407 | การแบ่งแยกของสึซึมิยะฮารุฮิ

นับตั้งแต่อนิเมฮารุฮิภาคแรกฉายเมื่อปี 2006 ด้วยความแปลกใหม่และลูกเล่นพิศดารจนทำให้เกิดการบอกเล่ากันปากต่อปากสร้างกระแสความนิยมอย่างมากมาย ผมเองก็ตกเป็นเหยี่อในกระแสนั้นด้วยเช่นกัน(ฮา) ในตอนนั้นผมค่อนข้างประทับใจฮารุฮิมากเลย เป็นอนิเมชั่นที่มีพลังและน่าติดตามในตัวของมันเอง จนทำให้ผมเริ่มกลับมาดูอนิเมกับเค้ามั่งหลังจากหนักไปทางเกมมากกว่าอยู่หลายปี เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่ดูอนิเมวันเดียว 8 ตอนรวด สนุกดีนะ ฮะฮะ

หลังจากนั้นกระแสฮารุฮิก็ค่อยๆซาลง เหล่าแฟนๆก็ค่อยๆหันไปกรี๊ดกร๊าดอนิเมเรื่องอื่นกันแทน ราวๆปี 2008 นิยายฮารุฮิเวอร์ชั่นภาษาไทยที่จัดทำโดยสำนักพิมพ์บงกชก็ได้วางขาย กระแสตอนนั้นก็ยังพอมีเหลือนิดหน่อย ผมก็เริ่มเบื่อๆฮารุฮิ เพราะว่าแฟนอวยมันน่าหมั่นไส้เหลือเกินจนเริ่มหันไปกวนตีนชาวบ้านแทน แต่ตัวนิยายฮารุฮิมันก็มีจุดแข็งของมันที่เรื่องอื่นไม่มี ผมเลยเช่ามาอ่านซะหน่อย อ่านจบก็รู้สึกว่าเออสนุกได้อยู่ แต่พอเล่มสองออกร้านเช่ามันไม่ซื้อมาแล้ว บอกว่าไม่มีคนอื่น มีมึงอ่านอยู่คนเดียว โอ้นี่หรือนิยายยอดขายห้าล้านเล่มที่ถูกสร้างเป็นอนิเมชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ผมก็เลยต้องซื้ออ่านเองในที่สุด
เวลาผ่านไปจวบจนย่างปัจจุบันปี 2013 ผมก็ได้อ่าน “การแบ่งแยกของสึซึมิยะฮารุฮิ” จบเพราะว่าเอารถไปเปลี่ยนยางแล้วมันรอนาน ณ วันนี้เวลานี้ กระแสฮารุฮิถูกลืมไปอย่างสิ้นเชิง โอตาคุทั้งหลายก็มีภรรยาใหม่มากหน้าหลายตานับกันไม่หวาดไม่ไหว ฮารุฮิก็เป็นเพียงนางบำเรอใช้แล้วที่หมดค่าเป็นผ้าขี้ริ้ว ถึงจะมีอนิเมภาคต่อที่เป็น Endless Eight ไปแปดตอนก็เหอะ(หัวเราะ) กระแสความนิยมก็จางหายไป ทุกวันนี้ตามงานคอสถ้าพูดถึงฮาเรฮาเรยูไคนี่อาจจะโดนถามว่ามันคืออะไรแทน แม้แต่เวลาที่นิยายออกเล่มใหม่ในงานหนัง​สือ(จริงๆมันออกก่อนงานหนังสือนะ)ก็ไม่เห็นใครพูดถึงตามเว็บบอร์ดหรือโซเชียลเน็ทเวิร์คเลย คนที่รู้จักรอบตัวผมก็ไม่มีใครซื้อนิยายฮารุฮิสักคน ทั้งๆที่ตอนอนิเมฉายก็แห่แหนเชิดชูประหนึ่งนางฟ้าจุติแท้ๆ เหลือแต่เฮตเตอร์อย่างผมบ้าซื้ออยู่คนเดียว (จากตัวอย่างนี้ได้ความว่า Hater>Fanboy นะจ๊ะ) เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในการติดตามนิยายฮารุฮิก็คือตัวละครชื่อซาซากิและพรรคพวก ซึ่งเป็นตัวละครใหม่คู่ปรับของแก๊งค์ฮารุฮิ ผมไม่รู้เลยว่าซาซากิเป็นคนแบบไหน(แต่เคยเห็นรูปแล้ว) พรรคพวกของซาซากิเป็นอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่คาใจผมมาตั้งแต่ปี 2008 ผมเฝ้ารอการปรากฏตัวของซาซากิมาเกือบ 5 ปี และในที่สุดมันก็เป็นจริง หลังจากที่อ่าน “การแบ่งแยกของสึซึมิยะฮารุฮิ” จบ ผมก็พูดได้อย่างมั่นใจเต็มปากว่า
“แม่งไม่เห็นสนุกเลย”
ฮารุฮิเป็นนิยายที่เริ่มต้นน่าเบื่อ กลางๆเหมือนจะสนุก ท้ายๆลุ้นสักนิด และจบลงด้วยความงี่เง่าเสมอมา แพทเทิร์นของนิยายจะมีสองแบบ 1)ฮารุฮิทำให้เกิดอะไรวุ่นวาย→นางาโตะแก้ไข หรือ 2)ย้อนเวลาไปมา เนื้อหาในเล่มเต็มไปด้วยบทบรรยายฟุ่มเฟือยของเคียน ผมไม่ได้รังเกียจการบ่นไร้สาระของตัวเอกของเรื่องหรอกนะ แต่ถ้าคุณต้องอ่านการพรรณนาถึงความซุ่มซ่ามของมิคุรุรอบที่หกหมื่นแปดพันสามร้อยยี่สิบ ความงี่เง่าเอาแต่ใจของฮารุฮิรอบที่สี่แสนเจ็ดพันหกร้อยยี่สิบสี่ และบลาๆๆๆ อื่นๆอีกมากมายที่ทำมาซ้ำซากตลอดแปดเล่มและยังทำต่อไปโดยไม่มีการพัฒนาของตัวละครเลยแม้แต่น้อย ปมปริศนาของเรื่องซ้ำๆซากๆ และแทบทุกครั้งจบลงที่ความง่ายดายและงี่เง่าเพราะว่ามีโดราเอมอนที่ชื่อยูกิอยู่ ความสัมพันธ์ของตัวละครไม่พัฒนา วิธีคิดของตัวละครถูกแช่แข็ง ไม่สามารถตระหนักและใตร่ตรองจนเกิดผลลัพธ์ได้ ผมสงสัยมากว่าของแบบนี้น่ะเหรอที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ก็นะ…มันก็แค่เคย…กระแสมันก็หมดไปแล้วเหมือนกัน
นิยายฮารุฮิที่ยังไม่ได้ถูกแปลเป็นภาษาไทยนั้นยังเหลืออีก 2 เล่มล่าสุดที่เพิ่งออกมา ซึ่งแบ่งเป็นครึ่งแรกและครึ่งหลัง ก็น่าจะเป็นตอนของซาซากิต่อจากเล่มนี้ ในบทสุดท้ายของ “การแบ่งแยกฯ” เรื่องราวถูกแบ่งออกเป็นไลน์อัลฟ่าและไลน์เบต้า ไลน์อัลฟ่ามีสาวน้อยลึกลับโทรมาหาเคียน แล้วก็ลั้ลลาไร้สาระไปตามปกติจนจบเล่ม ไลน์เบต้าซาซากิจะเรียกเคียนออกไปคุยแล้วเจอกับพวกแก๊งซาซากิ รวมถึงได้ไปมิติปิดตายของซาซากิด้วย จากนั้นวันรุ่งขึ้นนางาโตะก็ไม่มาเรียน ทุกคนเลยไปเยี่ยม จบเล่ม ถามว่าไอเดียดีมั้ย ก็ไม่รู้สิ อย่างที่บอกนิยายฮารุฮิช่วงกลางๆมักจะน่าติดตามเสมอ แต่จะจบลงด้วยอารมณ์ว่าเอาเวลากูคืนมาได้มั้ย กูอุตส่าห์ทนอ่านน้ำท่วมทุ่งมาตั้งเยอะ เอาเวลากูคืนมาได้มั้ย
ผมอ่านนิยายทุกเล่มดูอนิเมทุกตอน ผมบ่นได้เต็มที่แล้วใช่มั้ยครับแฟนบอยทั้งหลายที่ยังมีชีวิตอยู่

6 thoughts on “407 | การแบ่งแยกของสึซึมิยะฮารุฮิ”

  1. เข้ามาดูด้วยตามประสาแฟนบอย
    ผมอ่านค้างอยู่ถึงเล่ม “ความเดือดดาลของสึซึมิยะ ฮารุฮิ” อยู่เลย แต่ไหนๆ ก็ตามซื้อนิยายอ่านมาจนถึงขั้นนี้แล้ว คงตามอ่านไปจนจบแหละครับ

  2. คาดหวังไว้สูงมากกับเรื่องนี้ แต่ผ่านมาหลายปีที่ซื้อเก็บมานอกจากเล่มหนึ่งกับสี่แล้วผมยังไม่เคยหยิบเล่มอื่นขึ้นมาอ่านซ้ำเลย……
    เอาเถอะ บ่นแค่ไหนเล่มหน้าก็ซื้อมาเก็บอยู่ดี

    1. เขียนนะ ตั้งใจไว้ว่าจะเขียน….ตั้งใจจริงๆนะ….

      1. ของผมนี่ซีซั่นนี้ตอนแรกไม่คิดจะดูอะไรเลย แต่ไปๆมาๆสนใจอยู่ 3 เรื่องแฮะ ถือว่าเยอะนะเนี่ย ช่วงหลายปีหลังตามไม่ค่อยเกิน 2 เรื่อง
        จอมมารก้อนเนื้อ ออกมาดูดีกว่าที่คิด ตอนแรกนึกว่าจะออกมาประมาณ SAO+หมากับเห็บหมา แต่ทำมาเข้าใจง่ายดูสนุกกว่ามังงะแฮะ
        มินามิเคะ ลืมไปเลยว่ามันเคยสนุก พอมาดูได้อารมณ์ภาคแรกที่ดูสนุกนะนี่
        โคโตอุระซัน นี่แม่มโคตร WTF ดูต่อเพราะอยากรู้มันจะเล่นอะไรฟะ

        1. เอาไกด์ไลน์ไปก่อนละกัน
          จอมมารนมยักษ์>แอมเนเซีย>โคโตอุระซัง>โอเรชูร่า>มอนไดจิทาจิ>ซาซามิ>>เลิฟไลฟ์>เฮียวบุUnlimited>>>>มินามิเกะ>ทามาโกะ>>>เซนรันซากุระ>วิวิดเรด[F-Line]>>โรมัน>คิวติเคิล>>>>>>>GJ>>ด่ากาโปะ
          โอเรชูร่ากับมอนไดทาจิ สนุกดีนะ ส่วนแอมเนเซีย
          ถ้ารับโอโตเมะอนิเมได้ก็อยากให้ลองดูซะหน่อย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *