255 | Ode of Life Bestowing

“แพ้มาตั้งสองครั้งแล้ว…..รอบนี้จะไหวไหมเนี่ย”
มิสร่าเรดเมจคนนึงกำลังนั่งรำพันกับตัวเองอยู่ที่ Stellar Fulcrum ส่วนที่สูงที่สุดของหอคอย Delkfutt’s Tower ปากทางเข้าแบทเทิลฟิลด์สุดท้ายของ A Crystalline Prophecy เรดเมจคนนี้กำลังนั่งรอเพื่อนๆ ทั้งหลายที่กำลังตามมา มิสร่าคนนี้มีชื่อว่า Troisans แต่บางคนก็เรียกเขาว่า Dahlia (ดาห์เลีย) เพราะเรื่องราวสมัยก่อนและดอกไม้ที่แปะอยู่หัวของเธอ สีหน้าของเรดเมจแมวเหมียวคนนี้เต็มไปด้วยความกังวลใจ เพราะด้วยความพ่ายแพ้สองครั้งก่อนนั้นคอยหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา
“จะเดียIII ก่อนแล้วค่อยเชนสเปลหรือว่าเชนสเปลก่อนแล้วค่อยเดียIII ดีเนี่ย”
“สตันไปก่อนเลยไหม..ไม่ได้สิ เดี๋ยวติดดีเลย์ ไม่งั้นต้องเชนสเปลแล้วสตันแล้วเดีย…..
เน็ทมันจะหลุดมั้ยเนี่ย แล้วถ้า Lag ละก็นะ……”
เรดเมจนั่งพึมพำงึมงำอยู่คนเดียว ดาห์จังนั้นมาถึง Stellar Fulcrum เป็นคนแรก อาจจะเพราะด้วยความกลัดกลุ้มและร้อนรุ่มใจจึงมาถึงก่อนเพื่อน หรืออาจจะเป็นว่าเพราะเรดเมจไม่ต้องเตรียมไอเท็มมากมายเท่าเหล่านักต่อสู้ระยะประชิดทั้งหลาย
“แผนวันนี้จะเป็นแบบ Zerg นะ พี่เมี้ยวมีเดียIII อ้ะเป่า..
อืมม มีเหรอ งั้นก็เดียก่อนแล้วสตันไปเรื่อยๆอย่าหยุดนะ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของหน่วยถล่มเอง”
เอเลเนียนัดแนะแผนผ่านทาง Party Chat วันนี้เอเลเนียหยิบฮากุนมาเป็นซามูไรชั่วคราว ซึ่งตอนนี้กำลังซื้อของจาก Auction House ก่อนจะออกเดินทางมาที่ Stellar Fulcrum
“ไม่มีตังอ่าาาา ซื้อ Icarus Wing ให้หน่อยดิ”
เสียงโอเปร่ามิสร่าอีกคนนึงที่จะมาช่วยโอดครวญผ่านทาง Linkshell Chat
“พี่เมี้ยวสปอนเซอร์หน่อยดิ!” เอเลเนียตามน้ำ/เนียน
“พี่ดาห์ออกตังให้หน่อยดี๊” พลาสม่าเริ่มเนียนอีกคน
พี่เมี้ยวหรือพี่ดาห์ที่กำลังนั่งกุมขมับท้องไส้ปั่นป่วนอยู่ใน Stellar Fulcrum พอได้ยินก็เริ่มสลด แววโดนไถตังแว่วมารำไร แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อก็รบกวนเขาให้มาช่วยแท้ๆ จะออกให้ซะหน่อยก็คงไม่เหลือบากกว่าแรงละมั้ง พอคิดได้อย่างนั้นก็ลองเปิดกระเป๋าสตางค์นับเงินอีกรอบว่าเหลืออยู่เท่าไหร่..
“ซื้อมาเลย ถ้าชนะเดี๋ยวจ่ายให้ทุกคน” (แต่ถ้าไม่ชนะก็ไม่จ่ายนะ….พูดเบาๆ)
พอได้ยินดังนั้นทุกคนก็เฮฮาหยิบ Icarus Wing เอย Sleep Potion เอยจาก Auction House กันอย่างสนุกสนาน พอตระเตรียมซื้อของเสร็จเรียบร้อย ไม่นานทุกคนก็ตามมาถึง Stellar Fulcrum

