รวมๆ คือค่อนข้างไม่ประทับใจ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่
Expansion ของ FFXIV เกมเพลย์และโปรเกรสมันจะเดิมๆ เหมือน Expansion ก่อนๆ เลเวลเพิ่ม 10 เลเวล, เนื้อเรื่องหลัก 6 Map, ดันเจี้ยนทุก 3 เลเวล, Trial 2 อันไม่รวมบอส ฯลฯ ดังนั้นประเด็นที่จับตามองก็คือเนื้อเรื่องหลักล้วนๆ
ด้วยความที่เกมนี้ตั้งบาร์ไว้สูงมาก Shadowbringer อยู่ในระดับมาสเตอร์พีซและ Endwalker ก็สรุปเรื่องราวได้อย่างสวยงาม ทำให้ไม่คาดหวังว่า Dawntrail จะทำได้ดีกว่า แต่ก็ไม่คิดว่าจะแย่ขนาดนี้เหมือนกัน เล่นจบแล้วให้คะแนนใกล้ๆ กับ Stormblood เลยทีเดียว…
ปัญหาหลักที่ทุกคนเห็นตรงกันก็คือตัวเอกภาคนี้อย่าง Wuik Lamat ตัว Wuk Lamat เปรียบเทียบนิสัยให้เข้าใจง่ายๆ ก็ราวๆ นารุโตะที่ไม่มีจิ้งจอกเก้าหาง ชีวิตดี้ดีและโตมาด้วยความรักล้นปรี่ ภาคนี้ตั้งใจวาง Wuk Lamat ให้เป็นตัวเอกและตัวเดินเรื่อง จากที่ปกติตัวเราจะไม่พูด นานๆ จะมีให้เลือกบทพูดสักที กลายเป็นต้องมาฟัง Wuk Lamat พล่ามตลอดเวลา อยากเป็นโฮคาเงะ ทำไงไม่รู้อ่ะ แต่กุอยากเป็นโฮคาเงะ แล้วพล๊อต(อ่านว่ากุ)ก็ตองคอยดลบันดาลให้ทุกอย่างเป็นดั่งใจนางเสมอ
ส่วนตัวก็ไม่ได้ชอบเฟอรี่อยู่แล้ว แล้วก็ไม่ได้ชอบกล้ามท้องผู้หญิงตัวใหญ่ๆ ด้วย คะแนนเริ่มต้นของความประทับใจก็เลยติดลบ พอมาเจอนิสัยโลกสวย พูดจามีแต่น้ำ ก็เลยยิ่งติดลบขึ้นเรื่อยๆ แถมเล่นไปนางก็ยังเกาะติดเราไปทุกที่ไม่ว่าจะไปไหน ขนาดหมดพาร์ทชิงตำแหน่งราชาทูรัลแล้วก็ยังติดสอยห้อยตามไปถึงต่างโลกทั้งๆ ที่ไม่รู้สี่รู้แปดอะไรสักอย่าง… มึงกลับไปเฝ้าเมืองมึงเห้อออออ
แฟนเกมนี้ปกติจะค่อนข้างยึดติดกับตัวละครของตัวเองมาก การเปลี่ยนตัวเดินเอกเป็นเรื่องที่เสี่ยงจะทำให้ไม่พอใจได้ แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้มีปัญหากับการเปลี่ยนตัวเอก เพราะตัวเอกมันไปไกลเกินไปแล้ว วีรกรรมระดับกอบกู้จักรวาลไม่เหลือพื้นที่เล่นต่อ ถ้าเราเป็นตัวเอกของเรื่องก็จะเหมือนภาค Stormblood คือเป็นรถบุลโดเซอร์ พวกมึงทะเลาะอะไรคุยกันเสร็จยัง เสร็จแล้วก็มาให้กุกระทืบซะ วนไป การเปลี่ยนตัวเดินเรื่องก็เป็นวิธีที่ดีที่จะสร้างความแปลกใหม่ แต่ถ้าจะมีตัวเดินเรื่องใหม่ก็ควรจะสร้างตัวละครให้ผู้เล่นรู้สึกรัก รู้สึกอยากเอาใจช่วย อารมณ์ว่าเชี่ย เห็นมั้ยนี่ลูกกูเจ๋งเว้ย แต่นี่อะไร… เฟอรี่กล้ามโตถือขวานทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง…
ช่วงแรกของเกมจะเป็นศึกชิงตำแหน่งราชาทูรัล การต่อสู้ที่แสนดุเดือดระหว่างพี่น้องสี่คนเพื่อหาราชาคนใหม่นั้นก็คือ…. แรลลี่แสตมป์!! ทุกคนจะต้องตามหาบู๊ทแล้วให้เจ้าของบู๊ทประทับตราให้ ใครครบ 7 อัน และไปถึงนครทองคำจะได้เป็นราชาคนใหม่ แล้วเงื่อนไขประทับตราคือ… จับอัลปาก้างี้ ซ่อมมิโกชิงี้ แข่งทำอาหารงี้…. เป็นการต่อสู้ที่แสนดุเดือดจริงๆ
หลังจากจบศึกชิงตำแหน่งราชาก็จะไปพาร์ทของสฟีน ซึ่งส่วนนี้ก็จะอ้างอิง FF9 เยอะ โดยตัวร้ายหลักของภาคนี้คือสฟีน Sphene (อิมเมจการ์เน็ทแต่สีเหลืองแทน) นางจะเป็นราชินีของอเล็กซานเดรียซึ่งอยู่ในโลกสะท้อน แล้วโลกนี้ก็โดนสายฟ้ากลืนกิน นางก็เสียใจอยากช่วยเหลือประชาชนของนางจนสร้างโลกหลังความตายมารั้งชีวิตเอาไว้ แล้วโลกนี้มันกินพลังงานเยอะ พลังงานไม่พอเลยเริ่มมารุกรานโลกสะท้อนอื่น ก็กลายเป็นต้องมาสู้กับ Wuk Lamat ที่เป็นราชาของทูรัลที่อยากปกป้องประชาชนของตัวเองเหมือนกัน (แต่เอ็งเพิ่งเป็นราชาหมาดๆ เลยนะ…)
ซึ่งประเด็นขัดแย้งอันนี้มันซ้ำไง มันเหมือน Emet-Selch ที่ขัดแย้งกับ WoL ซึ่งจริงๆ แล้ว ตัวร้ายภาคนี้ก็ไม่ได้แย่ (น้องสฟีนขาเรียวสวยมาก) แต่พอประเด็นมันซ้ำก็อดเปรียบเทียบไม่ได้ ซึ่งก็… ของเก่าดีกว่าเยอะ
ครึ่งหลังของเกมก็ทำออกมาได้ดีอยู่นะ แอเรียสวยๆ ดูแล้วรู้สึกถึงความตั้งใจของทีมงานก็เยอะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้เมื่อบาร์เก่ามันสูงเกิ้น ส่วนครึ่งแรกก็ลืมๆ มันไปซะ FFXIV ไทบ้าน…
หลังจากจบเนื้อเรื่องหลัก ตัวเอกจะได้กุญแจที่ทำให้เดินทางไปโลกสะท้อนอื่นได้ง่ายๆ มาแล้ว (ปกติไปแต่ละทียากมาก) ก็ไม่รู้ว่าจะเดินเรื่องไปทางไหนต่อ หรือจริงๆ ภาคนี้ตั้งใจทำให้คนด่าเยอะๆ ภาคหลังจะได้สร้างง่ายๆ หน่อย!?
จบแล้วจะไปตีราดาห์นต่อล่ะสัส แม่งยากฉิบหาย