สวัสดีครับ ก็พบกันอีกแล้วกับ An Unbiased Review ประจำฤดูหนาวปี 2011 ปีนี้เมืองไทยก็หนาวกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย! สำหรับซีซั่นนี้มีหลายเรื่องที่น่าจับตามองด้วยหลายๆเหตุผล เช่น Fratale งานที่ยามะคัน (ไม่ใช่อย่ามาคัน) ประกาศกร้าวเลยว่าถ้าเจ๊งจะเลิกกำกับอนิเม หรือ มาโฮโชโจมาโดกะ งานยามินะเบะรวมมิตรสยองของ ชินโบ(Shaft)xอุเมะเทนเทย์xอุโรบึจิ(Nitro+) ที่ดูเหมือนจะเข้าใจคำว่าสาวน้อยเวทมนต์กันผิดๆ หรือ โฮโรมุสึโกะ ที่โดดเด่นเรื่องงานภาพที่มีเอกลักษณ์ แต่ก็น่าเสียดายเหลือเกินที่ซีซั่นนี้ไม่มีงานจากเกียวอนิอีกแล้ว ก็เลยขาดสีสันจากแฟนบอยจัดตั้งของเกียวอนิที่พร้อมจะขย้ำทุกอย่างที่ขวางหน้า แหม….จืดเลย
ก็เหมือนเดิมครับ บอกทุกรอบ แล้วก็มีคนไม่อ่านทุกรอบ ผมจะแบ่งคะแนนออกเป็นสองส่วนคือ “คุณภาพงานโดยรวม” ที่หมายถึงความเรียบร้อยของงาน, บท, การกำกับ. ความลื่นไหล ของตอนแรกที่ฉายไป แล้วก็รวมกันออกมาเป็นเกรดตัวอักษรภาษาอังกฤษ อีกส่วนนึงคือ “ความน่าติดตาม” หมายถึงสเน่ห์ของอนิเมและความดึงดูดชวนให้ติดตามตอนต่อๆไป รวมถึงโอกาสจะดูต่อหรือดูจนจบเรื่อง ก็จะออกมาเป็นเปอร์เซนต์ ถ้าเกิดเรื่องใดผมทนดูได้ไม่จบตอนจะได้รับสิทธิ์ F ทันที
ก่อนจะไปอ่านก็คุยกันหน่อยละกัน ผมมักจะโดนถามบ่อยเหลือเกินว่าดูเรื่องไหนจบมั่ง หรือชอบเรื่องไหนมั่ง หรืออยากให้เขียนหลังจากดูจบแล้วมั่ง ซึ่งบางอันก็ตอบไปแล้วแต่ก็ไม่เคยมีคนสนใจ…. อืม ก็เลยมาคุยกันก่อนเสียหน่อย สำหรับซีซั่นก่อนนั้นผมดูเรื่อง อามางามิ, โซเรมาจิ, แพนตี้สต๊อกกิ้ง ชิกิและน้องกรูไม่น่ารัก จบครับ ชอบสุดก็คงเป็นโซเรมาจิ ที่ไม่ชอบก็เลิกดูเลิกจำไปหมดแล้ว สำหรับเรื่องน้องกรูนั้นผมว่าในแง่อนิเมมันก็สนุกดีนะ แต่ในแง่เรื่องราวก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่พอสมควร หลังจากดูจนจบผมก็ค้นพบว่าทำไมผมถึงชอบอายาเสะที่สุด นอกจากสถานะ “เพื่อนน้องสุดแจ่ม” ที่ชวนให้ระทึกแล้ว อายาเสะยังชอบพูดในสิ่งที่ผมอยากให้มีใครสักคนพูดเสมอ คำถามที่อายาเสะถามมักจะเป็นคำถามที่แทงใจโอตาคุ และแม้แต่คนในเรื่องก็ยังตอบไม่ได้ ได้แต่หยิบยกบริบทที่ไม่เกี่ยวข้องมากลบเกลื่อนไปเรื่อยๆ จุดนี้นี่เองทำให้ผมรู้สึกชอบอายาเสะเป็นพิเศษ