ทีมผู้ท้าชิงในวันนี้ประกอบไปด้วยตัวหลักสองคนที่ต้องการชัยชนะเพื่อจบเนื้อเรื่อง A Crystalline Prophecy ซึ่งก็คือ เรดเมจมิสร่า พี่เมี้ยวใจร้าย/ดาห์จัง รับบทเป็น Rdm/Drk ทำหน้าที่เชนสตัน และ เอเลเนีย เอลวานหญิงร่างโย่งที่วันนี้หยิบฮากุนมาเป็นซามูไรเต็มพิกัด อีกคนนึงที่มากึ่งช่วยกึ่งจริง เพราะชนะมิชชั่นนี้ไปแล้วแต่เกิดอาการอยากเปลี่ยนเสื้อขึ้นมาก็คือมิสร่า Tsharyo เป็น WAR ทำหน้าที่ยำใหญ่ไม่ต้องยั้งมืิ อีกสามคนที่ถูกเกณฑ์มาช่วยแบบไม่จ่ายค่าจ้าง ได้แก่พลาสม่าซามูไรผู้พลิกฟ้า ลุงโอเปร่าที่โดนลากไปช่วยทุกงาน สำหรับงานนี้รับบทเป็น Monk มารัวหมัดโดยเฉพาะ และ Amenias เป็น BRD ทารุทารุที่ไม่ค่อยพูดอะไร โดนเอเลเนียหักคอลากมาเอาดื้อๆ
“เท่าไหร่อ่ะ Icarus Wing” พี่เมี้ยวถามพลาสม่าที่เพิ่งมาถึง
“1M พี่ ปีกเทพ ไร้พ่าย”
“….” (เอ็งจะเอาไปต่อทุนไดนามิสรึไงฟระ)
“แหมล้อเล่นพี่ แปดพัน”
พี่เมี้ยวก็ควักกะตังจ่ายพลาสม่าไป
“ไม่อยากจะวิ่งเก็บ Seed Fragment แล้วนะ เหนื่อยโคตรวิ่งสามรอบ”
ดาห์จังบ่นกับเอเลเนียและ Tsah ที่เพิ่งจะไปวิ่งรอกเก็บ Seed Fragment กันทั่ว Delkfutt’s Tower มาหมาดๆ การเก็บ Seed Fragment 13 อันที่กระจายอยู่ทั่ว Delkfutt’s Tower นั้นเป็นเงื่อนไขสำหรับการเข้าต่อสู้ในแบทเทิลฟิลด์สุดท้ายอันนี้ หากพ่ายแพ้ก็จะต้องเริ่มเก็บใหม่ตั้งแต่อันแรกอีกครั้งนึง หากจะนับจริงๆ เอเลเนียวิ่งเก็บ Seed Fragment 13 อันเป็นรอบที่ 4 แล้วด้วยซ้ำ เพราะก่อนหน้านี้แพ้มาแล้ว 1 รอบ
เอเลเนียเนี๊ยบแมนในเกราะ Askar กางเกงเปี๊ยกโกะนัดแนะทั้ง 6 คนเกี่ยวกับแผนการต่อสู้ให้ทุกคนก็รับทราบทั่วกัน การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นแบบ Zerg จบภายใน 1 นาที หากมันไม่พ่ายเราก็ม้วย เพราะว่าสองครั้งก่อนใช้แผนสู้แบบปกติ แต่ไม่สำเร็จแพ้รวดทั้งสองครั้งวันนี้จึงมีการเปลี่ยนแผน สำหรับวันนี้หลังจากเข้าไปใน BC ให้ Buff ตามปกติแล้วให้อาเมเนียส Soul Voice เพิ่มพลังโจมตี จากนั้น Tsah เข้าไป Voke เปิดเกมแล้วตามด้วยใช้ WS ระหว่างนั้นให้พี่เมี้ยวเดียIIIแล้วเชนสตันใส่บอส ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวก Melee ทั้งหลาย ดูเหมือนจะง่ายนะ….แต่อะไรอะไรมันก็ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก เพราะถ้ามันง่ายขนาดนั้นคงไม่แพ้มาแล้วถึง 2 รอบ เรดเมจมิสร่านึกในใจ และคาดหวังว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายและครั้งสุดท้ายที่จะได้เผชิญหน้ากับเจ้า Seed Crystal ก้อนนี้
“ลุยล่ะนะ!” เอเลเนียนำเข้าแบทเทิ่ลฟิลด์เป็นคนแรก
เรดเมจสาวร่างเล็กตามเข้าไปด้วยหัวใจเต้นระรัว กดผิดกดถูกจนลืมกดแคนเซิลคัทซีน…..ต้องดูพ่อหนุ่มอัลโด้ประคองพี่สาวก่อนจะโดนเจ้า Seed Crystal จะกล่าวคำปราสมาสดูแคลนว่าเป็นมดปลวกที่อาจหาญต้อต้านชะตากรรมซ้ำอีกรอบ เมื่อเข้ามาได้ก็บัฟตามปกติ บางคนก็หยิบ Sleep Potion มากระดกเพิ่ม TP บางคนก็กด Reraise Earring กันตาย เจ้ามิสร่าพอเห็นเขากด Reraise Earring กันก็เลยนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็มีเหมือน จึงหยิบต่างหูเก่าเก็บข้างนั้นขึ้นมาใช้มั่งโดยหวังว่าคงจะช่วยอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย

หลังจากตระเตรียมทุกอย่างเสร็จ ทุกคนพร้อมเริ่มลุย Tsah หยิบขวานออกมาเตรียมจะง้างเข้าจู่โจม
“”เพลงหล่ะ? ไม่มีเหรอ” Tsah ถามขึ้นมา
“….”

