กลายเป็นหน้าที่ประจำไปซะแล้วกับ An Unbiased Review ประจำ Summer Anime 2011 เริ่มจากเขียนเล่นๆกลายเป็นโทรลล่อเป้าแล้วก็พัฒนามากลายมาเป็นรีวิวใช้งานได้จริงไปแล้ว วัตถุประสงค์เปลี่ยนไปเยอะเลย เอาเถอะไม่เป็นไรละมั้ง…. สำหรับซีซั่นนี้ผมขอเรียกว่า โลลิซีซั่น เพราะว่ามีอนิเมแนวรสนิยมบรรเจิดเฉพาะกลุ่มผู้เฉียดคุกมากมายเหลือเกิน ผมถึงกับคิดจะเพิ่มเกจโลลิมิเตอร์เพื่อวัดระดับความโลลิให้อนิเมแต่ละเรื่อง แต่ทำไปทำมา…ไม่เวิร์คแฮะ…แล้วก็ขี้เกียจแล้วหว่ะ ดูตัวเลขเอาเองละกัน
ก่อนจะไปแนะนำซีซั่นใหม่ก็ต้องกล่าวถึงซีซั่นที่แล้วก่อนเป็นธรรมเนียม ซีซั่นที่แล้วนั้นผมดูอนิเมเยอะกว่าปกติพอสมควร ผมคิดว่าเป็นซีซั่นที่มีเรื่องที่ดีๆ สนุกๆ มากกว่าซีซั่นก่อนหน้าหลายเรื่องเลย แต่พอมาซีซั่นนี้ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยจะเยอะอีกแล้ว แถมยังไม่มีอนิเมชื่อดัง สตูดิโอดัง(ที่แฟนบอยเยอะ)เลยด้วย
ซีซั่นที่แล้วอนิเมที่ผมติดตามอาทิตย์ต่ออาทิตย์นั้นได้แก่เรื่อง อาโนะฮานะ, ไทเกอร์แอนด์บันนี่, ฮานาซากุ อิโรฮะ, นิจิโจว, สไตน์สเกท, C และ เดนปะอนนะ รวมทั้งหมดเจ็ดเรื่องและไม่มีอนิเมตกค้างจากซีซั่นก่อนแต่อย่างไร จากรายชื่อข้างบน อนิเมที่จบไปแล้วมีเพียง อาโนะฮานะ, C และ เดนปะอนนะเท่านั้น
อาโนะฮานะเป็นอนิเมที่ยอดเยี่ยมมากในทุกๆด้าน คงไม่ต้องกล่าวชมอะไรเพิ่ม ด้วยยอดขายของดอกนั่นที่สูงถึง 38,000 ชุดในสัปดาห์แรก ทำให้ผมรู้สึกว่าวงการอนิเมนี้ยังมีหวังอยู่ ถ้าอนิเมดีจริงก็สามารถทำยอดขายได้มากกว่าอนิเมบุหี้ไร้แก่นสารอย่าง IS ได้ ส่วน C นั้นผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เนื้อหาช่วงกลางเรื่องทำได้แปลกดี แต่บทสรุปกลับไม่เป็นที่น่าพอใจนัก เรื่องเดนปะอนนะนั้นเล่าเรื่องแบบนิยายมากไปหน่อย ตัวเรื่องก็ออกแนวไร้สาระเป็นทุนเดิม ก็เลยยิ่งดูไม่ค่อยมีเนื้อหาอะไรซะงั้น แต่ก็มีหลายฉากที่ชอบเหมือนกัน อนิเมจะมีเพิ่มอีก 1 ตอนใน BD และแทบจะฟันธงได้เลยว่าจะมีซีซั่นสองแน่นอน (เป็นแผนงานแต่แรก ไม่ได้วัดจากความนิยม)
ที่เหลือยังไม่จบทั้งสี่เรื่องนั้นถ้าจบแล้วจะพูดถึงอีกที แต่ก็อยากจะขอบคุณนิจิโจวเหลือเกินที่ปล่อยมุกฝืดมาได้ไม่หยุดหย่อนจนกลายเป็นว่าผมดูนิจิโจวเพื่อเอาชนะแทน… ผมดูเพราะมันไม่สนุก! ผมอยากรู้ว่าผมจะทนดูมันจนจบได้หรือไม่! ผมมั่นใจว่าแฟนบอยทั้งหลายที่บอกว่านิจิโจวตลกมากก็ทนดูได้ไม่มากเท่าผมหรอก! อยากรู้ว่าถ้าผมทนดูจนจบได้ ผมจะได้แพลตตินั่มโทรฟี่มั้ย! (หรือว่าต้องซื้อ BD มาบูชาด้วย)
สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนนั้นก็เหมือนเดิม (กลับไปอ่านอ่านเดิมก็ได้ก๊อปมา) คะแนนที่เป็นเปอร์เซนต์นั้นจะวัดจากความน่าติดตามและความสนุกของอนิเมเรื่องนั้น ซึ่งอาจจะรวมไปถึงภาพรวมของอนิเมเรื่องนั้นด้วย ส่วนคะแนนที่เป็นเกรดตัวอักษรภาษาอังกฤษนั้นคือคุณภาพของอนิเมทางด้านภาพ เสียง เอ็ฟเฟ็คส์ อนิเมชั่น นักพากย์ ซึ่งไม่รวมกับบท ความสมจริง เนื้อเรื่อง หรือ ความสนุก มุกตลก ก็ช่วยทำให้คะแนนทั้งสองส่วนแยกจากกันชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ด้วยกรณีพิเศษ เรื่องใดก็ตามที่ผมทนดูไม่จบ ไม่ว่าคุณภาพงานก่อนหน้าจะเป็นเยี่ยงไร จะได้รับ F และ 0% ไปทันที