อามางามินั้นการแยกเป็นบทๆ ทำให้เรื่องจืดกว่าที่ควรจะเป็น ความสนุกของอนิเมรักในรั้วโรงเรียนก็คือเวลาที่สาวๆปะทะ(ตบ)กันนี่หล่ะ พอไม่มีจุดนี้ก็เลยเซ็งๆ และหลายๆตอนก็ทำตอนจบได้ไม่ดีนัก (เกมมันก็บื้อๆงี้ด้วย) ผมชอบตอนของคาโอรุ ไอ แล้วก็คุณหัวหน้าห้อง แล้วก็ตอนจบ นอกนั้นเฉยๆ ส่วนเรื่องชิกินั้น ดูแบบเรื่อยๆเปื่อยๆเละเทะดี คาใจแค่ทำไมอีเด็กประถมจากนรกนั่นมันไม่มีบทจนตายไปเองเลย…. แล้วก็รู้สึกสงสารเมกุมิ (CV: โทมัตสึ ฮารุกะ) ที่สุด เธอแค่อยากหนีไปให้พ้นจากสังคมชนบทเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่าต้องตาย(ซ้อนตาย)อย่างอนาถ(โดนรถไถขับทับหัว)โดยไม่ได้ทำอะไรผิดเลย(ละมั้งนะ…) สุดท้ายก็โซเรมาจินี่ผมชอบที่มันเพี้ยนๆ จังหวะเดินเรื่องประหลาดๆ และสนุกกับเรื่องเรื่อยเปื่อยได้หลากหลายดี โอเคบางตอนก็งานแย่จัง แต่หลายๆตอนก็สนุกมากเช่นกัน
มาโฮโชโจ มาโดกะ มากิก้า
สาวน้อยเวทมนต์ยุค MLM
คานาเมะ มาโดกะสาวน้อยธรรมด้าธรรมดา มีชีวิตในโรงเรียนกับเพื่อนธรรมดาๆ แต่ว่าวันนึงโชคร้ายก็ได้คืบคลานมาหาเธอเมื่อเธอได้พบกับคุณแมว(?)คิวเบย์ที่มาเกลี้ยกล่อมหาดาวน์ไลน์ถึงในฝัน คิวเบย์พยายามพูดถึงความเปลี่ยนแปลง อนาคต และสิ่งที่อยากได้ เพื่อเกลี้ยกล่อมให้มาโดกะ ทำสัญญาเป็นมาโฮโชโจดาวน์ไลน์ ซายากะ เพื่อนของมาโดกะก็ติดร่างแหโดนชักชวนให้ทำสัญญาด้วยเช่นกัน และโฮมุระซัง นักเรียนใหม่ซึ่งโดนหลอก..เอิ้ย…เกลี้ยกล่อมจนตกเป็นดาวน์ไลน์จนต้องเป็นหนี้บัตรเครดิทเพราะกักตุนสินค้า ได้ปรากฏตัวและพยายามเตือนมาโดกะว่าหากยังรักครอบครัวและเพื่อนจงอย่าได้ทำสัญญา ทางด้านคิวเบย์ได้ใช้มามิซึ่งเป็นดาวน์ไลน์มงกุฏเพชร มาช่วยเกลี้ยกล่อมพวกมาโดกะ โดยการแสดงให้เห็นว่าเมื่อทำสัญญาแล้วจะเลิศเลอเพียงใด (แปลงร่าง ยิงปืนให้ดูเยอะๆ) เมื่อพวกมาโดกะกำลังประทับใจและสับสน มามิและคิวเบย์จึงไม่พลาดโอกาสจับไปอบรมที่ห้องมิดชิดและเสนอผลประโยชน์ว่าเมื่อเป็นดาวน์ไลน์แล้วจะสามารถขอพรได้อย่างนึง ซึ่งทำให้พวกมาโดกะเริ่มลังเล แม้ว่าจะยังไม่ได้ทำสัญญา คิวเบย์ก็ยังให้ความสามารถพิเศษเทเลพาธี่ของดาวน์ไลน์มาทดลองใช้ก่อน เทเลพาธี่นั้นแสนสะดวกสบาย เวลาสอบพวกมาโดกะก็สามารถถามคำตอบจากมามิที่เป็นรุ่นพี่ได้อย่างสบาย มามิได้พาพวกมาโดกะไปลองออกสนามของจริง และโชว์ความท่าไม้ตายใหม่โดยไม่ซ้ำกับตอนก่อน ทำเอาพวกมาโดกะประทับใจเป็นอย่างมาก… พวกมาโดกะจะตกเป็นดาวน์ไลน์ของคิวเบย์หรือไม่! มามิมีรายได้ต่อปีเท่าไหร่! ชีวิตมาโฮโชโจ MLM นั้นจะเป็นอย่างไร!! โปรดติดตามตอนต่อไป!!!