อาเมเนียสที่เงียบอยู่นานแล้ว พอได้ยินก็ถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองต้องใช้ Soul Voice เลยรีบตาลีตาเหลือกเปิดฟลอร์แดนซ์ Soul Voice แล้วร้องเพลงให้ฟังทันที “จะรอดมั้ยเนี่ย” พี่เมี้ยวนึกขึ้นพร้อมกับกำลังใจที่ลดลงราว 15% พอทุกคนได้รับเสียงเพลงเสริมกำลังกันครบถ้วน ก็เริ่มเปิดฉากสงครามกันทันที
Tsahryo วิ่งตรงดิ่งเข้าไปยัง Seed Crystal ที่รออยู่นานแล้ว หากมันพูดได้มันก็คงบ่นมา “ช้าจริ๊ง! พร้อมจะลุยกันมานานแล้วววว!!” แต่บังเอิญมันก็ไม่ได้บ่นอะไรออกมา Tsahryo ใช้ Provoke ใส่ Seed Crystal พร้อมกับหวดขวานยักษ์ในมือเข้าสุดแรง พลาสม่า เอเลเนีย และโอเปร่าก็ตามเข้าไปสมทบทันที ส่วนอาเมเนียสหลังจากบัพแล้วก็ไม่มีหน้าที่ต้องสนับสนุนในการโจมตี เพียงรอเติมพลังและ Lullaby พวก Strahl ที่อาจจะถูกเรียกออกมา จึงหลบออกไปทางด้านข้างเพื่อให้ทุกคนต่อสู้ได้ถนัด เรดเมจมิสร่าที่กังวลว่าจะกดผิดกดถูก เน็ทจะหลุดมั้ย จะโดนท่า Nihility สกัดจังหวะมั้ย สุดท้ายก็ตัดสินใจเชนเปลก่อนค่อยใช้เดียIII แล้วจึงสตันรัวๆ ซึ่งก็ไม่ได้ตื่นเต้นจนกดผิดพลาดอย่างที่กังวลแต่อย่างไร
Tsa : เอานี่ไปกิน! King’s Justice! > The Seed Crystal takes 1414 points of damage.
พลาสม่าก็ไม่น้อยหน้า จรดสุดยอดดาบคาตานะ อามาโนะมุราคุโมะ คู่ใจชี้ขึ้นฟ้า
แล้วฟาดลงมาตรงๆก่อเกิดเป็นคลื่นพลังพวยพุ่งออกไป
Plasma use Tachi : Kaiten > The Seed Crystal takes 1489 points of damage.
Elenia use Tachi : Yukikaze > The Seed Crystal takes 1225 points of damage.

การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ทุกๆคนโหมกระหน่ำท่าไม้ตายโดยไม่มียั้งมือ หลอดพลังของ Seed Crystal ก็หดลงๆ อย่างรวดเร็วในไม่กี่วินาที เจ้า Seed Crystal ก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ แม้จะโดนกระหน่ำสตันก็ยังโจมตีตอบโต้กลับมาได้ เพียงการโจมตีปกติของมันก็เป็น AoE แล้ว เหล่า Melee ที่เข้าไปกลุ้มรุมด้วยก็โดนเข้าจังๆทุกคน ถึงแม้จะไม่แรงมากถึงตาย แต่ก็ไม่ใช่เบาๆ 100-200 ดาเมจ โดนบ่อยๆพลังก็เหลืองได้แดงได้เหมือนกัน
Operaa : มุโชอาชุระเคน (Asuran Fist) !! Q’ A’)=O=O=O
The Seed Crystal takes 961 points of damage.

