924 | Shikoku Karst Epilogue

  • ถึงเอนทรี่ก่อนจะบอกว่าทริปจบแล้ว แต่จริงๆ ก็ยังไม่ได้กลับหรอก จองตั๋วเผื่อวันเที่ยวแถวเบปปุกับนั่งเรือกลับไว้ด้วย แต่โดยสภาพแล้วเที่ยวมากคงไม่ไหว แต่ได้พักเรียวกังก็สบายหน่อย มีออนเซ็น ตอนเช้าก็มีเซ็ทอาหารเช้าให้กิน เดิมทีวางแผนจะปั่นไปโออิตะหรือนั่งกระเช้าขึ้นเขาสึรุมิด้วย แต่ก็เปลี่ยนเป็นไปแค่อควอเรียมแทน ก็เพลินๆ ดี เจอผู้คน(และเด็กๆ) สนุกสนานสบายใจดี
  • จากนั้นก็นั่งเรือเฟอรี่กลับไปโอซาก้า จริงๆ อันนี้แปลกใหม่ใช้ได้ นั่งเฟอรี่ข้ามคืนจากเบปปุไปโอซาก้า มีห้องส่วนตัวนอน(เล็กๆ) บนเรือหรูหราหมาเห่า มีออนเซ็น มีตู้ขายของเยอะแยะ มีบุฟเฟ่แต่ไม่อร่อยเท่าไหร่ 555 เนื่องจากเดินทางตอนกลางคืนก็เลยไม่ได้ค่อยได้เห็นวิวมากนัก มาเห็นก็ตอนเช้าไปนั่งกินข้าวนี่แหละ
  • ออกจากท่าเรือมาก็ปั่นจักรยานจากท่าเรือกลับไปริงคุทาวน์ (โซนเดียวกับวันที่มา) เห็นหัวแตกๆ แต่วันนั้นก็สี่สิบโลนะจ๊ะ ไม่ได้เหนื่อยหรอก แต่ปั่นในเมืองขึ้นลงฟุทบาทจนเจ็บตูดมาก… จากนั้นนอนโรงแรมที่จองไว้ โรงแรมหรูผิดปกติวิสัยมาก แต่คนน้อยชอบกล… มีห้องอาหารอยู่ชั้นบน นั่งแล้วฟีลเหมือนนักธุรกิจมาก รุ่งขึ้นก็นั่งแท็กซี่ตรงจากโรงแรมกลับไปสนามบินเลย

อยู่สนามบินรอขึ้นเครื่องกลับบ้าน เอาผ้าก๊อชที่แปะหัวออกแล้ว แต่ยังไม่สระผม หมวกแก๊ปก็ทำหายบนเรือ 555 ขากลับหากล่องจักรยานไม่ได้ก็ถอดใส่ถุงผ้าธรรมดาแทน พนักงานสนามบินคันไซก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนไปรับที่สุวรรณภูมิก็สภาพดีมาก ไม่มีรอยอะไรเลย… เหมือนระวังเป็นอย่างดี (แต่คราวก่อนโน้นที่ใส่ถุงแบบนี้พี่โยนกระจุยเลยนะ)

ก็เป็นอันจบทริป รอดชีวิตกลับมาประเทศไทยในสภาพแสนโทรม โดยรวมแล้วก็ไม่มีอะไรผิดแผนนะ พวกที่พัก เส้นทาง หรือการโดยสารต่างๆ แต่ไอ้หัวแตกนี่ก็ผิดแผนอย่างหนักเลย 555 ก็เป็นประสบการณ์ที่คงจะไม่ลืมไปอีกนาน…