พอซีซั่นที่ผ่านมาไม่ได้เขียน An Unbiased Review ก็รู้สึกว่าเออมันก็สบายดีนะ ไม่ต้องลกรีบคิดมุกตอบสนองความคาดหวังใคร ไม่ต้องกลัวว่างวดนี้จะเขียนห่วยกว่าคราวก่อน ไม่ต้องนั่งทำกราฟจนเสียเวลาเล่นเกม แถมเดี๋ยวนี้เขียนไปก็ไม่มีคนมาด่า เซ็งมากเลย(หัวเราะ) จริงๆเคยสัญญาไว้ว่าจะรายงานอันดับเรื่องที่เลือกไว้ ก็ไม่ได้รายงานซะอีก (ให้ดูแต่ใน FB กับ IRC) ไหนๆก็ไหนๆ เล่าให้ฟังซะหน่อย ตอนแรกผมชอบโจชิราคุที่สุดในซีซั่นครับ รองลงมาก็เป็น Natsuyuki กับ SAO เรื่องที่โดนตัด F ดูไม่จบไปมีหลายเรื่องและตัดออกจากสมองไปเรียบร้อยแล้ว
แต่นั่นก็เป็นเรื่องของตอนที่ 1 เวลาผ่านไปอันดับก็เปลี่ยนแปลง แต่ช่างมันผมขี้เกียจจัดอันดับแล้ว เรียงตามวันไปเลยละกัน ตอนนี้ผมดู เฮียวกะ, ทาริทาริ, ลากรานจ์, จินรุย, นัตสึยูกิ, ยูเรก้า, ดาคาระH, โจชิราคุ, โคโคโระ และ Sword art Online เยอะอีกแล้ว… ไอ้ที่เลิกดูไปกลางทางก็มีบิมโบคามิกับเอคเซลเวิลด์ แล้วก็ฮอไรซอน สาเหตุที่เลิกดูก็แตกต่างกันไป ถ้าจะให้นับที่ชอบที่สุดสามเรื่องก็ เฮียวกะ, ทาริทาริ และ โคโคโระ คอนเน็ค จริงๆยูเรก้าก็สนุกมากนะ แต่มันสนุกเฉพาะตอนที่ยูเรก้าโผล่มาน่ะ….
สำหรับ เฮียวกะ แน่นอนว่าผมเริ่มติดตามด้วยความรู้สึกติดลบยี่สิบคะแนนเพราะโปะยี่ห้อเกียวอนิ และเผื่อใจไว้สำหรับโอตาคุบุฮี้ที่จะโผล่มาแบบไม่รู้สี่รู้แปดอะไร แล้วก็พบว่า…น่าเบื่อมาก แต่ขณะเดียวกันงานก็ดีมากๆ แต่พอยิ่งดูไปยิ่งรู้สึกว่าคนอื่นไม่ค่อยจะยอมดูเท่าไหร่เพราะมันง่วงและเนื้อเรื่องดูไม่มีอะไร แต่สำหรับผมเนื้อเรื่องที่เหมือนเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ นี่หล่ะกลับก็มีความลุ่มลึกในตัวมันเอง ด้วยความที่เฮียวกะนั้นไม่ได้เป็นไลท์โนเวล ก็เลยมีความเป็นผู้ใหญ่ในการขบคิดเนื้อหามากกว่าปกติ แล้วก็เติมฟิลเตอร์โมเอ้ของเกียวอนิเข้าไปอีกเพื่อให้ดูได้สนุกสนานขึ้น
ในเรื่องผมชอบอิริสึเซมไปครับ หลายๆคนไม่ชอบไม่รู้ทำไม ไหนจะใส่ถุงน่องไหนจะแสนร้ายกาจ อย่างนี้สิถึงเรียกแจ่มจรัส อีกคนที่ชอบก็คืออิบาระครับ อิบาระเนี่ยเหมาะกับโอเรกิมากกว่าจิทันดะเยอะเลย รับส่งมุกกันเข้าจังหวะมาก ไปเป็นคู่ผัวตัวเมียกันดีกว่าไป๊
อีกเรื่องก็คือ ทาริทาริ ทาริทาริก็เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เหมือนขาดๆเกินๆ อะไรๆดูเร็วไปหมด ไม่ทันจะได้รู้จักตัวละครก็ต้องรีบตามเนื้อเรื่องไปแล้ว แต่พอๆดูไป ด้วยจังหวะที่เหมือนเร่งรีบตลอดเวลาผนวกกับค่อยๆรู้จักตัวละครผ่านทางพล๊อทเรื่องกลายเป็นว่าน่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ ตัวละครสามคนก็มีคาแร็คเตอร์แตกต่างกันที่พอมาอยู่รวมกันก็กลายเป็นความลงตัวแสนเหมาะเจาะ ทาริทาริต่างจากอนิเมของ P.A. เรื่องอื่นตรงที่สามารถให้ความบันเทิงกับคนดูได้จากตัวเนื้อเรื่องเอง (ฮานะอิโระทำได้ไม่ดีเท่านี้) มันเป็นอนิเมที่ดูสนุกสนาน ซึ้ง เศร้า เหงา และก้าวไปข้างหน้ากับตัวละครพร้อมๆกัน ผมชอบตอนของวาคานะ(ครึ่งแรก)มาก มันเหงา มันเศร้า ตื้นตัน เป็นสิ่งที่กลั่นออกมาด้วยประสบการณ์และผลงานอย่างมีเอกลักษณ์แบบที่ไม่สามารถพบเจอได้ในอนิเมของเกียวอนิหรือชาฟท์