การโหมโจมตีเป็นไปอย่างอย่างดุเดือดจน Seed Crystal เหลือ HP อยู่ราวๆ 40% อาเมเนียสก็ใช้ Divine Seal Curega II เติมพลังให้กับเหล่านักสู้ ซึ่งก็ช่วยให้ HP กลับไปอยู่ในระดับ 700-1000 กันทุกคน ทุกอย่างก็ดูช่างไปได้สวย HP ของ Seed Crystal ก็ลงลงเรี่อยๆโดยฝ่ายเราเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเพิ่ม Icarus Wing เริ่มถูกหยิบมาใช้ เพื่อกระหน่ำท่าไม้ตายซ้ำเข้าไปอีก จิตใจของเรดเมจมิสร่าเริ่มปลอดโปร่งขึ้นเมื่อเห็นแสงสว่างของชัยชนะอยู่รำไร (ระหว่างที่กดสตันรัวๆ) และเริ่มจินตนาการว่าจบการต่อสู้แล้วจะได้ไปเลือกเสื้อสวยๆตัวไหนดี Neuvo ก็ดี หรือ Mirke ให้ DNC ก็สวย แต่ไม่เอา Royal เด็ดขาดเพราะมันเสร่อเหลือทน หลอด HP ของ Seed Crystal เหลือเพียงขีดเล็กๆ 1 Pixel สุดท้าย ความปราชัยสองครั้งก่อนในที่สุดก็จะถูกล้างแค้นเสียที ในสมุดโน้ทก็จะได้ไปติ๊กว่าจบ ACP Mission แล้วด้วย ความเครียดที่สะสมจะได้ปลดปล่อยออกไปให้หมดสิ้น………อา….


The Seed Crystal uses Seed of Judgement.
Elenia takes 877 points of damage.
Operaa takes 875 points of damage.
Plasma takes 880 points of damage.
Amenias takes 722 points of damage.
Tsahryo takes 873 points of damage.
Troisans takes 710 points of damage.
The Seed Crystal hits Elenia for 188 points of damage.
The Seed Crystal hits Opera for 185 points of damage.
The Seed Crystal hits Plasma for 159 points of damage.
The Seed Crystal hits Troisans for 120 points of damage.

Elenia was defeated by the Seed Crystal.
Operaa was defeated by the Seed Crystal.
Plasma was defeated by the Seed Crystal.
Tsahryo was defeated by the Seed Crystal.
Troisans was defeated by the Seed Crystal.
Amenias was defeated by the Seed Crystal.