…..โอเค….เอาจริงๆ หน่อย มาโดกะเป็นงานของชินโบที่มีความเป็นชินโบสูงมาก ใครที่ไม่ชอบชินโบนั้นอาจจะพาลไม่ชอบเลย มาโดกะนั้นฉีกภาพจากมาโฮโชโจเดิมๆ ที่ต้องวางอยู่บนความถูกต้องและคุณธรรม แต่จะมีเรื่องของตัณหา ด้านมืดในจิตใจคน ปะปนอยู่ด้วย ธีมของเรื่องนั้นดูหม่นหมองเกินจะเรียกว่ามาโฮโชโจได้เต็มปาก คาแรกเตอร์ดีไซน์ของอุเมะนั้นก็ยังคงความ….บาน ได้เหมือนเดิม แต่โอเค..หันข้างแล้วก็น่ารักดี อย่างน้อยตัวก็สูงอกใหญ่น่า อย่างที่บอกไว้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นงานรวมมิตรคนบ้า งานก็เลยบ้าสมใจ… Theme Song เพลง Magia ก็ยังร้องโดย Kalafina เพลงอย่างกะจับไปบูชายัญ…. พวกเอ็งเข้าใจคำว่าสาวน้อยเวทมนต์กันยังไงฟระเนี่ย…
จุดที่ทำให้อยากตะโกนว่าเชี่ยอะไรวะที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นมิติพิศวงและศัตรูในเรื่อง ที่พอปรากฏตัวก็จะเปลี่ยนเป็นอีกสไตล์ไปเลย(คนทำชื่ออินุคาเระ*) ซึ่งทำเอาสงสัยว่านี่เปิดอนิเมผิดเรื่องหรือเปล่า… และถ้าผมจำไม่ผิดความรุนแรงในมาโฮโชโจนั้นมีจุดเริ่มต้นจาก Nanoha และนาโนฮะก็เป็นงานของชินโบ…. ชายผู้เป็นรากเหง้าแห่งความชั่วร้ายคนนี้กำลังจะเปลี่ยนความหมายของคำว่ามาโฮโชโจ(สาวน้อยเวทมนต์)อีกครั้ง โอเค เอาเป็นว่าถ้าคุณรับไม่ได้กับสไตล์บ้าๆของชาฟท์และวิธีนำเสนอแบบชินโบ ก็กลับไปดูเคองเหอะ
คุณภาพงาน: B+
ความน่าติดตาม: 100%
Check Point: มาโฮ..โช…โจ? หลอนไปหรือเปล่า, ชินโบ๊ชินโบ
โฮโรมุสึโกะ
ครอสเดรส
โฮโรมุสึโกะหรือ Wandering Son เป็นอนิเมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการ “ครอสเดรส” หรือการใส่เสื้อผ้าของเพศตรงข้าม ก่อนที่อนิเมจะฉายนั้นสิ่งที่ดึงดูดมากที่สุดก็คือสไตล์ของภาพที่พยายามทำให้เป็นเหมือนภาพสีน้ำแนวเดียวกับที่ Shimura Takako ผู้วาดเรื่องนี้วาด ซึ่งทำออกมาได้น่าทึ่งเป็นอย่างมาก เมื่อได้พบกับตัวงานจริงๆก็ไม่ทำให้ผิดหวังเรื่องภาพเลย ทำออกมาได้สวยปริ๊ง และไม่ใช่แค่สไตล์ภาพเท่านั้น ตัวอนิเมชั่นเองก็ขยับได้ลื่นไหลและมีจังหวะที่สวยงาม อนิเมเรื่องนี้ดูแค่ภาพก็คุ้มแล้ว
โฮโรมุสึโกะนี้มีต้นฉบับเป็นมังงะมาก่อน แต่ว่าไม่เคยได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาไทย มีให้อ่านเป็นแสกน ซึ่งปกติผมไม่อ่านแสกนก็เลยไม่เคยได้อ่านมาก่อน ได้ยินว่าตัวมังงะนั้นจะเริ่มเนื้อหาตั้งแต่ตอนที่ตัวเอกเรียนประถม แต่อนิเมเริ่มมาก็จะเข้าชั้นมัธยมแล้ว ด้วยความที่ค่อนข้างรวบรัดเนื้อหาและตัวละคร ในตอนแรกนี้จึงมีตัวละครมากมายปรากฏตัวมาพร้อมๆกัน จึงทำให้สับสนนิดหน่อยว่าใครเป็นใคร กว่าผมจะตั้งตัวได้ว่าใครเป็นใคร มีจุดเด่นอะไรก็ปาเข้าไปครึ่งตอนหลังแล้ว
แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอสเดรสซึ่งเป็นหนึ่งในแฟคเตอร์สมัยนิยม แต่ก็ไม่ได้ใช้เป็นจุดที่จะทำให้ตะลึงหรือตื่นเต้นเลย ไม่มีการจับตัวละครหนุ่มหน้าหวานมาแต่งหญิงทำตัวโมเอ้แล้วให้ตัวละครอื่นๆในเรื่องหื่นกามใส่ ครอสเดรสในเรื่องนี้เป็นเหมือน “สถานการณ์ต้องห้ามที่ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก” เพื่อบีบคั้นให้ตัวละครในเรื่องถ่ายทอดอารมณ์ออกมา ไม่ได้มีเรื่องจิตใจสกปรกปะปน (ยกเว้นคนดูจิตใจสกปรกไปเอง ฮ่าๆ)
โอเคถึงแม้ภาพรวมมันจะดีข้อดีหลายอย่าง แต่พูดก็พูดตรงๆ อนิเมประเภทนี้เป็นอนิเมประเภทที่จะถูกพูดถึงในลักษณะ “เรื่องนี้ดีนะแต่ว่าชั้นไม่ได้ดูหรอก แกดูหรือเปล่า” อารมณ์ราวๆอนิเมดีแต่ไม่มีคนดู ไม่มีคนซื้อ ซึ่งก็ต้องอยู่เป็นไม้ประดับวงการไปเรื่อยๆ ด้วยตัวละครที่โผล่มามากมายในตอนแรก นางเอกที่ไม่น่ารัก (แต่พระเอกน่ารัก!?) สไตล์การเดินเรื่องเนิบๆ ภาพที่สวยแต่ไม่มีโมเอ้เซอร์วิส สุดท้ายก็คงถูกลืมไป
คุณภาพงาน: A
ความน่าติดตาม: 88%
Check Point: ภาพสวยมาก, มึน ตัวละครเยอะ, งานดีที่ไม่มีคนดู
ซอมบี้เหรอก๊ะ
มาโซโชโจครอสเดรสชิมะแพน
หนุ่มน้อยคนนึงที่เป็นซอมบี้ แล้ววันนึงก็มาเจอกับสาวน้อยเวทมนต์ที่ใช้เลื่อยไฟฟ้าเป็นอาวุธ เปิดเรื่องมาหม่นๆ นึกว่าจะเป็นอนิเมแนวซีเรียส ไปมาๆ ตลกแดกนี่หว่า…. พอดูๆไปก็พบว่า เออก็สนุกดีนะ มุกในเรื่องก็ขำดี เสื่อมดี งานภาพก็ค่อนข้างใช้ได้เลย มุกในเรื่องใช้วิธีล้อตัวเองผสมกับเสื่อม ซึ่งก็ทำออกมาได้ดี หลายๆคนดูแล้วรับไม่ได้กับการซูมกางเกงในตุงๆหลายวินาที ผมก็เฉยๆนะ ไม่เห็นจะเป็นไร
คุณภาพงาน: B
ความน่าติดตาม: 75%
Check Point: เนโครแมนเซอร์สุดยอด, มาโซโชโจก็สุดยอด, กางเกงใน
Fractale
งานสุดท้ายของยามะคัน
ใครที่ตามข่าวคงจะรู้ว่ายามะคัน(ไม่ใช่อย่ามาคัน)คนดังเคยประกาศก้องเลยว่าถ้า Fractale งานออริจินอลของเขานั้นถ้าเกิดเจ๊งขึ้นมาละก็ เขาจะเลิกกำกับอนิเมเลยทีเดียว! ซึ่งแม้ว่า Image Illust ต้นฉบับของ Hidari จะดูดีก็ตาม พอเป็นอนิเมชั่นคาแรกเตอร์ดีไซน์แล้วช่างดูสิ้นหวังเหลาเหย่สุดๆ เปลี่ยนพาเลทสีผมจนอยากจะร้องไห้แทนคนออกแบบ แทบจะฟันธงได้เลยว่าเจ๊งแน่ๆ พอวันฉายจริงก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย…… งานภาพแม้จะขยับได้ดีแต่ก็ดูไม่น่าประทับใจเลยสักนิด
ถึงกระนั้นก็ตามหากมองข้ามเรื่องภาพที่ไร้เสน่ห์ไปก่อน โดยรวมแล้วเรื่องยังมีจุดที่สนใจหลายอย่าง เช่นนางเอกที่ดูลึกลับและมีเสน่ห์ โลกทัศน์ที่ผสมผสานระหว่างยุคกลางและอนาคต เทคโนโลยีประหลาดๆ ฉากหลังที่ค่อนข้างดี (แต่ไมไ่ด้โดดเด่น) ตอนที่ดูผมรู้สึกว่า Fractale ให้อารมณ์เหมือนอนิเมยุค 90 อย่างนาเดีย การผจญภัยกับหญิงสาวแปลกหน้าที่มีแรงดึงดูดลึกลับ นานแล้วที่ไม่ได้พบกับอารมณ์นี้ แต่ก็ติดปัญหาเดิม…. อนิเมชั่นคาแรกเตอร์ดีไซน์ไม่ชวนให้อยากดูต่อเอาเสียเลย
แม้ยามะคันจะประกาศก้องว่าถ้าเจ๊งจะเลิกทำอนิเม แต่ก็ไม่ได้จำกัดความคำว่า “เจ๊ง” ไว้อย่างชัดเจน เช่นเรทติ้งมากกว่า 2.5% หรือยอดขายมากกว่า 10,000 ชุด ดังนั้นผมฟันธงเลยว่าไม่ว่า Fractale จะขายได้ห่วยแตกเท่าไหร่ จะโดนด่าทอสาดเสียเทเสียเพียงใด ยามาคันก็ยังคงทำอนิเมต่อไปอยู่ดี
คุณภาพงาน: C
ความน่าติดตาม: 55%
โอนี่จังกับน้องสาวสุดหื่น
น้องสาวผมเป็นป๊อบอาย
ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับเหล่าสาวกค้ำคอร์ทั้งหลายที่ชื่นชอบเรื่องราวผิดศีลธรรมอยากจับน้องสาว(ในจินตนาการ)กด เรื่องโอนี่จังนี้นั้น ไม่ผิดศีลธรรมแต่อย่างไรครับ… เพราะไม่ได้เป็นน้องสาวแท้ๆ ตัวเรื่องสนุกกว่าที่คิด แม้ว่าจะมุกเดิมๆก็ตาม นางเอกก็พากย์รัวได้สะใจ สิ่งที่เห็นแล้วอดทักไม่ได้ก็คือ แขนขาอะไรมันจะยาวเป็นป๊อปอายขนาดนั้น… แล้วก็เห็นกางเกงในได้ถนัดชัดเจนมาก ไม่ทราบว่าจะเน้นเกินไปหรือเปล่า แขนขายาวเป็นโอลีฟป๊อปอาย เห็นกางเกงในไปก็ไม่ได้เกิดอารมณ์หรอก
คุณภาพงาน: B-
ความน่าติดตาม: 50%
Check Point: ไม่ค้ำคอร์, ชิมะแพน, แขนยาว
GoSick
โลลิโกธิคโกซิกค์
ก่อนจะดูเรื่อง GoSick นั้น ผมเคยอ่านมังงะเรื่องเดียวกันมาแล้ว เวอร์ชั่นมังงะนั้นค่อนข้างน่าเบื่ออย่างแรง แม้จะเป็นแนวสืบสวนสอบสวนไขปริศนา แต่วิธีแก้ปริศนาและตัวปริศนาช่างไร้เหตุผลและดูไม่ฉลาดเอาเสียเลย แถมมังงะก็วาดไม่สวยด้วย ในเวอร์ชั่นอนิเมนั้นคาแรกเตอร์ดีไซน์ออกมาได้ดีกว่าในมังงะ และยังมีการดัดเปลงเรื่องและปริศนาเสียใหม่ กระนั้นก็ตามยังออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร (แต่ก็ดีกว่ามังงะ) จากที่ดูๆ หลายคนดูเรื่องนี้เพียงเพราะว่ามีตัวละครโลลิผมทองใส่ชุดโกธิคเท่านั้น…. สำหรับผมแล้วเรื่องนั้นค่อนข้างจืด แต่ภาพรวมก็ไม่ขี้ริ้วนัก อย่างน้อยก็ดูจบตอนล่ะวะ…
คุณภาพงาน: C+
ความน่าติดตาม: 47%
Check Point: วิคตอริก้า, โลลิ, ปริศนาเห่ย
Dragon Crisis
คุกิมิยะไครซิส
อนิเมเรื่องนี้ก่อนดูผมไม่มีข้อมูลใดๆทั้งสิ้น พอเปิดดูก็อืม งานดีนะ ภาพเหมือน Elhazard ไงไม่รู้ แต่ชอบฟิลเตอร์แสงในเรื่อง พอดูๆไป ฉากแอ็คชั่นก็อลังดี แม้ว่าจะเนื้อหากลวงโบ๋โจ๋ จากนั้นพอคุกิมิยะตื่นเท่านั้นหล่ะ…. ริวจิ ริวจิ! ริวจิ! เรียกอยู่ได้รำคาญโว้ย ระวังริวจิอีกคนมันจะโผล่มาถูบ้านเช็ดกระจกให้นะเฟ้ย ดูจบก็อืม… พอดูได้แม้จะไม่ได้ประทับใจอะไร นมก็ใหญ่เด้งดี
