หลังจากสเนคฆ่าเดอะบอสสำเร็จจนได้รับเกียรติคุณและสมญานาม “บิ๊กบอส” เขาก็หันหลังให้กับประเทศและเป็นทหารรับจ้างไร้ชื่อเสียง ปี 1974 ยุคสงความเย็น วันนึงศาสตราจารย์ Galvaz กับสาวน้อยน่ารักจิ้มลิ้มนาม PAZ Ortega ก็โผล่มาว่าจ้างให้เขาไปจัดการกับกองกำลังลึกลับชื่อ Peace Sentinel ที่ประเทศคอสตาริกา พร้อมยังให้การสนับสนุนสเนคในการสร้างหน่วยรบ Soldiers without Borders อีก ตอนแรกสเนคยังไม่สนใจจะรับงาน แต่ทันทีที่ได้ยินเสียงจากเทปที่ PAZ อ้างว่าได้มาจากเพื่อนของเธอ มันก็ทำให้สเนคเปลี่ยนใจ…. เพราะว่านั่นคือเสียงของ “เดอะบอส”
จากการไล่ล่า ย่อง ตะลุย ถล่ม ปะทะกับจักรกลสังหารยัดไส้ Vocaloid สามตัว ก็เจอกับ ด๊อกเตอร์สเตรนจ์เลิพที่สร้าง AI POD โดยใช้ข้อมูลทุกอย่างของเดอะบอส รวมถึงเสียงด้วย (มันจะมี Vocaloid 2: The BOSS Let’s CQC ออกมาขายไหม) โดยหวังว่าจะได้พิสูจน์ว่าเดอะบอสนั้นเป็นคนที่รักประเทศชาติอย่างแท้จริงหาใช่คนทรยศไม่ และยังคิดจะสร้างให้เป็น AI ที่สามารถตัดสินใจยิงนิวเคลียร์ได้ด้วยตัวเองและติดตั้งมันลงไปในเมตัลเกียร์พีซวอล์คเกอรื เพื่อสร้างสมดุลย์ระหว่างประเทศและเป็นสันติภาพในฝัน(ของพวกมัน) สุดท้ายโคลด์แมนผู้อยู่เบื้องหลังก็ตายโดยสั่งเดินเครื่องพีซวอล์คเกอร์ไปแล้ว พีซวอลค์เกอร์ปล่อยสัญญาณหลอกว่ามีนิวเคลียร์จำนวนมากกำลังยิงมาที่อเมริกา ซึ่งประธานาธิปดีไม่อยู่พอดี ทางอเมริกาจึงตัดสินใจจะยิงนิวเคลียร์ตอบโต้ และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะลามกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ในสุด สเนคไม่ยอมปล่อยให้เป็นเช่่นนั้นจึงติดต่อไปยัง ZERO ที่เป็นรองประธานาธิปดี และเกลี้ยกล่อมให้หยุดยิงนิวเคลียร์สำเร็จโดยอาศัยศรัทธาต่อเดอะบอสเป็นตัวผลักดัน ตัวพีซวอล์คเกอร์เองยังคงเดินเครื่องยิงนิวเคลียร์อยู่ แต่ AI POD ภายในที่สร้างโดยการจำลองจิตใจเดอะบอส ก็ตัดสินใจพาตัวเองลงก้นทะเลเพื่อให้ระบบการทำงานหยุดลงและปกป้องประเทศไว้อีกครั้ง
(อธิบายไม่ดีเท่าไหร่…คือแบบมันการเมือง+สงคราม ไม่ค่อยเจนจัดแนวนี้…)
แต่แล้วเรื่องก็ยังไม่จบ…หลังจากเหตุการณ์ข้างบน กลุ่ม Soldier without Borders ก็เปลี่ยนเป็นเรียกตัวเองว่า Outer Heaven ก่อตั้งเป็นกองกำลังติดอาวุธที่มีกำลังเทียบเคียงประเทศนึง มีแม้กระทั่งระเบิดนิวเคลียร์ที่เก็บกู้มาจากเหตุการณ์ข้างบน มีเมตัลเกียร์เป็นของตัวเอง ทำทุกอย่างที่มีเงินจ้าง ศาสตราจารย์กัลเวซหลังจากถูกเปิดโปงว่าเป็นสายลับจาก CIA ก็โดนจับขังคุก หลังจากหนีไปได้ถึง 6 ครั้ง (กุเบื่อมาก มึงจะหนีอะไรหลายรอบ) ก็พบว่านอกจากกัลเวซแล้ว น้อง PAZ ก็เป็นสายลับเช่นกัน PAZ มีชื่อจริงว่า Pacifica Ocean เป็นสายลับซ้อนให้กับองค์กรที่เรียกตัวเองว่า Cipher ซึ่งก่อตั้งโดย ZERO มีเป้าหมายคือควบคุมอาวุธ (ติดตามต่อใน MGS4) น้อง PAZ ขโมยเมตัลเกียร์ZEKEและเริ่มปากสุนัข สเนคจึงตัดสินใจจัดการเธอซะ…
เมตัลเกียร์ภาคนี้เองคือสาเหตุที่ทำให้ผมได้ซื้อ PSP พูดให้ถูกก็คือซื้อ PSP เพราะน้อง PAZ กับ Promotion Video สุดเดิ้นต่างหาก….
