nidhogg อีกข้างเรียก Thordan ที่ 1 มาสวมร่างเป็น Knight of Rounds พร้อมลูกน้อง 12 คน เข้าบู๊กับนักรบแห่งแสง

ด้วยพลังมารหัวขนกลับชาติมาเกิดเพื่อทำลายทุกอย่าง นักรบแห่งแสงก็กระทืบ Knight of Rounds จมคาตีน ปู่ Thordan VII ที่สิ้นท่าถึงกับโอดครวญว่ามึงเป็นตัวอะไรกันแน่ ทำไมถึงแข็งแกร่งนัก พอปู่แกหมดพิษสง Estinien ก็เลยไปเก็บลูกตาน้องนิดอีกข้างมา กลายเป็นว่า Estinien มีลูกตา 2 ข้าง ทันใดนั้น Nidhogg ก็กลืนร่างของ Estinien กลับกลายเป็น Nidhogg แล้วก็บินจากไปทันที… เราก็ขี่ Midgardsorm กลับมาที่ Ishgard อย่างหล่อ ซึ่งพอ Thordan VII ตาย Aymeric ก็เลยดูแลเมืองต่อและฟื้นฟูประเทศจากสงคราม แล้วก็ทำสัญญาประชาคม Eorzea กับ 3 ประเทศกลายเป็นจตุภาคีพันธมิตรคอยรับมือกับ Garland สืบต่อไป…เตร๊งเตรงเตร่งเตร๊งงงงงง เข้า End Credit
หลังจาก End Credit จบ ก็มี Ascion ลึกลับบนดวงจันทร์ คุยกับชายลึกลับอีกคนที่ใส่ชุด Warrior Artifact ตัดพ้อว่านักรบแห่งแสงตอนนี้กำเริบเสิบสานไปมาก สมดุลย์ของจักรวาลกำลังจะเสียไป เพื่อท่าน Zodiark ถึงเวลาที่แกจะต้องออกโรงแล้ว…นักรบแห่งความมืด!!
ยาวกว่าที่คิดเยอะเลย เยอะมาก…. มีอีกหลายอย่างว่าจะเขียน เก็บไว้ต่องวดหน้าละกัน