คุณภาพงาน: B-
ความน่าติดตาม: 37%
Check Point: คุกิมิยะ, แสงสวย, เรื่องน่าเบื่อ
Wolverine
เมื่อมาเวลบรรจบกับฟุโจฉิ
วูลฟ์เวอร์รีนเป็นฮีโร่ฝั่งอเมริกาคนนึงที่โด่งดังที่สุด ฮีโร่ที่ป่าเถื่อนสันโดษและดูไม่ค่อยเป็นพระเอกคนนี้หล่ะที่ดังที่สุดในกลุ่ม X-Men แต่เมื่อเขาเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่น อะไรอะไรมันก็เปลี่ยนไป… เมื่อโลแกนได้รับการอัพเกรดเป็นอิเคเมง(หนุ่มหล่อ)อย่างสมบูรณ์แบบ! หน้าแหลมเปี๊ยวตาเรียวงาม สูงชะลูด กล้ามนิดๆพองาม ไม่ได้ล่ำบึ๊กเป็นนักมวยปล้ำ ลายเส้นเอาใจฟุสุดๆ ขนาดหนวดหรอมแหรมยังดูเซ็กซี่อย่างที่สุดไม่ได้ งวดนี้ Madhouse ไม่ได้ทำเป็นฝรั่งจ๋าเหมือน IronMan แล้ว เปิดเรื่องในนิวยอร์คแต่โลแกนพูดญี่ปุ่นคล่อง จากนั้นก็มาญี่ปุ่น ตามหาเมีย!! เหตุผลสมัยนิยมหน่อยๆ เจอคุณพ่อตาหล่อแบบสูงอายุใช้ดาบไม้สู้ชนะมิวแตนท์อมตะได้… งานภาพก็ดีแบบเฉพาะทางหน่อย จะดูแข็งๆถ้าเทียบกับอนิเมแนวแอ๊คชั่นทั่วไป ถ้าเป็นฟุชอบหนุ่มหล่อๆ หรือว่าเป็นคนไม่ตะขิดตะขวงกับโลแกนเวอร์ชั่นอิเคเมงแล้วล่ะก็ น่าจะพอทนดูได้เรื่อยๆ
คุณภาพงาน: C
ความน่าติดตาม: 35%
Check Point: ลืมโลแกนแบบเก่าๆไปซะ เพราะนี่คือโลแกนอิเคเมง!
Level E
เจ้าชายซ่นตริง
ไม่รู้ว่าจัมพ์หมดมุกหรือว่าโทงาชิจะอดตาย เลยต้องไปขุดเรื่องงานเก่าขนาดนี้มาทำอนิเม Level E เป็นมังงะที่เคยลงใน Jump หลาย(สิบ)ปีก่อน เขียนโดยโยชิฮิโร่ โทงาชิ เป็นงานคั่นระหว่าง Yuyu Hakusho และ HunterxHunter เรื่องนี้ความยาว 3 เล่มจบ และเป็นมังงะแหวกแนวจัมพ์ที่สนุกมากเรื่องนึง สำหรับเวอร์ชั่นอนิเมนั้นบอกตามตรงว่าน่าเบื่อกว่าที่คิด เรื่อง Level E นี้เป็นงานที่ฉีกกฏจัมพ์อย่างมาก พลิกแพลงทั้งเนื้อหาและการนำเสนอ เรียกได้ว่าเป็นช่วงเริ่มบ้าของโทงาชิ แต่พอเป็นอนิเม กลับกลายเป็นอยู่ในกรอบจนน่าเบื่อ เดินเรื่องตามมังงะแบบไม่มีผิดเพี้ยน ลายเส้นอนิเม การเคลื่อนไหว แม้จะทำออกมาได้สมมาตรฐาน แต่ว่าไร้จิตวิญญาณเป็นอย่างยิ่ง ไม่สามารถถ่ายทอดความเจ๋งของมังงะออกมาได้เลย จัมพ์อนิเมก็ยังเป็นจัมพ์อนิเมในกรอบเดิมๆ แม้จะได้ต้นฉบับดีๆก็ไม่สามารถหลุดกรอบไปได้
สปอยนะ…บอกก่อน ในฐานะที่คนเคยอ่านมังงะมาแล้ว และชอบเรื่องนี้ไม่น้อย วินาทีแรกที่ไอ้มนุษย์ต่างดาวมันโผล่หน้ามาผมก็ขำแล้วครับ….. ยิ่งท้ายตอนที่เปิดเผยตัวจริงอันน่าขยะแขยง…. ยิ่งฮาโคตรๆ!!!
คุณภาพงาน: C
ความน่าติดตาม: 26%
Check Point: การ์ตูนตลก, จืด, จัมพ์, ขี้ฮกหว่ะ
Infinite Stratos
สไตรค์วิทช์ฮาเรมรูท
บอกตรงๆว่าซีซั่นนี้มีแต่อนิเมนอกกระแส หาแฟนบอยจัดตั้งไม่ได้เลย ขนาดพวกที่มาจากไลท์โนเวลอย่าง IS นี้ยังดูไม่น่าจะได้รับความนิยมได้เลย IS เป็นเกี่ยวกับอาวุธสงครามที่ใช้ได้แต่ผู้หญิง แล้วพระเอกก็เสือกใช้ได้คนเดียวในโลก(กริ๊ง) ก็เลยต้องมาอยู่รวมกับสาวๆมากมาย โครงเรื่องรวมๆคล้ายๆ Strike Witches พอสมควร แต่ไม่มีการโชว์กางเกงในในที่สาธารณะเท่านั้น แต่จากที่ดูตอนหนึ่งดูไม่ค่อยจะเน้นฮาเรมเท่าไหร่ ยูคานะมาพากย์ตัวอิจฉาได้นอยโสตประสาทมาก อย่าเอาเสียงไอจังของผมมาทำแบบนี้สิ ; ;
ฉากการต่อสู้กลางท้องฟ้านั้นทำออกมาได้ดี เมคานิคก็ออกแบบได้ดี แต่ไม่ชอบเวลาพระเอกใส่เกราะ มันดูเสร่อๆสุดๆ เป็นไปได้ให้พระเอกมันขับเครื่องบินไปเลยก็ได้ ไม่ต้องมาใส่เกราะซาจิทาเรียสแบบนี้หรอก เกราะแบบนี้ให้สาวๆใส่ไปน่ะดีแล้วน่า
คุณภาพงาน: C
ความน่าติดตาม: 24%
Check Point: ยูคานะนอยหว่ะ, สไตรค์วิทช์แบบไม่มีกางเกงใน, ฮาเรมรูท
Yumekui Merry
สะดืองาม
ผมไม่เคยอ่านมังงะเรื่องนี้ แต่มีคนบอกว่าไม่สนุก พอดูอนิเมก็ไม่สนุกจริงๆ ไม่สนุกเอามากๆ Merry เป็นงานเดียวของ J.C. ในซีซั่นนี้ (ไม่รวม Index) ตัวงานคุณภาพค่อนข้างดีเลย นักพากย์ก็ดี เพลงก็เพราะ เอวก็งาม สะดีอก็สวย อกก็แบน แต่ Merry มีปัญหาเพียงข้อเดียวก็คือมันไม่สนุก… อธิบายยากมากเลย ทั้งๆที่รวมๆแล้วเหมือนจะดี แต่กลับไม่สนุกได้อย่างเหลือเชื่อ
คุณภาพงาน: B
ความน่าติดตาม: 16%
Check Point: ถุงน่องลาย, สะดือสวย, เอวกิ่ว, ไม่สนุกเลย
Freezing
โลกนี้มีอนิเมอยู่สองประเภท ประเภทแรกคืออนิเมที่สาวน้อยวัยขบเผาะในเรื่องจะใส่กระโปรงสั้นๆกระโดดตีลังกาขี่จักรยานลงสะพานลอยห้อยหัวร่วงจากเฮลิคอปเตอร์ก็ไม่มีทางได้เห็นกางเกงในของเธอ ประเภทที่สองก็คือไม่ว่าสาวในเรื่องจะใส่กระโปรงอะไรหรือต่อให้ใส่กางเกงก็ตาม กางเกงเหล่านั้นก็จะฉีกขาด แล้วกล้องก็จะไปตั้งอยู่ในตำแหน่งที่คนดูสามารถมองเห็นกางเกงในของเธอได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา และเรื่อง Freezing นี้เป็นอนิเมประเภทหลัง
คุณภาพงาน: F
ความน่าติดตาม: 0%
Check Point: เลือดเยอะ แต่กางเกงในเยอะกว่าเลือด, นมใหญ่มาก
Rio – Rainbow Gate!
ผมดูริโอเพราะว่าชอบ IIIust ที่วาดโดย Koutaro และหน้าอกของริโอะอันฟิตเปรี๊ยะจนแทบจะฉีกเสื้อของเธออกมา แต่ด้วยความสัตย์จริง อนิเมเรื่องนี้ห่วยที่สุดในซีซั่นนี้แล้ว เดินเรื่องแย่ งานแย่ ภาพแย่ ฉากแอ็คชั่นแย่ ฉากเล่นไพ่แย่ ดูไปได้ 8 นาทีผมก็ข้ามไปดูตอนเล่นไพ่ ก็พบว่ามิติเล่นไพ่นี่ยิ่งโคตรเลวร้ายเข้าไปอีก ดูนมโดกะเล่นมาจองขนาดผมเล่นมาจองไม่เป็นเลยยังสนุกกว่าดูริโอะเล่นโปกเกอร์ที่ผมเล่นเป็นล้านเท่า
คุณภาพงาน: F
ความน่าติดตาม: 0% แม้แต่หน้าอกอันล้นหลามก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
Check Point: นมใหญ่มาก, มิติเล่นไพ่โคตรปัญญาอ่อน
ซีซั่นนี้เรื่องไหนที่เป็นภาคต่อผมจะไม่เขียนนะครับ (มิตสึโดโมเอะ, คิมิโนะโทโดเกะ)
ริวจิ ริวจิ! ริวจิ! เรียกอยู่ได้รำคาญโว้ย ระวังริวจิอีกคนมันจะโผล่มาถูบ้านเช็ดกระจกให้นะเฟ้ย << ไม่ได้ดูแต่อ่านแล้วขำ :p
ปล. ดิซซิเดีย 012
http://storage.siliconera.com/wordpress/wp-content/uploads/2011/01/d012a_thumb.jpg
ป้าแก่ร่างเด็กปากหมาเตะไม่เลี้ยงมาแล้ว!! กรี้ด~~ XD
นมใหญ่ได้คัพ F
รอบนี้จะไปโพสใน tirkx มั้ยคะ? ถ้าไม่จะได้ทิ้งลิงค์ให้มาอ่านที่นี่
ไปครับ พรุ่งนี้เย็นๆ ว่าจะแปะที่ตุรกีกับพันทิป
…ตามดูแต่มาโดกะกะซอมบี้ นอกนั้นแล้วไม่มีโดนผมซักเรื่อง
ว่าแต่เก่งนะครับที่อุตส่าห์ทนดูริโอะจนจบได้เนี่ย(ถึงจะข้ามมาก็เหอะ)
ปล. ผมว่ายังใงไอ้ยามะมันก็คงแถต่อไปล่ะครับ ถ้าไม่ทำอนิเมแล้วมันจะไปทำอะไรได้อีก
นอกจากมาโดกะกับซอมบี้ อย่างอื่นไม่ค่อยรู้สึกอยากดูเลย ดีนะยังมีหนุ่มหล่อแห่งทางช้างเผือกกับindex จากseasonที่แล้วให้ดูอยู่
ส่วนมาโดกะนี่ ผมว่าซายากะน่าจะไปรายแรกนะครับ ไม่ก็กลายเป็นมาโจ ตามสไตล์คนเขียน(?)
ปล.นาโนฮะภาคแรก มันยังไม่เปลี่ยน definition ของสาวน้อยเวทย์มนต์เท่าไหร่นา มันมาออกลายตอน A’s นี่แหละ
ไรฟะ ไม่ค่อยมีด่ามันส์ๆเลย ซีซั่นนี้
ไม่ค่อยมีไรด่าอ่ะ จืดๆ
แต่ดู Reaction แล้วค่อยคิดได้ว่าน่าจะด่า IS เยอะๆหน่อย
ท่าทางจะตกได้เยอะเลย
อาจจะเป็นเพราะว่า โลกใบนี้มีการ์ตูนอย่าง โคนัน คินดะอิจิ เลยทำให้ยัยหนุโกซิกหมองไปเลยทีเดียว
เราเป็นคนหนึ่งที่ดูเรื่องนี้แล้วก็……แค่นี้เหรอ -_-”
ก็เห็นหลายคนชอบเรื่องนี้นะ แต่เรากลับผิดหวังยังไงไม่รู้
ไม่คิดจะดูอะไรเลย ซีซั่นนี้ ดูผ่านๆจากรีวิว-สกรีนช็อตแล้วไม่ค่อยน่าสนเท่าไหร่
ปัจจุบันเหลือแต่ กิงกะบิโชเน็น เรื่องเดียว
อ้อ ลืมนึกไป ที่พอจะเตะตาหน่อยก็มี Level E
นึกยังไงเอามังงะ 2 เล่มจบ เก่าๆมาทำก็ไม่รู้
ว่างๆจะลองไปหามาดู
รีวิวได้มันส์มากครับ ตอนแรกว่าซีซั่นนี้ไม่มีไรน่าดูเลย
แต่เดี๋ยวคงต้องไปลองดูมาโดกะกับซอมบี้ซะหน่อยแล้ว
ปล. ผมอยากอ่านบทความเก่าๆ ของคุณมากเลยครับ แต่ภาพประกอบมันหายหมดเลย อารมณ์ร่วมหายหด
มาโดกะตอน 3
WTF!?
WTF มาก….
เคอง = สาวน้อยแดกเค๊ก
มาโดกะ = เค๊กแดกสาวน้อย
SHAFT > KYOANI
เคอง = วันๆไม่ได้ทำหอกอะไร
มาโดกะ = นางเอกทำหอกอะไรไม่ได้ไปวันๆ
กระทู้พุ่งใหญ่เลยแฮะ
ไม่รู้ทำไมเเต่อ่านเเล้วฮาดี
มาโดกะ อะไรก็ดี…..แต่ขัดใจอยู่อย่างเดียว(อย่างมากด้วย)
ตัวละครมันหน้าบานกันทั้งเรื่อง -_-“