-
วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2009 เวลาบ่ายโมง
หลังถึงถึงบ้านจากถ่ายรูปอัพลงบล๊อกเสร็จเรียบร้อย ผมก็ไม่รอช้าเอาเกมมาเปิดเล่นทันที นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเอาลุงงูออกจากเครื่อง PS3 ของผม ผมไม่มีเกม(หนัง)อื่นเลย มันก็เลยคาไว้อย่างนั้น ผมเปิดคอมพิวเตอร์และ irc พร้อมกับเล่นเกมไปด้วย เพราะว่าผมมีสองจอแล้ว จอเก่ากับจอใหม่ จึงสามารถบรรยายความรู้สึกระหว่างเล่นให้คนอื่นฟังไปพร้อมกันได้ ตัวเกมภาพสวยมากและการต่อสู้ก็อลังการเหลือเกิน อยากจะบรรยายความรู้สึกเกี่ยวกับเกมและระบบเหมือนกัน แต่ขอเล่นไปสักพักก่อน เล่นไปจนถึงบ่ายสามโมงครึ่งผมก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ได้กินข้าวกลางวันนี่หว่า ผมจึงเซพและปิดเกมลงมาทำอะไรกิน วันนี้ทำเนื้อทอดกับผัดเห็ดเข็มทองกิน อิ่มโคตรแม้ว่าข้าวจะเย็นชืดไปหน่อยเพราะไม่ได้หุงใหม่ จุ๊ จุ๊ อย่าคิดว่าผมจะต้มมาม่ากินนะ มันโลว์คลาส อย่างผมไม่กินหรอกมาม่าธรรมดา กินแต่ Royal ซองล่ะสิบสองบาทเท่านั้น….. เอาเป็นว่าวันนี้ไม่ได้ต้มมาม่ากินแล้วกัน หลังจากอาบน้ำแล้วผมก็ทำกิจวัตรประจำวันนั่นก็คือการไปคืนการ์ตูนที่ร้านเช่า ก็ไม่มีอะไรแปลก มีติดมือกลับมาสามเล่มด้วยกฏการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน หลังจากเคลียร์ทุกอย่าง ผมก็นั่งหน้าจอพร้อมแล้วที่จะลุยกันต่อ -
วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2009
เมื่อคืนวานผมเล่นไปจนห้าทุ่มครึ่งเท่านั้น ไม่ได้โต้รุ่งแต่อย่างไร สงสัยสังขารจะร่วงโรยเล่นเกมนานๆแล้วรู้สึกเวียนหัว บวกกับเฟิร์สอิมเพรชชั่นอันล้นปรี่ และมีบัญชาจากสวรรค์ที่เหนือกว่าเจ้านายให้ผมไปทำงานด้วย ทำให้วันนี้ผมตัดสินใจไปทำงานตามปกติ ไม่ได้โดดงานเล่นเกม แต่ก่อนไปผมก็ตื่นมาเล่นตั้งกะหกโมงเช้าถึงแปดโมงไปยกนึงแล้ว ผมชอบเล่นเกมตอนเช้าที่สุดเลย บางทีตื่นตีสี่มาเล่นถึงแปดโมงครึ่งแล้วไปทำงาน ไม่นิยมเล่นจนดึกเท่าไหร่ ไม่เวียนหัวด้วย เล่นไปจนถึงบทที่ 4 พอชนะโอดีนก็ไปทำงาน ระหว่างขับรถผมก็ทบทวนข้อเด่นและข้อด้อยอันมากมายของไฟนอลแฟนตาซีภาค 13 ภาคนี้ แม้ว่ามันจะได้คะแนนจากฟามิซือถึง 39 คะแนน แต่เอาเข้าจริงแล้วขนาดผมที่เป็นแฟนอวยเต็มตัว ยังอดไม่ได้กับความลักลั่นหลายๆอย่างในเกม สิ่งที่ขัดใจที่สุดก็คือ Environment ทุกอย่างในโลกถูกตัดทิ้งไป เราจะรู้จักความตื้นลึกหนาบางของโลกด้วยการเปิดเมนูอ่านสารานกรมในเกม สี่บทแรกไม่มี NPC ไม่มีเมือง ไม่มีผู้ร้าย ไม่มีทุกอย่าง มีแต่ดันเจี้ยนให้เดินอย่างต่อเนื่องและถล่มศัตรูทุกตัวที่เข้ามาในจอ สมคำครหา Linear Fantasy XIII จริงๆ ความรู้สึกร่วมที่เหมือนว่าเราอยู่บนโลกนั้นถูกตัดทิ้งไปอย่่างสิ้นเชิง Activity ทุกอย่างสามารถทำผ่าน Save Point ได้ สำหรับภาคนี้ก็เหมือนกับหนังแอ็คชั่นหรือ Final Fantasy VII : Advent Children ที่ถูกทำให้เป็นเกมจริงๆ เล่นไป 4 บท แต่เวลาในเกมผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง แต่นั่นก็เป็นเพียงช่วงแรกของเกมเท่านั้น ได้ยินว่าหลังจากนี้ก็จะมีช่วงอิสระบ้าง ก็อยากรู้ว่าจะเป็นไง แต่เดาว่าต้องผ่าน Save Point เหมือนเดิมแน่ๆ ข้อดีก็มีนะ ผมชอบระบบการต่อสู้ แม้จะขาดๆเกินๆเล็กน้อย แต่ก็ทำได้ดี เร็ว มันส์ จริงๆมันก็คล้ายๆกับ FFX-2 อยู่หลายส่วน ระบบการพัฒนาตัวละครก็น่าสนใจ พลิกแพลงจาก FFX อีกแล้ว แต่ระบบผสมของไม่ดีเท่าไหร่ ดูยากและไม่น่าสนุก ยิ่งมาเข้าคู่กับเงินที่แสนจะหายาก ทำให้เราไม่อยากจะอัพเกรดอาวุธสักเท่าไหร่ รวมๆแล้ว FF13 เฟิร์สอิมเพรชชั่นผมให้ FF12 ดีกว่าสองขั้น FF12 ตรึงให้ผมเล่นโดยไม่หยุดพักได้นานกว่ามาก ระบบก็สนุก เพลิน อาจจะเพราะผมคุ้นกับ FF11 ที่ระบบคล้ายคลึงกันด้วยก็ได้ ไว้เล่นต่อก่อน พอได้ Platinum แล้วจะมารีวิวเต็มๆอีกที -
วันพฤหัสที่ 31 ธันวาคม 2009 เวลา 02.15 น.
ขอโทษที่หายไปนาน หลังจากตรากตรำใช้วันหยุดไปกับ FF13 แม้จะช้ากว่าชาวบ้านไปเยอะ แต่ในที่สุดผมก็ได้เห็นฉากจบกับเค้าซะที ตอนนี้ก็สามารถออกมาวิจารณ์ได้เต็มปากกับเค้าหน่อย ภาคนี้ก็มีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อเสียหลายอย่าง ก็ตรงตามคำวิจารณ์ของคนส่วนมาก อะไรที่ขาดที่เกินก็ตามนั้น หาอ่านเอาได้ตามเว็บทั่วไป ถ้ารอหน่อยก็อาจจะได้อ่านอันของผมอีกอัน -
วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2009
ไล่ทำมิชชั่นไปเรื่อยๆ ก็สนุกดี บอสโหดๆมีเยอะเหมือนกัน แต่หนักไปทางพิลึกๆ อย่างเนโอจูเนี่ย กว่าจะชนะนี่เหนื่อยมาก เหนื่อยมากๆ รอบที่ชนะยังสู้ไป 20 นาทีเต็มๆ ไม่รวมรอบที่แพ้อีกมากมาย กว่าจะได้ CP 2 เท่ามานี่เลือดตาแทบกระเด็น แถมได้มาก็อัพเต็มไปคนละสายแล้ว ตกลง CP 2 เท่าเนี่ยให้มาอัพนอกสายสินะ ตอนนี้ยังขาดมิชชั่นอีกราวๆ 5 อัน เพิ่งตีเต่าได้ของอัพเกรดอาวุธมาอันแรก หลังจากตีอยู่นานมากๆ
ไม่มี comment เลยเหรอพี่เหมียวหลังจบอะ………..จะมาติดตามไว้ใช้ตัดสินใจตอน eng มันออก………