“wtf….”
“อ๊ากกกก”
“lol;;;;;”
“….”
ทุกอย่างช่างเงียบสงบ ราวกับฟ้าผ่ากลางแดดเปรี้ยง เมื่อสักครู่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย…..มิสร่าเรดเมจเริ่มทบทวนในใจ ตะกี้เห็นพลังมันเหลือ 1 Pixel สุดท้าย พลังฝ่ายเราก็เกือบเต็ม แล้วทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาแล้วก็มีเสียงกระแทกอีกครั้ง….รู้สึกตัวอีกทีแถบสเตตัสที่ด้านขวาล่างของจอก็มีแต่เลขศูนย์สีแดงเรียงกันหกตัว! มันอะไรกันเนี่ย! เกิดอะไรขึ้น! เมื่อสงบจิตใจมองดูสถานการณ์ที่แท้จริง ดูเหมือนว่าทุกคนจะโดน Seed of Judgement และตามด้วยการโจมตีปกติจนตายคาที่สินะ…ตายคาที่มันแปลว่าอะไรนะ เริ่มจะไม่เข้าใจแล้ว…เชนสเปลเอ็ฟเฟ็คยังไม่ทันหมดเลย ตายคาอยู่ตรงนั้นเลยเหรอ ที่สำคัญยังไม่ทันเห็นว่าพลังลดเลยด้วย เห็นอีกทีก็ลงไปกองกันหมดแล้ว
ท่ามกลางความความสงบเงียบอันเย็นยะเยือก Log Chat นิ่งสนิท ไม่มีใครพูดอะไร ไม่มีใครทำอะไร
“ยังไม่จบแค่นี้หรอกน่า”
มิสร่าเรดเมจลุกขึ้นมาด้วย Reraise ที่ใช้ไปก่อนเริ่มสู้ เอเลเนีย พลาสม่า และคนอื่นๆก็ทยอยลุกขึ้นมาเช่นกัน แม้พลังมันเหลือแค่ 1% แต่ด้วยสภาพที่เพิ่งได้สติบาดเจ็บเต็มตัวทำให้ไม่มีใครเสี่ยงเข้าไปปะทะด้วย ดาห์เลียนั้นเมื่อลุกขึ้นมาแล้วก็มองไปยัง Seed Crystal ผู้อำมหิต ชื่อของมันนั้นกลายเป็นสีเหลืองไปแล้ว หากทิ้งไว้อย่างนี้สักครู่มันต้อง Regen พลังแน่ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นละก็เกมโอเวอร์ของจริงชัดๆ เวลาไม่รอช้าดาห์เลียเปิดวินโดว์เวทย์มนต์ขึ้นมา Scroll ด้วยความคล่องแคล่วและช่ำชองไปยังเวทย์ที่คุ้นเคย (ทำไมแกไม่ใช้มาโครวะ)
Troisans cast Bio III. The Seed Crystal take 4 points of damage.
“นี่คงพอถ่วงเวลาได้บ้าง” มิสร่าเรดเมจนึกในใจก่อนโดน Draw in เข้าไป
“ยัง..ยังไม่พอ…อย่างเราคงไม่มีปัญญาทำดาเมจ”
“Nuke ไปขายขี้หน้าเขาเปล่าๆ” (เรื่องจริง)
“ที่พอทำได้ก็คงมีแต่ DoT เท่านั้น”
ดาห์เลียพยายามดิ้นรนเฮือกสุดท้ายหลบไปด้านข้างเพื่อจะ Cast Poison II ใส่อีกชั้นนึง แต่ทว่า
The Seed Crystal uses Seed of Nihility.
ท่านี้เป็น AoE ขนาดกลาง รัศมีไม่กว้างมากเท่า Judgement และไม่แรงมากนัก แต่มันก็มากพอจะให้คนที่เพิ่งได้สติลุกขึ้นมากลับลงไปนอนกันใหม่อีกรอบ Nihility ส่ง เอเลเนียกับ Tsahryo ลงไปสัมผัสพื้นซีเมนต์ศิลปะการสร้างแบบ Cermet ซึ่งเป็นที่นิยมในวาน่าดีล แล้วก็ยิงซ้ำด้วยการโจมตีปกติอีกครั้งส่งให้คนที่เหลือแดดิ้นตามกันไป…
เหลือเพียงพลาสม่าคนเดียวที่ยังมีชีวิตเหลือรอดอยู่ HP ของเขาเป็นตัวเลขสองตัวได้แก่ 8 และ 4 สีแดงชัดเจน พลาสม่านั้น Reraise ขึ้นมาได้ไวและได้รับการ Cure จากอาเมเนียสจนพอจะมี HP เหลืออยู่มากจนทำให้รอดจาก Nihility มาได้ และเขาก็หลบฉากออกจากระยะได้ไวจนทำให้ไม่โดน Draw-In เข้าไป ได้ยินมาว่า Crystal Seed นั้นไม่ Aggro ก่อน จริงแท้แน่นอนขนาดไหนวินาทีนี้คงไม่มีใครอยากลอง พลาสม่าแม้จะมีอามาโนะมุราคุโมะ สุดยอดดาบคาตานะในฝันของซามูไรอยู่ในมือ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าเขานั้นขึ้นชื่อเรื่องฟันวืดอย่างรุนแรง และใครที่ไม่รู้ก็ขอแจ้งให้ทราบว่า Tachi : Kaiten พลิกฟ้านั้นแม้จะเป็นท่าสุดยอดของซามูไร แต่ก็มีอัตราการว่าวสูงสุด(อย่าคิดลามกนะจ๊ะ) ใน Weapon Skill ที่ซามูไรมีเลย HP 1% สุดท้ายที่เหลืออยู่นี้ หากมัน Regen ได้เมื่อไหร่ก็เตรียมตัวไปเก็บ Seed Fragment กันใหม่เลย

ในเมื่อเวลาไม่รอช้า จะให้นั่งรอจนมัน Regen ก็คงจะทำให้โดนประนามหยามเหยียดเป็นแน่แท้ พลาสม่าชักอามาโนะมุราคุโมะดาบคู่ใจออกมา พร้อมกับถามว่า BioIII เหลือประมาณเท่าไหร่จึงจะหมด ดาห์เลียผู้ร่ายเวทย์ก็บอกไปว่าอีกราวๆ 1 นาที เนื่องจากอัพเมอริทไป 4 ขั้น จริงๆแล้วน่าจะอยู่ได้สองนาที แต่คร่าวๆจากเวลาที่ผ่านไปก็คงเหลือประมาณ 1 นาที
สายตาของพลาสม่าจับจ้องไปยัง Seed Crystal ดาบคู่ใจในมือของเขาพร้อมแล้ว แต่ว่าจะทำเช่นไรดี หากลงดาบแล้วพลาดทุกอย่างที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญสลายไปในทันที หากต้องการจะปิดฉากด้วย Weapon Skill นั้น Meditate ก็ยังไม่พร้อมเสียอีก เพราะว่าโดน Seed of Nihility เข้าไปเมื่อกี้ จึงส่งผลให้ Recast ของเอบิลิตี้ทุกชนิด Cooldown Reset หมด รออีก 1 นาทีพลาสม่าจึงจะสามารถใช้ Meditate สร้าง TP ให้ครบ 100% เพื่อปิดฉาก 1% สุดท้ายด้วย ท่า Tachi : Kaiten ลง
เวลาเชื่องช้าราวกับว่าจะหยุดลง…ไร้ซึ่งสุ้มเสียงใดๆ ทุกๆคนได้แต่ภาวนาในใจให้บรรยากาศที่น่าอึดอัดเช่นนี้จบลงเสียที ผู้แบกรับความควาดหวังที่หนักอึ้งนี้ก็คือพลาสม่า เขาเป็นความหวังของทุกคน ดาบที่จักฟาดฟันลงไปจะตัดสินทุกอย่าง Seed Crystal ยังคงนิ่งไม่ไหวติงราวกับไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น พลังของมันก็ยังคงอยู่ที่ 1% เช่นเดิม ไม่มีใครรู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ มันอาจะรอให้พลาสม่าเข้ากลุ้มจู่โจมและพร้อมจะสวนกลับด้วย Thunderga III นิ่มๆ ที่พอจะตอกย้ำชัยชนะของมันได้อย่างสบาย หรือจริงแท้แล้วเพียงแค่ลมหายใจมันก็อาจจะมากเกินพอในการปลิดชีวิตศัตรูที่บาดเจ็บสาหัสลงได้
.