ผมเป็นแฟนเมตัลเกียร์มาตั้งแต่ภาค Solid บน PS1 ตอนที่เล่นนี่ชอบเพราะมุกที่พิศดาร เนื้อเรื่องน่าติดตามพลิกไปพลิกมาอยู่ตลอด เนื้อเรื่องและบทก็เขียนได้อย่างคมคาย แม้ว่าผมจะไม่ใช่คนบ้าพวกอาวุธยุทโธปกรณ์หรือการเมืองระหว่างประเทศสักเท่าไหร่ก็ยังชื่นชอบซีรี่ส์นี้ได้ หลังจากภาค Solid มานั้นผมก็ไม่เคยพลาดภาคหลักเลย (ไม่ได้เล่นภาค OPS หรือภาคไรไม่รู้นิดหน่อย) ภาค Solid 2 ที่มีไรเดนเป็นตัวเอกนั้นมีเนื้อเรื่องหลงทางเพ้อเจ้อเล็กน้อย แต่พอภาค Solid 3 ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง Gameplay และเนื้อเรื่องจนได้รับคำชมมากมาย และปิดฉากลงอย่างอลังการกับภาค 4 สำหรับภาค Peace Walker นี้เป็นจุดเชื่อมของภาค 3 และ 1 เฉยๆ (สมัย FC ที่ไม่ใช่ Solid 1 บน PS1) และยังเป็นส่วนเสริมของภาค 4 อีกด้วย Peace Walker เป็นภาคที่ให้เราเล่นเป็นบิ๊กบอสและสร้าง Outer Heaven ซึ่งหลังจากนั้นในภาค 1 โซลิดสเนคก็จะบุกมาทำลาย Outer Heaven ที่เราสร้างมาและฆ่าบิ๊กบอสที่เป็นร่างโคลนต้นแบบของ Solid Snake เอง
บทพูดในเกมหลายๆอย่างนั้นสื่อถึงภาคภาคหลังบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดเรื่องสงครามของ KAZ ที่บอกว่าคิดจะใช้สงครามเป็นธุรกิจ และภาคหลัง KAZ ก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Patriots เช่นกัน หรือแนวคิดของ Cipher ที่หนู PAZ บอกไว้ว่าต้องการจะควบคุมอาวุธเพื่อสร้างสันติภาพ ก็คือระบบ…มันเรียกอะไรวะ คือถ้า DNA ที่ฉีดไว้ไม่ตรงก็จะใช้งานอาวุธไม่ได้ ขโมยปืนชาวบ้านมาใช้ไม่ได้ (แต่ถ้าไม่ฉีด DNA ก็จะมีปฏิกริยาตอบโต้ช้า สู้พวกที่ฉีด DNA ไม่ได้ จึงเป็นการบีบให้ฉีดกันทุกคนกลายๆ) หรือการย้ำว่าสงครามเย็นกำลังจะสิ้นสุดและจะเป็นยุคของเน็ทเวิร์ค แม้ว่าเนื้อจะฟังดูเท่และเจ๋งดีก็ตาม แต่การมาพูดทีหลังแล้วบอกว่าพูดไว้ก่อนมันก็ดูแถๆอยู่ไม่น้อย คัทซีนเป็น 2D แบบการ์ตูนขยับได้ แปลกนิดๆ แต่ก็ไม่ถึงกับขัดเขิน เหมือนอ่านการ์ตูนฝรั่งดี