เรื่องนี้ P.A. เปลี่ยนคนเขียนบทจากโอคาดะ มาริ (ฮานะอิโระ, ทรูเทียร์, คานาน) เจ้าประจำมาเป็น มาซาคาสึ ฮาชิโมโตะ ทำให้อารมณ์การเดินเรื่องเปลี่ยนไป เร็วขึ้น กระชับขึ้น อีโมน้อยลง และยิ่งดูต่อไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่า P.A. ควรจลองห่างๆกับเจ๊โอคาดะ มาริ สักพักเสียมั่ง
เรื่องสุดท้าย โคโคโระ คอนเน็ค เรื่องนี้ดูตอนแรกๆมึนมาก เพราะมันสลับร่างกันโดยที่กรูยังจำไม่ได้เลยว่าใครเป็นใคร มันก็เลยยิ่งจำไม่ได้เท่าไหร่ว่าใครเป็นใคร ว่ากันตรงๆ ตัวงานอนิเมชั่นของ โคโคโระ คอนเน็ค นี่อยู่ในระดับกลางๆเท่านั้น งานธรรมดามาก แต่ว่าสนุกด้วยตัวเรื่องจริงๆ เราค่อยๆเข้าใจด้านลึกของตัวละครผ่านทางการกลั่นแกล้งของมนุษย์ต่างดาวที่บีบให้แต่ละคนค่อยๆทำความรู้จักกันมากขึ้น
สามเรื่องนี้สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องที่สนุกที่สุด ส่วนอนิเมยอดนิยมเกรียนไทยอย่าง Sword Art Online นั้นตอนแรกๆก็เหมือนจะสนุก แต่ยิ่งดูไปยิ่งรู้สึกว่าก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย กลายเป็นออนไลน์จีบสาวไปวันๆ ความเครียดแรกๆหายไปหมด แถมพล๊อทยังอ่อนลงเรื่อยๆ ที่น่าเบื่อที่สุดก็คือเวลาเปิดกระทู้ SAO ตามที่ต่างๆ จะมีกูรูพหูสูตรแสนรู้มากมายโผล่มาแสดงความฉลาดล้ำกันไม่เว้นบรรทัดต่อบรรทัด เออรู้ว่าเอ็งอ่าน(แปลไทยทางเน็ท)มาหมดแล้ว ไม่ต้องมาทำตัวพิมพ์เดียวกันอวดความฉลาดรู้คุณหนูทำได้กันทุกคน กุดูอนิเมมาเฉยๆ เข้าใจมั้ย….
ก่อนหน้านี้มีประเด็นถกเถียงกันโครมครามเรื่องที่มีคนไปโวยวายว่าทำไมค่ายอนิเมไทยรีบประกาศลิขสิทธิ์ก่อนอนิเมฉายจบ ทำไมไม่รอให้จบก่อนวะเดี๋ยวกูอดดูแฟนซับ เป็นประเด็นถกเถียงกันมากว่าเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรหรือไม่ และควรจะทำอย่างไร ตอนนั้นผมก็เมนทัลเบรคไปเหมือนกันว่าอะไรของพวกมึง แต่ไม่อยากลงไปตบตีเองให้ดูกลายเป็นพวกตามกระแส ตอนนี้ก็เรียบเรียงอะไรนิดหน่อย+กระแสซาแล้ว ถ้าสามารถจัดเรียงไอ้ที่คิดไว้สำเร็จก็จะเขียนออกมาให้อ่านกัน
ซีซั่นนี้ที่ผมตั้งความหวังไว้มีแค่ SAO เอง แต่ไหงดันกลายเป็นฮาเร็มอนิเมไปได้ยังไงก็ไม่รู้
สาเหตุที่ยังดูอยู่เพราะตั้งความหวังไว้ว่าหลังมันชวนสาวเข้าฮาเร็มหมดแล้วคงมีตอนสนุกๆ แบบตอน 2 ออกมาอีก
ส่วนเรื่องกูรูนี่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันจริงๆ ว่าอ่านสปอยแปลไทยมาเนี่ยมันน่าอวดตรงไหน…
ps
ใจผมเชียร์ให้ทำ review ต่อนะ อยากอ่านน่ะ