….
…..
…….
………..
เวลาช่างผ่านไปช้าจริงๆ ในใจของเรดเมจมิสร่านั้นกลับยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้ว ภาพในสมองที่ผุดขึ้นมาก็คือการวิ่งเก็บ Seed Fragmant อีกครั้ง ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 13 กอบลินและค้างคาว ต่างกระหยิ่มยิ้มย่องราวกับว่าจะหัวเราะเยะในความอ่อนด้อยของเจ้าเรดเมจคนนี้
“เห้ย มันมาอีกแล้วหว่ะ” กิกาสเกทคีปเปอร์ร่างยักษ์พูดพลางชำเลืองมองมาทางนี้
“สงสัยแพ้ลูกพี่มาอีกแล้ว กร๊ากกกก” ซีกเกอร์แบทหันมาเหยียดหยามด้วยน้ำเสียงเอคโค่ x 3
“ไม่เหนื่อยมั่งหรือไงจ๊ะน้องจ๋าววววว ฮ๊าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” กอบลิน ลีชเชอร์หัวเราะเยาะอย่างสะใจ
ภาพหลอนตอกย้ำความรู้สึกพรั่งพรูขึ้นมามากมายในหัวไม่หยุดยั้ง
อีกแล้วเหรอ!
อีกแล้วเหรอ!
จะต้องสู้อีกสักกี่ครั้งกันเนี่ย!
พอได้แล้ว!
พอได้แล้ว!!!!
พลาสม่าก็ยังคงถืออามาโนะมุราคุโมะอยู่ Seed Crystal ก็ยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เวลาในแบทเทิลฟิลด์ก็ยังเหลืออีกมาก มากพอจะให้ Seed Crystal ส่งพวกเราไป Homepoint ได้สามรอบสบายๆ พลาสม่ายังคงลังเลว่าจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์อันตรึงเครียดนี้ เร็วเกินไปก็อาจจะพลาดได้ ช้าเกินไปก็อาจจะไม่ทันการณ์…ทางสายชัยชนะที่แท้จริงมีเพียงหนึ่งเดียว แต่มันอยู่ที่ไหนกันล่ะ!? อัลทาน่าเท่านั้นที่จะตอบคำถามนี้ได้
Seed Crystal ยังคงนิ่งสงบ ไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆมาตั้งแต่เมื่อครู่ แต่แล้วก็มีบางสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้น Seed Crystal สั่นไหวเล็กน้อย พลาสม่าก็ยังคงจับจ้องมองไปยังเจ้าก้อนคริสตัลผู้ไร้ความปราณี พลาสม่าสืบท้าวออกด้านข้างเล็กน้อย ทันใดนั้น Seed Crystalก็ หยุดสั่น…จากนั้น…ทุกๆอย่างก็มืดมิดสนิทลง