เกมเพลย์นั้นสนุกมาก เกมใข้วิธีแบ่งออกเป็นมิชชั่นเล็กๆยิบย่อย เพื่อให้รู้สึกไม่เหนื่อยเวลาเล่นและเหมาะกับเกมบนเครื่องมือถือ ระบบรวมๆ เหมือนภาคเก่าๆ แต่ไม่มีคลาน นอนได้เฉยๆ เล่นง่าย CQC ง่าย แต่บอสด่านต่างๆก็เล่นเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกัน เพราะว่าอึดมาก ยิงถล่มจนกระสุนหมดพลังมันยังลดไม่ถึงครึ่งเลย บีบให้เรียกไอเท็มสนับสนุนมาส่ง เล่นซ้ำง่ายเพราะเป็นระบบมิชชั่น เล่นกันหลายคนก็ได้ บอสสุดท้ายอึดมากๆ ยิงอยู่ 40 นาทีมันถึงจะตาย… ภาคนี้ไม่มีบอสเป็นมนุษย์ประหลาดใช้ท่าแปลกๆแล้ว มีแต่ยานพาหนะ ไม่ก็หุ่นยนต์เสียบ POD สู้ก็สนุกดี หลากหลายไม่น่าเบื่อ ไอ้หุ่นยนต์ยัดไส้มิคุนี่ก็เล่นเอาหลอนไปเหมือนกัน จริงๆตอนที่เล่นไปแล้วเจอสามตัว ผมนึกว่าสุดท้ายมันจะมาประกบร่างกันได้ซะอีก แหม..โคจิม่ายังเพี้ยนถึงขั้นนั้นอีกหรือเนี่ย
จุดที่ชอบที่สุดในภาคนี้ก็คือระบบสร้างฐาน เราจะต้องคอยจับทหารมาเป็นคนงานจากฉากต่างๆ แต่ทหารที่จับมามักจะไม่ค่อยเก่งเราต้องใช้วิธี Search เอา เกมจะใช้วิธีคำนวนจากชื่อเสียงเรา (Heroism) และ adhoc หรือ wireless network ที่พบ เรายิ่งชื่อเสียงดัง ทหารที่มาสมัครก็จะยิ่งเก่ง จากนั้นก็จะมาสอบเข้า เราก็จับมัน CQC จนสลบก็จะได้มาเป็นคนงาน วิธีที่ดีก็คือเก็บค่า Heroism เยอะๆ แล้วไปหาทหารตามที่พลุกพล่าน ผมใช้วิธีไปหาในห้าง ได้ทหารมาครั้งละ 30-40 คน เก่งเทพ บางทีก็เปิดเครื่องแล้วเข้าหน้า Search แล้ว Sleep ไว้ พอขับรถไปติดไฟแดงก็หยิบมากด Search ถ้าติดนานก็จับมันทุ่มให้หมด ติดไม่นานก็ Sleep ไว้ก่อน ว่างๆค่อยจับมันทุ่ม ฐานทัพผมเลเวล 74, 99, 99, 99, 70 ทหารฝ่าย Intel หายากมากเลย Search มามีเก่งสุดก็คลาส C หรือ B เอง
อย่างที่บอกไว้ ผมเล่นเกมนี้เพราะน้อง PAZ ตลอดเนื้อเรื่องปกติน้อง PAZ จะทำตัวเป็นนางเอกสุดๆ เข้มแข็ง อดทน สู้เพื่อสันติภาพ ยิ้มหวานแล้วชูสองนิ้ว แต่พอเข้าเนื้อเรื่องหลังจบ น้อง PAZ แกปล่อยเกรียน (สาวๆก็เกรียนได้ คนจะเกรียน เกรียนที่ใจ ใช่ที่หัว) จากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยทีเดียว จากสำเนียงเหน่อคอสตาริกาเป็นอเมริกันจ๋า แถมยังปากสวะขึ้นสิบเท่า จิกกัดแขวะเหยียดหยามกันไม่ไว้หน้าลุงงูของเราเลย ผมเล่นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ คนพากย์เสียงชื่อ Tara Strong (ผมคุ้นๆชื่ออยู่ แต่ไม่รู้ว่าจากเรื่องอะไร) ก็ให้เสียงได้ดีมาก ได้อารมณ์ดีไม่มีที่ติ ผมเองไม่ได้แม่นเรื่องภาษาถึงขนาดจับสำเนียงที่แตกต่างได้ว่าสมจริงหรือเปล่า