เรียงจากห่วยไปดีละกันงวดนี้ เปลี่ยนบรรยากาศหน่อย
ขอบคุณนิจิโจวครับที่ช่วยยกมีน F ขึ้นมาเยอะเลย
R-15
พระเอกเป็นอัจฉริยะเรื่องนิยายลามกแล้วมาเรียนในโรงเรียนอัจฉริยะ(โรงเรียนเดียวกับไคโซเปล่าวะ) แล้วก็เจอโน่นเจอนี่ น่าเบื่อ ไม่สนุก งานห่วย ดูไม่จบ เซ็นเซอร์ เอาท์ไปนาทีที่สิบสอง
Check Point: ไม่สนุกแล้วยังเซ็นเซอร์เยอะมากด้วย
คะแนนรวม: F
ความน่าติดตาม: 0%
โลลิค่อนมิเตอร์: 20pt งั้นๆหว่ะ
Ikoku Meiro no Croisee
อนิเมสำหรับผู้รสนิยมบรรเจิดอีกเรื่องนึงประจำโลลิซีซั่น ระหว่างที่ผมดูนั้นมีความคิดโสมมโผล่ขึ้นมามากมายในสมอง ณ ศตวรรษ 19 ประเทศฝรั่งเศส ตาแก่ตัณหากลับวัยไม้ใกล้ฝั่งคนนึงหิ้วเกอิชาอายุคราวเหลนกลับมาจากญี่ปุ่น และยังฝากทำงานในร้านตีเหล็กที่มีชายหนุ่มโสดกลัดมันอยู่คนเดียว!? (กระทง 1 ใช้แรงงานเด็ก, กระทง 2 ทาสในเรือนเบี้ย) ยูเนะมาฝรั่งเศสแต่ว่าใส่กิโมโนทุกวัน ใครช่วยยูเนะใส่กิโมโน? 1) ตาแก่หัวหงอกตัณหากลับ 2) ตาแก่ตัณหากลับหัวหงอก 3) ชายโสดวัยกลัดมัน 4) ใช้โซลเจม ภาพตัดมาที่ห้องของยูเนะ ยูเนะนั่งอยู่บนเตียงกับตาแก่หัวงูโลลิค่อน ทั้งสองหัวเราะคิกคักแล้วภาพก็ตัดไป เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นกันแน่!? แต่ที่แน่ๆคงไม่ได้เป็นเรื่องดีเรื่องาม! ยูเนะเวลาทำผิดจะคุกเข่าขอโทษราวกับว่าจะถูกประหารชีวิต ตอนที่อยู่ญี่ปุ่นยูเนะโดนทารุณกรรมแบบไหนมาก่อนกันแน่! ภายใต้ชุดกิโมโนนั้น ผิวขาวๆอาจจะเต็มไปด้วยรอยแส้หวายหรือหยดเทียน ระหว่างที่ดู ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นมาในสมองผมไม่หยุดหย่อน
ตัวอนิเมเองก็มีคุณภาพระดับงั้นๆ ไม่ได้ดีเด่อะไรจนน่าจดจำ ตัวมังงะต้นฉบับนั้นจุดขายชัดเจนคือภาพที่สวยและความน่ารัก(โลลิ)ของยูเนะ แต่เวอร์ชั่นอนิเมนั้นความสวยของภาพก็ไม่ได้โดดเด่น สุดท้ายก็เหลือแต่ความโลลิของยูเนะ เรื่องราวที่พยายามปูว่าเป็นฝรั่งเศส ก็ไม่ได้ความรู้สึกของการผสานวัฒนธรรมเลย เหมือนเอาเกอิชาไปเดินในโลกแฟนตาซีเฉยๆ ไม่มีมากมีน้อยไปกว่านั้น เปลือกมาก ไหนจะเรื่องภาษาที่ต้องคอยเดาว่าตอนนี้พูดภาษาอะไรอยู่ (เพราะมันพูดญี่ปุ่นกันตลอด แต่จริงๆจะพูดฝรั่งเศสบ้างญี่ปุ่นบ้าง) ความเนิบนาบที่อยากให้รู้สึก Healing ก็ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย กลายเป็นง่วงนอนแทน อนิเมเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รับข้อเสียข้างบนได้, ชอบยูเนะจนตามืดบอดหรือดูเพื่อศึกษารายละเอียดกิโมโนเท่านั้น
Check Point: โลลิพาวว่า!!!, ลุงหื่นหน้าใสกับเกอิชาน้อย, กิโมโนสวย
คะแนนรวม: D
ความน่าติดตาม: 8% ถ้าเป็นโลลิค่อนก็บวกไปตามแรงใจปรารถนา
โลลิค่อนมิเตอร์: 100pt พลาดก็เสียชาติเกิดเป็นโลลิค่อน
Blood-C
งานรีเมคอีกรอบของ Blood ที่มีคอนเซ็บคือสาวน้อยชุดนักเรียนถือดาบซามุไรไล่ฟันปีศาจ สำหรับจุดโปรโมทของ Blood รอบนี้คือคาแรกเตอร์ดีไซน์โดย Clamp ซึ่งเห็นทีแรกก็เล่นเอากลุ้มใจแล้ว ตัวอนิเมนั้นทำโดย IG ก็เลยคิดว่างานคงจะดี เอาเข้าจริงกลับอยู่ในระดับงั้นๆมาก คือถ้าบอกว่าเป็นที่อื่นทำจะไม่ว่าอะไรหรอก แต่พอบอกว่า IG ก็จะกลายเป็น อะไรวะเนี่ยทำไมมันกากโคตร บทก็ไม่มีอะไรน่าติดตาม ตัวละครก็โคตร Clamp ฉากแอ็คชั่นก็ไม่ได้มันส์เลย Blood มันต้องขายเลือดขายเนื้อสิ นี่อะไรไม่รู้ โช้งเช้งๆ (ชิกะ! ชิกะ!) น่าเบื่อมาก ที่ขัดที่สุดก็เป็นคาแรกเตอร์ดีไซน์ของ Clamp นั่นหล่ะ ดูไม่เข้ากับคอนเซ็บของ Blood เลย แถมพาลให้รู้สึกว่าเรื่องมันมีกลิ่น Clamp หึ่งอีกด้วย ไหนจะลูกสาวติดพ่อ ร้านกาแฟข้างบ้าน สาวแฝด ซึ่งยิ่งโผล่มาเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องมันเลื่อนลอยขึ้นเรื่อยๆ นี่คงเป็น Blood เวอร์ชั่นเด็กดีตลกโปกฮาที่สุดละมั้ง
Check Point: ทรงผมยอดแย่ประจำซีซั่น, มหัศจรรย์คน 10 ส่วน
คะแนนรวม: D
ความน่าติดตาม: 16%
โลลิค่อนมิเตอร์: 0
Uta no Prince
เรื่องนี้ก่อนดูผมก็ไม่ทันเฉลียวว่ามันจะเป็นอนิเมขายสาวๆ พอเปิดทีแรกก็ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อยกับเหล่าหนุ่มหล่อที่มาเต้นรำส่งสายตาเย้ายวนหยาดเยิ้ม…. ผมจึงปิดมันซะ แล้วไปสงบสติอารมณ์สามสี่วันค่อยกลับมาเปิดอีกครั้ง
โอเค ตอนนี้ผมตั้งสติแล้ว เนื้อหาเรื่องอุตะพรินซ์เนี่ย จริงๆมันเป็นแนวโชโจฮาเรมเต็มรูปแบบ แถมยังขุดเอามุกโชโจ(สาวน้อย)มาครบทุกสถานการณ์ มาสอบเข้าไม่ทันเพราะช่วยคนอื่น มีหนุ่มหล่อ(หลายคน)มาช่วยเหลือ สอบติดก็ไปพัฒนาความสัมพันธ์กันต่อ เผลอนิดเดียวก็มีหนุ่มรวยหล่อเท่มากมายล้อมหน้าล้อมหลังทั้งๆที่นางเอกเป็นสามัญชนหน้าตาดาษๆ แถมนางเอกจะต้องแสนซื่อมองทุกคนด้วยความบริสุทธิ์ใจ บลาๆๆๆๆๆๆๆ
สำหรับงานอนิเมชั่นและดีไซน์ต่างๆทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว (A1) ฉากร้องเพลงนั้นคุณภาพสูงจนฟุกระอักเลือดแน่นอน รายละเอียดความหล่อก็ครบถ้วน หนุ่มๆในเรื่องแม้ยามใช้ชีวิตปกติก็ยังกรีดนิ้วค้อนสายตาได้อย่างเร่าร้อน ปกติแล้วข้อดีของอนิเมขายฟุเนี่ย คือวาดนางเอก(หรือชะนีในสายตากลุ่มเป้าหมาย)ได้น่ารัก นางเอกเรื่องนี้เนี่ยรวมๆก็น่ารักนะ แต่ตานี่สิ…น่ากลัวมาก เป็นตาต้อกระจกเหรอ… ยิงออฟติคบลาสต์ได้หรือเปล่า…
เอาเป็นว่าสาวๆทุกท่านที่ชื่นชอบแนวฮาเรมก็ดี หรือจะจิ้นหนุ่มๆกันเองก็ดี คิดว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนผมเองขอบายละกัน
Check Point: วาดดีมาก, ฟุไม่จิ้นก็ดูได้
คะแนนรวม: B
ความน่าติดตาม: 18% ถ้าเป็นฟุก็ x2
โลลิค่อนมิเตอร์: 0
Double J
ผมไม่เข้าใจ…. ผมไม่เข้าใจ……และผมไม่เข้าใจ อืมม…ใช่แล้วหล่ะ ความไม่เข้าใจเป็นความรู้สึกที่ถูกต้องในการรับชมอนิเมเรื่องนี้นี่เอง!
ดับเบิล J ต้นฉบับนั้นแต่งเรื่องโดย เอย์จิ โนนากะ คนเขียนเรื่องคุโรมาตี้ แต่ในดับเบิล J นี้จะให้คนอื่นวาดแทน (วาดให้โมเอ้ๆ) แต่เนื้อหาก็ยังคงความไร้สาระดังเดิม ทางด้านตัวอนิเมนั้น ดับเบิล J เป็นอนิเมทุนต่ำ นอกจากเสียงพากย์แล้ว เรียกได้ว่าเป็นงานที่สร้างได้ด้วยคนเพียงคนเดียว ถ้าพูดให้ไม่เกรงใจก็จะบอกว่าเป็นอนิเมที่วาดภาพน้อยกว่ามังงะเสียอีก ดังนั้นไปรออ่านมังงะดีกว่า (เริ่มลงใน Weekly แล้ว) หรือหากเป็นแฟนคลับของเอย์จิ โนนากะ ก็ติดตามดูได้
Check Point: ไร้สาระสมกับที่ไร้สาระ, นอกจากโปสเตอร์โปรโมทกับ ED แล้ววาดห่วยหมด
คะแนนรวม: F
ความน่าติดตาม: 21% ไร้สาระดี, สำหรับแฟนคลับเท่านั้น
โลลิค่อนมิเตอร์: 0
Itsuka Tenma no Kuro Usagi
ต้องขอบคุณนิจิโจวจริงๆที่ช่วยขัดเกลาความอดทนให้ผม ทำให้ผมสามารถดูคุโรอุซางิได้จบตอนโดยแทบไม่เสียสมาธิเลย ถ้าเป็นก่อนหน้าผมพบกับนิจิโจวเนี่ย ผมไม่มีทางทำได้แน่นอน!
โดยเนื้อหาของเรื่องจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเชยสุดกู่ พระเอกสัญญากับนางเอกแล้วได้พลังเป็นอมตะ แล้วก็กลับไปหานางเอกอีกรอบ แล้วก็มีตัวร้ายโผล่มาแทงนางเอก ซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่านางเอกจะไม่ตายแน่ๆ ตัวงานอยู่กลางๆ ค่อนไปทางแย่ เล่นสีแสบตามาก จุดขายของเรื่องนี้คือเซอร์วิสกางเกงใน(เซ็นเซอร์) และฉากกุโระ ส่วนตัวแล้วชอบคาแรกเตอร์เพื่อนสมัยเด็กนิดหน่อย แต่ก็คงแห้วแน่ๆ ถามว่าสนุกมั้ย ก็เรื่อยๆ ดูต่อมั้ย ก็คงไม่
Check Point: กุโระ, เซอร์วิส, แสบตา
คะแนนรวม: C
ความน่าติดตาม: 24%
โลลิค่อนมิเตอร์: 20pt ถ้านางเอกไม่ขยายร่างจะ +30
Ro Kyu Bu!
โลคิวบุเป็นอนิเมที่แสดงให้เห็นเทรนด์ของซีซั่นนี้ได้อย่างชัดเจน จุดขายของเรื่องนี้นอกจากนักพากย์(หญิง)ชื่อดังระดับพระกาฬที่ขนกันมาเต็มสตรีมแล้ว ก็คือรสนิยมอันแสนวิไลของโอตาคุสายโลลิค่อนนั่นเอง อนิเมเรื่องนี้มีจุดขายที่ความโลลิอย่างไม่อายฟ้าอายดิน ผู้ชมล้วนแจ้งชัดว่าบาสเกตบอลในเรื่องมันก็เทียบได้กับดนตรีใน K-On! นั่นหล่ะ สิ่งที่เราต้องให้ความสนใจเป็นหลักก็คือเหล่าเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่างหาก จึงไม่แปลกอะไรเลยที่อนิเมเรื่องนี้จะมีฉากเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำของเด็กประถมมากกว่าฉากเล่นบาสเกตบอลเสียอีก
หากรู้ตัวว่าเป็นโอตาคุโลลิค่อนและพิศมัยในตัวบุตรหลานผู้อื่น ก็ขอเชิญลิ้มลองอรรถรสของเด็กสาวที่ยังแบกกระเป๋าเป้ไปโรงเรียนเหล่านี้ให้สมสำราญเบิกบานใจเทอญ
Check Point: เหมาะสำหรับโลลิค่อนเป็นอย่างยิ่ง
คะแนนรวม: C+
ความน่าติดตาม: 28% ถ้าเป็นโลลิค่อนก็บวกไปตามแรงใจปรารถนา
โลลิค่อนมิเตอร์: 100pt ถ้าไม่ดูนี่ยังกล้าเรียกตัวเองว่าโลลิค่อนเรอะ!
No.6
ใครที่ไม่รู้ว่าอนิเมเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร ผมก็ขออธิบายง่ายๆว่า อนิเมเรื่องนี้เป็นอนิเมที่มีฉากเด็กหนุ่มวัยทีนสองคนฉีดยาให้กัน และสาวน้อยน่ารักที่เหมือนจะเป็นนางเอกไม่ได้ปรากฎกายบน Opening และ Ending แม้เพียงสักวินาทีเดียว
ตัวงานรวมๆอยู่ในระดับกลางๆค่อนไปทางดี แต่คาแรกเตอร์ดีไซน์สวยงามโดดเด่น(หล่อ) ครึ่งแรกของตอนนั้นผมชอบซาฟุมาก ซาฟุใส่เสื้อเหมือนไจแอนท์…. วิ่งไปวิ่งมาคอยเซ้าซี้พระเอก แต่พอหมดครึ่งแรกเธอหายไปจากสารบบของเรื่อง ผมเชื่อแล้วว่าสาวๆเวลาดูอนิเมฟุจะเรียกผู้หญิงในเรื่องว่าชะนีและมองเป็นตัวขวางหูขวางตา…. อนิเมเรื่องนี้เต็มไปด้วยหนุ่มหล่อมากมายโดยไม่มีนางเอกเป็นจุดศูนย์กลาง (อุตะพรินซ์หรือฮาคุโอกิจะเป็นแนวฮาเรมหนุ่มหล่อรุมนางเอก) ดังนั้นก็เป็นหน้าที่ของคนดูว่าจะให้ใครเป็นนายเอกพระเอก ใครรุกใครรับกันตามสบาย
Check Point: โชเนนไอ, ฉีดยา, ซาฟุ
คะแนนรวม: C+
ความน่าติดตาม: 31% ถ้าเป็นฟุก็ X2
โลลิค่อนมิเตอร์: 0
อภินิหารดาบดูดนม
อนิเมสวนกระแสอันเชี่ยวกราดของโลลิซีซั่น ด้วยโลกที่ขนาดหน้าอกแสดงถึงลาภยศและศักดิ์ศรี กองทัพนมจำนวนมหาศาลเดินขบวนถล่มจอจนแทบอ้วก แต่ฟ้าช่างโหดร้ายส่งแสงทองแห่งเซ็นเซอร์มาผ่านมราวกับนมนั้นเป็นตัวกาลีบ้านกาลีเมือง ต้องขจัดมันให้สิ้นไปจากปฐพี แต่อย่างน้อยก็ขอขอบคุณความบิดเบี้ยวของประเทศญี่ปุ่นที่การ์ตูนบ้าบอมีดาบฟันแล้วเอานมคนอื่นมาเป็นนมตัวเองได้นั้นถูกทำเป็นอนิเมฉาย TV (เทือกๆเดียวกับดูดนมแล้วมีพลัง) ถึงจะโดนแสงแห่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เล่นงานไปเยอะก็ตาม
งานจริงๆก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่แสงเยอะมากเพราะนมมันปรากฏในจอเยอะมาก แถมโนบรากันทุกคน
Check Point: เรื่องปัญญาอ่อนแต่ทำหน้าตาซีเรียสกันมาก, กองทัพหน้าอก, มะ หึ มา !
คะแนนรวม: C
ความน่าติดตาม: 33%
โลลิค่อนมิเตอร์: 0
Kamisama Dolls
คามิซามะดอลนั้นสร้างจากมังงะ(ในไทยมีขาย) ซึ่งคนเขียนนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องวาดสวยแต่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วพอทำเป็นอนิเมก็อิงต้นฉบับจนพาลทำให้ไม่รู้เรื่องและไม่สนุกตามไปด้วย
จริงๆแล้วอนิเมเรื่องนี้งานดีมากเลย รายละเอียด คาแรกเตอร์ดีไซน์(ที่ดีมาตั้งแต่ต้นฉบับ) และ OP ก็ทำได้สวยและเจ๋ง ฉากแอ็คชั่นก็ดี ฮิบิโน่ซังก็ยิ่งใหญ่มากมากจนโอริฮิเมะกลายเป็นลูกเจี๊ยบไปเลย แต่พอรวมทั้งหมดเข้ากันกลับไม่สนุกซะนี่ ปัญหาจริงๆก็คือมันครึ่งๆกลางๆไปหมด จะซีเรียสก็ไม่ซีเรียส จะตลกก็ไม่ตลก อารมณ์มันไม่สุดทางสักอย่าง แถมยิ่งมาเจอวิธีเล่าเรื่องจากต้นฉบับที่ไม่ดีอยู่แล้วก็ทำให้ไม่สนุกเข้าไปใหญ่
Check Point: นมใหญ่มากๆ, คาคาชิยิงบีมได้ด้วย, ครึ่งๆกลางๆ
คะแนนรวม: B
ความน่าติดตาม: 35%
โลลิค่อนมิเตอร์: 43pt
Idolmaster
และแล้วมันก็มาถึง! อนิเมชั่นที่สร้างจากเกมที่บ่อนทำลายอนาคตของผู้คนไปนักต่อนัก ไอดอลมาสเตอร์! ก่อนอื่นก็ต้องบอกเลยว่า ผมนั้นเป็นคนที่รู้จักไอดอลมาสเตอร์แต่เพียงชื่อเกมเท่านั้น สาวๆในเกมทั้งหลายผมจำได้แค่ว่าจิฮายะผมสีน้ำเงิน นอกนั้นจำหน้าได้แต่ไม่รู้จักชื่อเลย (เห็นแล้วรู้ว่ามาจากไอมาส แต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร) ดังนั้นผมจึงมาถ่ายทอดอารมณ์ในฐานะคนดูที่ไม่(ค่อย)รู้จักไอมาสให้ฟัง
หลังจากดูจบเนี่ยอืมม… พูดตรงๆก็คือเฉยมากเลย อนิเมตอนแรกเล่าเรื่องเอาใจแฟนเกมสุดๆ ด้วยวิธีเหมือนวิดีโอสัมภาษณ์ไอดอล (ซึ่งก็ดูคล้ายๆสัมภาษณ์นักแสดง AV) ด้วยความที่ตัวละครเยอะ ต้องกระจายบทกันให้ทั่วถึง ผลออกมามันก็เลยแทบจะจำอะไรเพิ่มไม่ได้เลย สิ่งที่ผมจำได้เพิ่งหลังจบก็คือ มิกินมใหญ่มาก และทาคาเนะปัญญานิ่ม
เรื่องภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกจับตามองอันดับแรกแน่นอนสำหรับอนิเมแบบนี้ A1 ก็ได้เครดิทดีจากดอกนั่นมาเยอะ แต่จากที่ฟังคนอื่นคุยๆดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกันเท่าไหร่ บ่นว่าเบี้ยวเยอะ แต่ผมก็เฉยๆนะ คิดว่าค่อนข้างดีด้วยซ้ำ แต่บางมุมจะดูหัวโหนกๆชอบกล ด้วยวิธีแนะนำตัวละครทีละจำนวนมากๆ และเล่าเรื่องแบบขายแฟนคลับ ทำให้ไม่รู้สึกสนุกเท่าไหร่ โฟกัสสะเปะสะปะ ไม่ประทับใจ ดูไม่มีออร่าความเป็นอนิเมชื่อชั้นเลย
จำนวนไอดอลที่จดจำชื่อได้ 2/13 คน
Check Point: โหนก, สำหรับแฟนคลับเท่านั้น, มิกินมใหญ่
คะแนนรวม: B-
ความน่าติดตาม: 36%
โลลิค่อนมิเตอร์: 46pt
Kaitō Tenshi Twin Angel – Kyun KyunTokimeki Paradise!!
