002 | Audience

พักนี้เวลาดูอนิเมหรือหนังจะเริ่มมีวิธีคิดแทรกในหัวแบบ (คิดชื่อเจ๋งๆ อยู่) ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ดีดออกจากการรับรู้ผลงานนั้นแบบปกติไปเรื่อยๆ ลักษณะก็แบบ…

พอเริ่มซีนมา ตัวละครโผล่มาพูดจาโผงผาง หัวก็จะตึความไปว่า ซีนนี้ผกก. ต้องการให้เรามองว่าตัวละครนี้เป็นคนพูดมาก ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย สมองกลวง พอผ่านไปอีกนิดนึงพอตัวละครได้สนทนากับตัวเอก ก็จะคิดว่าต้องการวางจุดยืนตัวละครนี้ไว้ตรงไหน มีความสำคัญแค่ไหน อยากให้คนดูรักหรือเกลียด ซึ่งบางทีพอตีความแล้วก็จะพยายามคิดให้ตรงข้าม เช่นเรื่องอยากให้เกลียดกูก็จะชอบ เรื่องอยากให้ชอบกูก็จะรำคาญแทน…

ซึ่งจะมองข้ามไปอีกว่า พอตัวละครตัวนี้นิสัยแบบนี้พอเจอกับพระเอกจะเกิดซีนอย่างไรต่อ อย่างพอเริ่มซีน พระ นาง เดินมาเจอกันโดยบังเอิญที่ริมถนน หัวก็จะประมวลจากข้อมูลที่รู้ เช่นหนังตัวอย่าง เรื่องย่อ ชื่อเรื่อง แม้กระทั่งเวลาที่หนังดำเนินไป เดาว่าซีนนี้จะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งมีโอกาสถูกราวๆ 60% ซึ่งพอมันเป็นไปตามที่เดาก็จะรู้สึกเบื่อๆ ความอยากดูต่อลดลงไปเรื่อยๆ

ปัญหานี้ทำให้ดูอะไรจบน้อยลงมาก ปกติผมดูหนัง อนิเม ซีรี่ส์อะไร ดูจบตลอดนะ แต่พักหลังดูอนิเมไม่จบ ดูซีรี่ส์ข้ามตอนหรือ ดูหนังก็ข้ามตรงกลางบ่อยมาก ขนาดเล่นเกมยังสคิปคัทซีนทันทีถ้ารำคาญหรือเข้าใจแล้วว่าซีนนั้นต้องการเล่าอะไร… เข้าใจว่าก็ตามสมัยนิยมด้วยแหละ คอนเทนท์ล้น สมาธิสั้น เงื่อนไขก็เลยเยอะ ห้าวิแรกต้องปัง

ดังนั้นพักหลังอะไรที่ตามอย่างต่อเนื่องก็เลยกลายเป็นเรื่องแบบที่เอนจอยได้กับคอนเทนท์ตรงนั้นเลย โดยให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่องน้อยลง เช่น ยุรุแคมป์หรือ Mono, เธอผู้เป็นอันตรายต่อใจ, เนกาทีพโพสิทธีแองเกลอร์ แต่เรื่องที่มีการเล่าเรื่องดีจริงๆ อย่าง Chi(โลกหมุน), มาเกไนฮิโรอิน หรือกันดั้ม ก็ยังชอบและตามต่อเนื่องอยู่ ส่วนพวกแนวต่างโลกนี้ดูแทบไม่จบเลย (ผมดูโซโลเลเวลลิ่งจบนะ 55 โนเบรนสุดๆ)

ล่าสุดดูเรื่อง To be Hero อนิเมจีนแต่ดูพากย์ญี่ปุ่น เล่าเรื่องไว งานก็ดีมีสไตล์ พอจบพาร์ทฮีโร่คนแรกก็ทิ้งปมแล้วไปเล่าคนที่สอง พอจบคนที่สองก็ทิ้งปมอีก ก็เลยชักจะเริ่มรำคาญล่ะ มึงจะทิ้งปมไรนักหนา เดี๋ยวมึงคลี่มาก็ม้วนๆ ไปผูกฮีโร่คนโน้นคนนี้สิท่า เลยเริ่มขี้เกียจดูเรื่องฮีโร่คนที่สามแล้ว

ที่ฮาอีกอันคือเวลาดูคลิปเกมไฟติ้ง อย่างแข่ง FT2(คนชนะ 2 เกมก่อนชนะ) เนี่ย พอแข่งกันไปเกมนึงนึงก็จะเริ่มคิดแล้ว คลิปยาว 5 นาที ตอนนี้ผ่านไป 1.30 นาทีฝั่ง A ชนะ คลิปเหลือ 3.30 นาที ดังนั้นเกมที่ 2 ฝั่ง A จะแพ้ แล้วไปตัดสินกันที่เกมที่ 3… แต่ไม่ได้สกิปนะ ก็นั่งดูไปเรื่อยๆ อยู่ดี ถ้าเป็น FT3 หรือ FT5 การคำนวนหัวจะเริ่มซับซ้อนล่ะ เล่นกันช้าเร็ว นำอยู่กี่ยก รีเซ็ทหรือเปล่า กลายเป็นสนุกไปซะงั้น…