แต่ก็รู้สึกได้ว่ามันเจ๋งดีตอนที่เปลี่ยนบุคลิก เอาเข้าจริง MGS นั้นไม่เคยมีปัญหาเรื่องเสียงภาษาอังกฤษอยู่แล้ว แทบจะพูดได้ว่าเสียงต้นฉบับควรเป็นภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าใจจริงก็อยากลองเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นอยู่บ้างก็ตาม เพราะเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นนั้นน้อง PAZ ให้เสียงโดย Mizuki Nana นักพากย์ชื่อดังของวงการซึ่งร้องเพลงประกอบเองอีกด้วย ลองไปแอบดูใน Youtube ก็ได้ยินเสียงนานะซังก็เกรี้ยวกราดได้รุนแรงสะใจดี
Promotion Video สุดบรรเจิด
สรุปปิดท้ายสำหรับ MGS: Peace Walker นั้นเป็นภาคที่ให้ความบันเทิงเริงใจได้ดียิ่ง แม้ว่าส่วนของเนื้อเรื่องจะธรรมดาไปสักเล็กน้อย แต่ก็ได้ระบบของเกมที่หลากหลาย แปลกใหม่มาแทน และทำให้เข้าใจว่า Hideo Kojima นั้นยังไม่ตาย มีไอเดียใหม่ๆมาป้อนเราเสมอ (และนับวันก็ยิ่งเพี้ยนขึ้นทุกทีๆ) สำหรับภาคต่อไปของ MGS นั้นคือภาค Rising ที่จับเอา Raiden มาเป็นตัวเอก และวางเนื้อเรื่องไว้ระหว่างภาค 2 และ 4 และมีคอนเซ็บหลักของภาคคือการ “หั่น” จากที่เห็นใน Trailer ที่ E3 ก็ทำให้เราได้ทึ่งด้วยการให้เราเราจับไรเดนมาผ่าแตงโม แถมยังผ่าเป็น 6 ซีกอีกด้วย!! อาจจะฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้่อยแต่มันเจ๋งมากเลยนะ เนื้อในแตงโมก็เป็นแตงโมจริงๆ(!?) อย่างไรก็ตามยังมีแฟนๆอีกหลายคนอยากจะตะโกนบอกเฮีย Hideo Kojima ว่า “มรึงเลิกทำ MGS ภาคใหม่ แล้วไปทำ Z.O.E ต่อซะทีสิโว้ย!!!”
“มรึงเลิกทำ MGS ภาคใหม่ แล้วไปทำ Z.O.E ต่อซะทีสิโว้ย!!!”
+1
โดกิ โดกิ !!
มาดูอีกทีก็รู้สึกว่า PV มันเท่ห์จริงๆ
ปกติเค้ามีแต่ prerender ให้หน้าสวยเด้ง
เจอระดับโคจิม่าใช้ render สดแบบในเกมมาทำPV แบบไม่อายฟ้าดิน!
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเนี่ย ตอนสู้ZEKEมันเปลี่ยนเพลงรึเปล่านะ?
ไม่เปลี่ยน
เพลงเดียวกันเลย นานะร้อง
กลับมาทำ Z.O.E. ได้แล้วโว้ย !!
ทหารหมวดสุดท้าย recruit A S ไม่ได้นะ ต้องไปหาตามมิชชั่นที่ระบุไว้ กับฉากที่มีสไนเปอร์ซุ่มในป่า
นั่นดิ Z.O.E อ่ะ
โวคัลลอยด์นี่ไม่ใช่มิคุนะครับ แต่เป็นออริจินอลโวคัลลอยด์น่ะ ต้นแบบเสียงโดยคุณ Yumi Kikuchi น่ะ