ถ้าพูดถึง Auction House ถ้าหากเป็นคนรุ่นเก่าหน่อยก็จะนึกถึงที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก Lower Jeuno ที่ซึ่งมีเคาว์เตอร์ Auction House เรียงรายเป็นแนวยาวเกือบตลอดข้างทาง ก่อนที่ทาง Duchy of Jeuno จะเล็งเห็นว่าจำนวน Auction House มีไม่พอกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น จนสุดท้ายก็ใช้วิธีเพิ่มพนักงานสำหรับ Auction House กระจายไปตามจุดต่างๆทั่ว Jeuno เพื่อรองรับการใช้งานให้สะดวกสบายกว่าเดิม แม้ทุกวันนี้ผู้คนจะเริ่มย้ายหลักแหล่งถิ่นฐานไปยัง จักรวรรดิ Aht Urhgan ที่ยิ่งใหญ่แห่งทวีปอาราดิย่ากันเป็นจำนวนมากแล้วก็ตาม แต่ที่ Lower Jeuno วันนี้ก็ยังคงพลุกพล่านไปด้วยผู้คนไม่ต่างจากวันวาน
มิสร่าสาวคนนึงวิ่งสาวท้าวอย่างรวดเร็ว ท่าทางของเธอนั้นรีบเร่งราวกับกำลัง Kite Kirin อยู่ก็มิปาน มิสร่าคนนั้นรีบวิ่งลงบันไดมาจาก Rulude Garden หนึ่งชั้น…สองชั้น…แล้วก็เลี้ยวหัวมุมออกมายัง Lower Jeuno วิ่งตรงไปยัง Auction House แต่ยังไม่ทันจะถึง เธอก็เลี้ยวออกไปยังอาคารด้านข้างติดๆกันที่มีประตูบานใหญ่อยู่ มิสร่าคนนั้นไม่รีรอช้า เปิดประตูอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าไปข้างใน
“สำนัก Tenshodo” ป้ายชื่อนี้ติดอยู่หน้าประตูทางเข้า
“มาหาอัลโด้เหรอวันนี้” Harnek ถามมิสร่าร่างเล็กที่วิ่งกระหืบกระหอบเข้ามา
“เปล่าค่ะ วันนี้มาเอาของเฉยๆ” มิสร่าตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ลงบันไดมาเล็กน้อยก็พบกับห้องโถงขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ภายในมีสินค้าของ Tenshodo วางขายอยู่หลากหลาย สาวน้อยมองซ้ายมองขวาไปมา สายตาสอดส่องหาอะไรบางอย่าง และก็ไปสะดุดตาเข้ากับเอลวานหญิงคนนึงที่หน้าตาแสนจะคุ้นเคย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเอเลเนียนั่นเอง มิสร่าสาวไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหา เอเลเนียกำลังจดอะไรบางอย่างลงในกระดาษคำนวนยุกยิกๆ เบื้องหน้าของเขามีหีบสมบัติสีแดงขอบทองท่าทางมีค่าใบนึงวางอยู่
“โย่ พี่เมี้ยว” เอเลเนียทักทาย……
“ยะโฮ!” มิสร่าสาวทักตอบพร้อมกับหยิบกุญแจดอกนึงออกมาจากกระเป๋า และเดินตรงไปยังหีบใบนั้น









“เลือกนานจังเลย….ไปก่อนนะ” มิสร่ากล่าวคำลากับเอเลเนียที่ยังคงจดอะไรยุกยิกยุกยิกอยู่หน้าหีบ พร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียด ในมือของมิสร่ามีเสื้อเกราะสีขาวอยู่ 1 ตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจเผยแววอยากรู้อยากเห็นในแววตา มิสร่าสาวไม่รีรอช้า ยิ้มหวานหนึ่งทีให้กับเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์ แล้วเปิดประตูออกจากเทนโชโด วิ่งตรงดิ่งไปยังม๊อกเฮาส์ทันที
“รีบไปเปลี่ยนเป็นพาลาดินแล้วลองใส่ดีกว่า ตื่นเต้นจังเลย”
หลังจากเข้าไปในม๊อกเฮาส์และเปลี่ยนอาชีพเป็นพาลาดิน มิสร่าที่ตอนนี้ไม่ใช่เรดเมจแล้วก็บรรจงถอดเสื้อผ้าออก และค่อยๆสวมใส่เสื้อสีขาวใหม่เอี่ยมตัวนั้นลงบนร่างกาย ที่เสื้อเกราะตัวนี้มีสลักตัวหนังสือเล็กๆ สีเหลืองเขียนว่า “Enmity+5” และ “Fast Cast” effect +5%” อยู่ตรงชายเสื้อ พอใส่เสร็จมิสร่าสาวคนนั้นก็รีบวิ่งไปส่องกระจกทันที ภาพตัวเองในเสื้อสีขาวแซมน้ำเงิน ที่แขนเสื้อมีโล่ห์ขนาดย่อมๆติดที่ไหล่ มองๆไปก็ดูแปลกตาดึไม่น้อย

ดาห์จัง : Neuvo ไม่สวยเลยอ่า!!!
ดาห์จัง : อยากได้ Mirke แทนจัง ; ;”

มิสร่าสาวโพล่งบ่นอุบขึ้นมาใน Linkshell Chat
พลาสม่า : ไม่เป็นไรเพ่ เดี๋ยวไปสู้อีกทีก็ได้
พลาสม่า : เดี๋ยวใช้หมัดดาวเหนือสกัดจุด แล้วจ้องตามันจนตายอีกรอบ ( ‘3’)*
พลาสม่า : “เจ้าน่ะมันตายไปแล้ว! ‘ ∀’)=O- อะต๊าๆๆๆๆๆ “