สาวน้อยเวทย์มนต์ประจำซีซั่น ต้นฉบับเป็นมังงะแต่พอเป็นอนิเมแล้วบวมๆขึ้นกันทุกคน เนื้อหาไม่ต้องทำความเข้าใจก็รับรู้ได้ ฉากแปลงร่างเซอร์วิส(บวม)สุดๆ งานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ มุกก็พื้นๆ ฉากแอ็คชั่นบางซีนก็เจ๋งดี ก็ดูได้เรื่อยๆแต่ไม่อยากดูต่อเท่าไหร่
Check Point: ยามโรงเรียนพกปืนกล, ทวินแองเจิลแต่มีสามคน, สีน้ำเงินนมเด้งทุกช๊อต
คะแนนรวม: C
ความน่าติดตาม: 38%
โลลิค่อนมิเตอร์: 65pt
Yuruyuri
อนิเมแนวสาวล้วนยิงมุกตามกระแสนิยม เปิดเรื่องธรรมดาๆ ตัวงานก็ไม่ขี้ริ้ว เรื่องก็ตลกเบาสมองปล่อยขำบ้างไม่ขำบ้าง ประหลาดใจตัวเองไม่น้อยเหมือนกันที่สามารถดูจนจบได้โดยไม่หมดความอดทนไปเสียก่อน คงเพราะภูมิต้านทานมุกฝืดที่สั่งสมจากการเก็บโทรฟี่นิจิโจว ทำให้ผมสามารถดูได้ครบถ้วนจนถึงตัวอย่างตอนต่อไปได้อย่างสบาย ขอบคุณเกียวอนิจริงๆ!
Check Point: งั้นๆ, มุกยูริเยอะไปหน่อย, ชุดนักเรียนแปลกดี
คะแนนรวม: C+
ความน่าติดตาม: 39%
โลลิค่อนมิเตอร์: 75pt หน้าเด็กกันทุกคน
Mayo Chiki!
มาโยจิกิเรื่องนี้ก็มีเนื้อหาไม่ต่างจากอนิเมแนวโอตะกึ่งฮาเรมเรื่องอื่นนัก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องคุณภาพงานและการเล่าเรื่องจนทำให้ดูได้สนุกกว่าเรื่องอื่นแนวเดียวกัน หลักๆเลยคือคาแรกเตอร์ดีไซน์ที่ดีและอนิเมชั่นที่ดี ช่วยทุกอย่างเอาไว้ได้มากจริงๆ
มุกที่พระเอกแพ้ผู้หญิงนั้นน่าเบื่อพอสมควร แต่ก็แปลกนิดหน่อยที่นางเอกเป็นตัวละครชั้นรอง คือเป็นคนใช้ของตัวละครหญิงอีกคน ซึ่งปกติแนวๆนี้ นางเอกจะเป็นคุณหนูแล้วมีคนใช้มาเป็นตัวช่วยเดินเรื่องมากกว่า ฉากหื่นในเรื่องก็ทำได้ดี(ชอบคุณหนูเชิงรุก) ที่ดูแล้วขัดใจก็มีแต่ว่านางเอกแต่งชาย ไม่ได้ดูเหมือนผู้ชายเลยสักนิด ดูยังไงก็ผู้หญิงชัดๆ
ดูรวมๆแล้วคิดว่างานดีกว่าอนิเมฮาเรมรุ่นพี่อย่าง IS เสียอีก เพียงแต่ไม่มีจุดขายแข็งๆอย่างหุ่นยนต์หรือแบ่งประเทศล่าสามี นางเอกก็ล๊อคคนไปแล้ว เลยทำให้ดูจืดไปหน่อย
Check Point: คาแรกเตอร์ดีไซน์สวย, หื่นนิดๆ,
คะแนนรวม: B
ความน่าติดตาม: 42%
โลลิค่อนมิเตอร์: 20pt เอโร่ยงี้ไม่โลลิแล้ว
Kamisama no Memo-Chou
คามิซามะโนะเมโมโช สร้างจากไลท์โนเวลชื่อเดียวกัน(มีการตีพิมพ์เป็นภาษาไทย ออกมาแล้วสองเล่ม) จากที่ประกาศไว้เมื่อต้นปีว่าจะสร้างโดย J.C. Staff ที่ขณะนั้นมีชื่อเสียงอยู่ในขาลงอย่างแรง ก็ทำเอากังวลว่างานจะออกมาเน่าอย่าง ARIA (แดงเดือด) หรือไม่ ในตอนแรก J.C. ดันกระแสด้วยการฉายยาวโควต้าพิเศษ 50 นาที เทียบได้ก็เป็นอนิเมปกติสองตอน
งานภาพนั้นออกมาใช้ได้เลย แม้จะไม่ยอดเยี่ยมแต่ก็ไม่ถึงกับกุมขมับกันตั้งแต่ตอนแรก อย่างน้อยอลิสก็โมเอ้จนบุฮี้ถึงตายคาที่ได้ เนื้อเรื่องตอนแรกนั้นเป็นการเอาในนิยายมาผสมกับออริจินอลที่แต่งเพิ่ม โดยพยายามคงอารมณ์และคอนเซ็บเรื่องดั้งเดิมเอาไว้ ปกติแล้วการแต่งเพิ่มนั้นเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สำหรับ J.C. การแต่งเพิ่มนั้นแทบไม่เคยเป็นข้อดีเลย… สิ่งที่ผมกังวลที่สุดและดูเหมือนมันจะเป็นจริงก็คือ อนิเมไม่สามารถสื่ออารมณ์ได้เทียบเท่าในนิยาย แม้ว่าดูเผินๆจะเป็นอนิเมที่สนุกดี แต่ถ้าอ่านต้นฉบับมาแล้วจะพบว่ามัน “ตื้น” กว่านิยายเยอะ และก็ไม่คิดว่าอนิเมจะมีวิธีนำเสนอด้านอื่นที่ทดแทนความรู้สึกกันได้
จากที่ผมเห็นๆ ดูเหมือนว่าโอตาคุทั้งหลายจะดูเรื่องนี้กันเพื่อบุฮี้อลิสกันอย่างเดียว สมกับเป็นเทรนด์โลลิซีซั่นนี้จริงๆ คำพูดของอลิส ความรู้สึกของตัวละคร ความมืดมน ดูเหมือนจะสื่อไปไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย ตั้งใจดูกันหน่อยเซ่!
Check Point: อายากะน่ารักจะตาย, อลิสน่าโบกกะโหลก, โลลิค่อนพาวว่า!
คะแนนรวม: B
ความน่าติดตาม: 55%
โลลิค่อนมิเตอร์: 95pt อลิสจังอายุ 13 นะจ๊ะ
Sacred Seven
อนิเมจากซันไรส์ที่ดูทุ่มเทไม่น้อย ผมดูเพราะคาแรกเตอร์ดีไซน์คือ อิโนมาตะ มุตสึมิ (Tales of…) ตัวงานมีกลิ่น Code Geass อยู่มากพอสมควร พระเอกมาแนวดาร์คฮีโร่ นางเอกเป็นคุณหนูแสนดีโคตรรวย…สูตรสำเร็จน่าเบื่อ แต่ก็เดินเรื่องเร็วและมีงานก็ดี ถึงกระนั้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นหน่วยรบเมด… เป็นรสนิยมส่วนตัวของตระกูล? ฉากแอ็คชั่นเร้าใจและมีพลังมาก ตัวเอกร่างดาร์คนั้นดูร้ายกาจและเท่ดี แต่พอพาวเวอร์อัพปุ๊บกลายเป็นฮีโร่โคตรเสี่ยว มีผ้าพันคอเสร่อๆ มี UI สามมิติอีกตะหาก….
เรื่อง Sacred Seven นี้โดยรวมนั้นดีทุกอย่าง แต่มันก็กลายเป็นข้อเสียด้วย คือมันเป็นสูตรสำเร็จเกินไป พระเอกแบบนี้ นางเอกแบบนี้ ความสัมพันธ์แบบนี้ มันแทบจะเดาได้เลยว่ามันจะต้องมีเหตุการณ์บังคับอะไรเกิดขึ้นมั่ง พระเอกทำตัวหมาป่าโดดเดี่ยวจะต้องบ้าคลั่งอย่างน้อย 1 ครั้ง อีคาฟุกะเพื่อนพระเอกนั้นดูมีแววอายุสั้นและยังเก็บ Flag อย่างต่อเนื่อง สาเหตุการเสียชีวิตก็มี 1) พระเอกคลั่งพลั้งฆ่า 2) พระเอกปกป้องจากสัตว์ประหลาดไม่สำเร็จ ผลจากเหตุการณ์นั้นพระเอกจะต้องสิ้นหวังเสียผู้เสียคน แล้วนางเอกก็จะไปฉุดขึ้นมาจากความมืด บลาๆๆ…. แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นโปรเจ็ค 12 ตอน และก็ดูจะมีความบันเทิงสูง จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องลำบากอะไรที่จะติดตามดูไปเรื่อยๆ
Check Point: กองทัพเมด, คาฟุกะ(เพนเนม), พระเอกแปลงร่างแล้วเสร่อ
คะแนนรวม: B
ความน่าติดตาม: 58%
โลลิค่อนมิเตอร์: 36pt นางเอกอกแบนเฉยๆ
Usagi Drop
อนิเมของ IG สำหรับสล๊อทนอยทามิน่าประจำซีซั่นนี้ ภาพรวมและอารมณ์ให้ความรู้สึกคล้ายกับคิมินิโทโดเกะพอสมควร เป็นเรื่องเกี่ยวชายที่วัยเริ่มจะกลางคนกับเด็กผู้หญิงอายุไม่ขึ้นหลักสิบ บรรยากาศในเรื่องจะโทนสบายๆ อบอุ่น ไม่ฟูมฟาย สมจริง เหมือนละครทีวีมากกว่า (ก็สร้างจากโจเซย์นี่นะ)
รินจังน่ารักมาก แม้ว่าจะคนละอารมณ์แต่ก็สามารถเข้าเทรนด์โลลิซีซั่นได้สบาย อนิเมบ่อยครั้งเล่าเรื่องด้วยความเงียบและบรรยากาศ แม้ว่าเรื่องจะไม่ได้มีฉากอะไรซับซ้อนแต่งานภาพก็มีคุณภาพดี รินจังน่ารักมาก(ยืนยันเป็นครั้งที่สอง) เรนะจังก็น่าตบมากเช่นกัน ส่วนใครเห็น ED แล้วนึกถึงมิติแม่มดในมาโดกะก็ไม่ต้องประหลาดใจ คนทำคืออินุคาเรคนเดียวกัน อย่าไปแอบหลอนว่ารินจังจะเป็นมาโฮโชโจไป
– คำเตือนก่อนรับชม: หากเวลาผ่านไป รินจังจะมีอายุเพิ่มขึ้น
Check Point: คุณน้าอายุ 9 ขวบ>กว่าคุณน้า 39+1 ยังแจ๋ว
คะแนนรวม: B+
ความน่าติดตาม: 88%
โลลิค่อนมิเตอร์: 100pt คุณน้าแบบนี้หาที่ไหน!
Penguin Drum
เพนกวินดรัมเป็นอนิเมที่นอกสายตามากเรื่องนึงเลยสำหรับซีซั่นนี้ ก่อนฉายมันไม่มีอะไรดึงดูดเลย สตูดิโอที่ทำก็ Brain Base ที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ หนังตัวอย่างก็งั้นๆ รู้ว่ามันเป็นออริจินอลเรื่องนึงที่ดันออกนิยายสปอยตัวเองล่วงหน้า
สุดท้ายแล้วเพนกวินดรัมคืออนิเมที่อิมแพ็คที่สุดในซีซั่นนี้! อธิบายง่ายๆคือมันเจ๋งโคตร มันเป็นตัวอย่างอนิเมที่กำกับดี เล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิง และยังดูสนุกไปพร้อมๆกัน คนที่ต้องชมก็คือผู้กำกับอิคุฮาระ (คนแต่งอูเทน่า กำกับเซลเลอร์มูน) สไตล์ของอิคุฮาระนั้นคล้ายกับชินโบหลายอย่าง ทั้งเรื่องสัญลักษณ์และจังหวะเล่าเรื่อง แต่ดูท่าทางเขาจะชอบโชโจนะ… เพนกวินดรัมนี่ออกแบบตัวละครโดยโฮชิโนะ ลิลลี่ (คนวาดเรื่องซากุโระและโดจินเกะxโตะสายเคะวนิลา) ลายเส้นจะออกโชโจ(สาวน้อย)หน่อย ปัจจัยที่ทำให้อิมแพ็คที่สุดของตอนแรกนี้ก็หนีไม่พ้น “ฉากนั้น” ที่ทำให้มึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกไปหลายชั่วโมง
ถ้าเอาแต่เนื้อเรื่องจริงๆ เพนกวินไม่ได้แตกต่างจากอนิเมหลายๆเรื่องในซีซั่นนี้ แต่เพนกวินดรัมแสดงให้เห็นว่านอกจากเรื่องราวแล้ว การเล่าเรื่องก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน สิ่งที่ทำให้กังวลนิดหน่อยกับเพนกวินดรัมก็คือมันมีความยาว 24 ตอน ซึ่งมากเกินไปหน่อยและอาจจะทำให้เล่าเรื่องได้ไม่กระชับ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์กันในอนาคตต่อไป
Check Point: เซย์ซอนนนนเซนเรียขื่อออออออออ!!!!, ฮิมาริน่ารัก
คะแนนรวม: A
ความน่าติดตาม: 95%
โลลิค่อนมิเตอร์: 15pt
เรื่องที่ไม่ได้ดูได้แก่ โมริตะซัง, เนโกะคามิ, เบลด และ ดันทาเรี่ยนยังไม่่ฉาย สาเหตุที่ไม่ได้ดูมิได้เป็นเพราะรังเกียจเดียดฉันท์แต่อย่างไร คิดเสียว่าไม่มีวาสนาต่อกันก็แล้วกันนะ….
เรื่องนี้ผมให้ คุณน้าโลลิ เพนกวิ้น พระเจ้านีท เป็นเมะเจ๋งหะ ชอบ 3 เรื่องนี้มาก
เพนกวิ้น นี้ช่วงรอตอนที่ 2 ผมดูไอ้ฉากนั้นประมาณ 10 รอบเพื่อถามหาเหตุผล(ทำไม) ดูแล้วเพลินดีอลังการ
ส่วนคุณน้าโลลินี้ชอบสุดๆเป็นเมะอารมผู้ใหญ่ดี ไม่ได้สังแต่โลลิๆอย่างเดียว มีแง่คิดเยอะแยะเลย
อยากบอกท่านอย่ามาคันว่า
ตรงผลงานโดจินเกะxโตะของอ.โฮชิโนะ ที่ถูกต้องเป็นโตะxเกะนะคะ
เพราะเจ๊มุชิบะ(เพนเนมอ.โฮชิโนะตอนเขียนโดจิน)แกวาดโตะxเกะมาตลอดค่ะ
(แน่นอนว่าเราชอบคู่นี้จึงตามเก็บผลงานอ.ด้วย)