พลาสม่าทำเสียงใหญ่ห้าว ล้อเลียนการ์ตูนยอดนิยมเมื่อสิบกว่าปีก่อน ผ่านทาง Linkshell Chat โต้ตอบ
เอเลเนีย : เลือกยังไม่เสร็จเลย เอาอะไรดีเนี่ย
เอเลเนีย : ไม่เป็นไร ไม่ถูกใจเดี๋ยวไปทำใหม่อีกรอบกะพี่เมี้ยวก็ได้ -_-)b
ดาห์จัง : ไม่เอาแล้วโว้ย ; ;







ปล. แถมล๊อกการต่อสู้ให้ดูด้วย

9 thoughts on “255 | Ode of Life Bestowing”

  1. ลำดับเหตุการ์ + ใช้วิธีการเล่าเรื่องได้ดีมากเลย แล้วว่ามาเล่าให้ฟังอีกนะครับ ^^!

  2. 555555 เจ๋ง!!
    บรรยายได้อลังการงานเมลืองมาก ๆ
    ชอบ! โฮกกกกกกก!!
    ของเราตอนไปตีไอ้คริสตัลจอมโคลนนิ่งเนี่ย ไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นเท่าไหร่
    สู้แบบธรรมด๊าธรรมดา เชื่องช้า และอดทน
    มีคนนึงตายไป 2 รอบด้วย (รู้สึกจะเป็นเรนเจอร์ ทารุ ตามฟอร์ม)
    แต่รู้สึกว่าเป็นการต่อสู้ที่แสนยาวนานและทรมานแสนเข็ญมาก ๆ
    เออ กดกลับไปอ่านที่ตัวเองเขียนอัพไว้ในบล็อก ทีมเราสู้นาน 24 นาทีล่ะ เอิ๊ก
    ยินดีด้วยงิพี่เมี้ยว
    อยากได้เสื้อ Neuvo มาก ๆ แต่ ณ บัดนั้นไม่สามารถใส่ได้
    เลยเอา Mirke มา
    Congratulations!!!

  3. ผมสู้กับไอ้นี้ไป 7 – 8 รอบ รู้สึกว่าจะมีแค่ 3 ครั้งแรกเท่านั้นที่แพ้
    หลังจากนั้นก็ win ตลอด แต่ใช้ set up เดิมทุกครั้ง
    2 smn >>> เป็น bot … set command ทุก ๆ 1 นาที แล้วจบกัน
    1 rdm/drk >>> นี่ก็ bot … set command see log … -ga ก็ stun
    1 pld >>> คนนี้กึ่ง ๆ bot วิ่งไป วิ่งมา cure skill …
    1 whm >>> คนนี้ bot ไม่ได้ …ต้องคอย cure
    1 any voker >>> นี่ก็ bot … see clone > invoke > att
    …. ไม่ค่อยเร้าใจเลยอะ … ไปเรื่อย ๆ -_-;

  4. ตอนแรกก็ทำแบบนั้นนะ รอบสองที่ลองสู้
    PLD โดน Charm บ่อยมาก
    แล้วก็โดน Nihil หรือ Judgement ซ้ำ
    มั่วไปมั่วมา แล้วก็ตายกันหมด

  5. อาทิตย์ก่อนเพื่อนชวนไปช่วยสู้มา บอกว่าจะ zerg
    เอา Monk ไป
    คนอื่นมี RDM, WHM, MNK
    ที่เหลือ 2 คนอาชีพอะไรก็จำไม่ค่อยได้ เหมือนจะ SAM ทั้งคู่
    เข้าไปถึงก็ 2 hr รุมมัน แต่โดน -ga อะไรสักอย่าง
    melee คนอื่นตายก่อน ร่วงทีละคน
    เหลือเรามีพลังติดตัวจิ๊ดเดียว 9 HP
    แล้วโดน charm…. กลางร่างเป็นแมนดราโกร่า เดินไปตบเมจตายทีละคน ทั้งคู่
    แล้วกลับไปยืนข้าวคริสตัลอย่างจงรักภักดี
    พอ uncharmed ก็โดน Crystal สะกิดตาย t(-_-
    มันแปลกมากเลย…. เพราะจำได้ว่าตอนไปสู่อย่างเชื่องช้ามาก่อนหน้านี้ ไม่เห็นมีใครโดน charm สักคนเดียว!
    ไม่รู้มาก่อนเลยว่ามัน charm ได้ด้วย!

  6. จริงอ่ะ สองรอบก่อนที่ไปสู้
    แทงค์โดน Charm ไปไม่ต่ำกว่า 15 รอบเลยนะ

  7. มันจะ charm ได้ถ้าอยู่ใกล้ๆ ตัวมันนะ ดังนั้นถ้าแท็งค์วิ่งหนีทันจะไม่โดน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *