377 | 2012 Spring

พบกันอีกครั้งแล้วกับ An Unbiased Review ประจำอนิเมฤดูใบไม้ผลิปี 2012 ชักจะเบื่อแล้วล่ะสิครับ เขียนเป็นครั้งสุดท้ายดีมั้ยเนี่ย(หัวเราะ) สำหรับซีซั่นนี้ก็ดูจะเป็นอีกซีซั่นที่ชิลๆ ไม่มีอะไรกรี๊ดกร๊าดเท่าไหร่ ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนว่าเพราะรอเรื่องเฮียวกะของเกียวอนิอยู่เลยทำให้ An Unbiased Review รอบนี้ออกช้ากว่าปกติสักหน่อย บางเรื่องก็ฉายไปสองตอนสามตอนแล้ว ผมจะใส่ไอคอนด้านล่างบอกไว้ว่าฉายไปกี่ตอนดูไปได้กี่ตอนด้วย ส่วนกราฟจะทำแค่ตอนแรก เดิมก็ตั้งใจจะทำเท่าที่ดูไปน่ะหล่ะ แต่มันยุ่งยากกว่าที่คิด ปิดท้ายด้วยความขี้เกียจก็เป็นอันว่าทำตามปกติไปดีกว่า
ตามปกติจะต้องกล่าวถึงอนิเมซีซั่นที่แล้วเสียก่อน แต่งวดนี้จะไม่จำเป็นเพราะว่าได้เขียนแยกไปอีก Entry นึงแล้ว เชิญไปอ่านดูได้ ซีซั่นนี้มีอนิเมฉายค่อนข้างเยอะ ผมเลยพยายามตัดเรื่องที่ไม่สำคัญออกโดยจะมี ซอมบี้:ภาคต่อ ลูแปง:ภาคต่อ ซากิ:ภาคต่อ ยูเรก้า7อ้าว:ภาคต่อ FateZero:ภาคต่อ ZETMAN:(ยัง)จัมพ์อนิเม ฮิอิโระอะไรสักอย่างที่เกย์ๆ:ขี้เกียจดู คุโระมาโจ:ขี้เกียจดู คุโรโกะ:จัมพ์อนิเม ก็เหลือเท่าที่เห็นนี่หล่ะ วิธีให้คะแนนเหมือนๆเดิม…เต็มร้อยได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ดูไม่จบจะได้ F 0 คะแนนไป คราวนี้เรียงลำดับจากห่วยไปดีเหมือนเดิม
• ไชนิ่งฮาร์ท

เคยคิดว่าลายเส้นแบบโทนี่ไม่เหมาะกับการเป็นอนิเมแล้วก็คิดไม่ผิด ตัวละครแต่งตัวประหลาดๆ ดูไม่เข้ากับชาวบ้านในเรื่อง ไม่เข้าแม้แต่เวลายืนด้วยกันเอง เดินเรื่องจืด เนื้อเรื่องง่วงๆ ไม่สนุกเลย ข้ามไปดู Ending เจอเพลงน่ารักแต่ภาพหลอนๆ อธิบายไม่ถูก มันเหมือนตาไร้อารมณ์ ยิ้มแต่ไม่ยิ้ม อารมณ์คล้ายๆ 3D โพลิกอน
Checkpoint: โทนี่เหรอ?
คะแนน: 0/100 F
ดูไป: ■□


• อะจิ๊โกะจิ๊

โคนาตะมีติ่งผม จืดมาก slice of life แสนอืด ดูแล้วง่วงเหงาหาวนอนมาก อนิเมคุณภาพก็พอไหวอยู่ แต่ขาดแรงจูงใจที่จะดู
Checkpoint: ติ่ง..ช่วยอธิบายทีว่าติ่งมันคืออะไร
คะแนน: 0/100 F
ดูไป: ■□□


• ฮาร์ทแคชเซย่า

เซย่าเป็นอนิเมภาคต่อที่ได้รับสิทธิ์พิเศษยอมเขียนซะหน่อย ภาคนี้เป็นเนื้อเรื่องต่อจากภาคฮาเดส โกลด์เซนต์งอกไปหมดแล้ว คุณหนูซาโอริก็เอาเด็กมาเลี้ยงต้อยชื่อโคกะซึ่งเป็นพระเอกภาคนี้ แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ทุกคนสะกิดใจก็คือลายเส้นมันเหมือนฮาร์ทแคชพรีเคียวหรือแคชเชอร์นที่มันดูเหมือนการ์ตูนผู้หญิงเกินไป ซึ่งผมว่าถ้าไม่ใช่คนเรื่องมากแล้วมันก็โอเคอยู่นะ ร่วมสมัยดี แต่ปัญหาของเซย่าก็คือคุณภาพงานแย่มาก โอเคเนื้อเรื่องพื้นๆมันเป็นจุดขายของเซย่าอยู่แล้ว พอรับได้ แต่คุณภาพงานนี่สิ ขนาดตอนแรกยังดูพิกลพิการ โอเพนนิ่งโพสท่ายังหน้าบูดๆเบี้ยวๆ เวลาต่อยกันก็เกราะหายบ้าง เกราะโผล่บ้าง ที่สำคัญก็คืออนิเมอย่างอย่างพรีเคียวที่มาจากโตเอย์เหมือนกันกลับคุณภาพดีกว่ามาก คงเส้นคงวากว่า รายละเอียดครบถ้วน โตเอย์ให้ความสำคัญกับแบรนด์อย่างพรีเคียวมากกว่า? เซย่าเองก็เป็นแบรนด์ดังที่ฝังใจเด็กยุคนึงมาก เด็กผู้ชายเคยดูกันทุกคน ; ; ขนาดผมยังรอดูด้วยเลย รวมๆแล้วไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ใจจริงอยากเห็นเซย่าที่ดราม่าเข้มข้นขึ้นตามกลุ่มเป้าหมายที่อายุเพิ่มขึ้นมากกว่า
Checkpoint: มีเซนต์ผู้หญิงแล้วนะ!, 30+
คะแนน: 14/100 D
ดูไป: ■□■


• ยุรุเมท

อนิเมสั้นแนวขำขันเกี่ยวกับนักเรียนเตรียมสอบมาอยู่หอพัก มุกก็ขำๆ ดี ไม่ฝืดเคืองระคายผิว โอเพนนิ่งก็ฮา เสียตรงสั้นไปหน่อยไม่ทันเข้าใจอะไร
Checkpoint: พอดูได้
คะแนน: 25/100 C
ดูไป: ■□□


• ชิโรคุมะคาเฟ่ (คาเฟ่หมีขาว)

Working เวอร์ชั่นแพนด้า!? ไอเดียหลุดโลกดี ดีไซน์ตัวละครฮาดีมีแต่สัตว์ ชอบเล่นมุกไม่ค่อยขำ งานอนิเมชั่นอยู่ในระดับพอใข้ แต่รวมๆแล้วไม่สนุกเท่าที่ควร ดูตื้นๆ
Checkpoint: สวนสัตว์
คะแนน: 26/100 C
ดูไป: ■□□


• เมดากะBox

เดิมที่ความรู้สึกแรกที่ได้ยินข่าวว่าเมดากะจะทำอนิเมก็คือประหลาดใจมาก เพราะว่ามันเป็นคอมโบ Jump x Nishioishin x Gainax ซึ่งทั้งสามตัวแปรนี้ไม่ว่าตัวใดก็สามารถสร้างความฉิบหายได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว พอได้ดูอนิเมจริงๆก็พบว่าธรรมดามาก ผมไม่เคยอ่านเมดากะฉบับมังงะ แต่รู้สึกว่ามันคงเดินตามมังงะทุกช่องเลย Gainax ก็เล่นอะไรแผลงๆนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับประทับใจอะไร (ตอนนี้ Gainax ก็เหลือแต่เปลือกแล้ว) จบตอนก็จืดๆ คุณภาพงานเองก็ไม่ได้ดีเด่ ท้ายที่สุดแล้วจัมพ์อนิเมก็ไม่มีอะไรน่าจดจำเหมือนเดิม เสียแรงที่ให้โอกาส
Checkpoint: ธรรมดา
คะแนน: 28/100 D
ดูไป: ■□□


• คนสืบผี

อนิเมสร้างจากมังงะเกี่ยวกับผีเฮี้ยนประจำโรงเรียน ค่ายที่ทำคือ Silverlink แน่นอนว่าต้องกำกับโดย โอนุมะ ชิน ที่ค่อนข้างจะเบื่อๆนิดหน่อยว่าทำแล้วงานออกมาเหมือนกันทุกเรื่อง สำหรับเรื่องนี้ผมอ่านของไทยไปสองเล่มแล้ว(อีกสองเล่มซื้อมายังไม่ได้แกะเลย) ตอนแรกดัดแปลงจากมังงะโดยเปลี่ยนลำดับเรื่องให้ตัวละครหลักทั้งหมดรู้จักกันแล้ว เพื่อง่ายต่อความเข้าใจและการเดินเรื่อง ก็….เรื่อยๆ คือมันก็ยิ้มๆ แต่มันก็ไมได้สนุกอะไรเป็นพิเศษ งานภาพก็ออกกลางๆถึงต่ำด้วยซ้ำ จุดขายของเรื่องก็คือยูโกะผีขี้เล่น ในอนิเมก็ทำออกไม่ได้น่ารักบุฮี้อะไรเป็นพิเศษ
Checkpoint: ยูโกะใส่ถุงน่อง, งานไม่ค่อยดี
คะแนน: 33/100 C-
ดูไป: ■□□


• สองสิงห์อวกาศ

เรื่องนี้ตอนเป็นมังงะสนุกมากเลย พอได้ทำอนิเมก็รอดูอยู่พร้อมกับกังวลว่า Space Brothers นั้นไม่เหมาะกับเป็นอนิเมยังไงไม่รู้ มันเหมาะกับเป็นหนังหรือละครมากกว่า เนื้อหาจะเป็นชีวิตของพี่น้องคู่นึงที่อยากเป็นนักบินอวกาศ เอกลักษณ์และความสนุกของการ์ตูนเรื่องนี้คือวิธีคิดของตัวละครและการเปรียบเทียบแบบเสียดสีแล้วตบด้วยจังหวะถ่วงให้กระแทกอารมณ์ โดยมีรายละเอียดต่างๆรอบๆตัวคอยเสริมบรรยากาศ อนิเมตอนแรกนั้นก็ทำออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น(งานของ A1) แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เอาเข้าจริงๆแล้วการดูอนิเมที่มีชายวัยกลางคนหัวฟูมานั่งบ่นๆโดยไม่มีสาวๆแจ่มๆมาช่วยคานบรรยากาศนั้นเป็นเรื่องที่แสนเข็ญมากกว่าที่คิด
Checkpoint: ควรจะไปดูฉบับหนังโรงมากกว่า
คะแนน: 35/100 B
ดูไป: ■□□□


• นัตสึอิโระโนะคิเซกิ

ตอนเห็นภาพโปรโมทภาพแรกก็แอบคาดหวังว่ามันจะสนุกอยู่ไม่น้อยเลยว่าซันไรส์จะทำออริจินอลอนิเมสาวน้อยออกมาแบบไหนกัน แต่พอได้เห็นอนิเมชั่นคาแรกเตอร์ดีไซน์แล้วความหวังก็เริ่มถดถอยเรื่อยๆ ดูตลกๆ หัวโตๆ ผอมแห้งอย่างกับขาดสารอาหาร ในตอนแรกก็เป็นอารมณ์อีโมของสาวน้อยไปเรื่อยตามประสาอนิเมสาวล้วนกับความสัมพันธ์ที่เกินความจำเป็น มีแฟนตาซีนิดหน่อย นักพากย์ดังๆหลายคน เสียดายของจริง
Checkpoint: ผอม, อายาฮิกับโทมัตจี้พากย์ด้วยนะเออ
คะแนน: 37/100 D
ดูไป: ■□□


• เซนโกกุคอลเล็คชั่น

จริงๆผมเริ่มเบื่อไอ้พวกอนิเมที่เอาสามก๊กมั่งเซนโกกุมั่งมาจับแปลงเพศใส่โมเอ้แล้ว มีมาเรื่อยๆจริงๆ เรื่องนี้พอดูๆไปก็รู้สึกว่าดีไซน์ตัวละครสวยดี เออนะ โนบุนากะสมัยนี้ต้องหน้าอกใหญ่ๆผมสีชมพูแถมยังใส่ถุงน่อง(สำคัญมาก นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ผมดูได้จนจบ) ในตอนแรกเป็นแนวสบายๆชีวิตวันๆของโนบุนากะ ตอนสองจะเป็นเซนโกกุไอดอลมาสเตอร์ ข้อดีคือแต่ละตอนมันจบในตอนของมันเอง(หลังๆคงต่อกันกว่านี้?) ชอบตรงบรรยากาศของฉากหลังและโทนสีของเรื่อง สำหรับเซนโกกุคอลเล็คชั่นนี้เป็นอนิเมความยาว 25 นาทีเท่ากับอนิเมเรื่องอื่นแต่กลับรู้สึกเหมือนดูอยู่ 1 ชั่วโมงเต็มๆ มันอีดอาดยืดยาด แต่ก็ยังดูได้จนจบ ผมควรจะชมหรือจะบ่นดี?
Checkpoint: โนบุนากะหน้าอกใหญ่ใส่ถุงน่อง, ตอนสองสนุกขึ้นเยอะเลย
คะแนน: 42/100 C
ดูไป: ■■□


• สึริทามะ

อนิเมเพี้ยนๆ มึนๆ เกี่ยวกับอะไรก็ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง รู้ว่ามีปลาหล่ะที่แน่ๆ สไตล์ของเรื่องดูมีลูกเล่นแปลกตาดีฉากหลังแทบทั้งหมดเป็น 3D เดินเรื่องแบบพิลึกๆ ถ้าให้เปรียบเทียบก็คล้ายๆคูจูบลังโก้ละมั้ง อาจจะไม่บ้าเท่า แต่มึนพอๆกัน เรื่องนี้ผมไม่รู้จะอธิบายอะไรดี เพราะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ก็สนุกแบบมึนๆดี
Checkpoint: อะไรของมันวะ
คะแนน: 45/100 C+
ดูไป: ■■


• อุป๊อตเตะ

โมเอ้ฟิลเตอร์สำหรับปรนเปรอโอตาคุนั้นยังคงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของญี่ปุ่นเสมอ เมื่ออาวุธปืนทั้งหลายกลับกลายมาเป็นสาวน้อยโมเอ้ที่ท่อนล่างมั่นคงกันทุกคน อธิบายง่ายๆก็คือ ปืน→สาวน้อยในชุดนักเรียน พวกมาเนียปืนน่าจะชอบเรื่องนี้เป็นพิเศษ ตัวเรื่องจะมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับปืนประกอบเป็นระยะๆ ได้ความรู้กว่าที่คิด! ผมเองก็ไม่ได้รู้จักปืนอะไรเลย เล่น Metal Gear เลยพอจะจำ AK47 กับ M14A ได้สองอัน เรื่องนี้เดิมเป็นมังงะพอทำอนิเมแล้วลายเส้นเปลี่ยนจากหน้าตีนเป็นหลังมือ มุกตลก มุกที่สอดคล้องกับปืน จังหวะตบมุก โอเคเลย ไม่น่าเชื่อว่าอนิเมไร้สาระจะทำได้เป็นชิ้นอันขนาดนี้
Checkpoint: ขาใหญ่กันทุกคน, มาเนียปืน
คะแนน: 57/100 B
ดูไป: ■■□


• แฟนผมชอบเล่นน้ำลาย

เชื่อหรือไม่ว่ามังงะเฟติชเกือบๆจะโรคจิตเรื่องนี้ ผ่านไปเกือบสิบเล่มแล้วคู่พระนางยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย…. ได้จับมือนิดหน่อย จูบกันนี่ไม่ต้องพูดถึง ลายเส้นก็ไม่สวย เนื้อเรื่องก็พิลึก แต่กลับอ่านแล้วระทวยยิ่งกว่าโดจินลามกเสียอีก ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าเรื่องพรรค์นี้จะได้ทำเป็นอนิเมกับเค้าด้วย อนิเมอิงสไตล์ต้นฉบับก็เลยมีบรรยากาศออกจะโบราณๆเชยๆ เหมือนอนิเมยุค 90 เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนน้ำลายของเด็กนักเรียนวัยกำหนัด หลายๆคนอาจจะรับไม่ได้ แนะนำให้ลองอ่านการ์ตูนก่อน ถ้ายังรับไม่ได้ก็อย่าดูเลยเพราะมันจะแลกน้ำลายกันทุกตอน อนิเมก็ทำออกมาใช้ได้แต่ส่วนตัวแล้วชอบแบบมังงะมากกว่านิดหน่อย
Checkpoint: โรคจิต, เชย
คะแนน: 60/100 C
ดูไป: ■□■


• เฮียวกะ

หลังจากว่างเว้นจาก TV อนิเมมาได้สักระยะ (จะนับนิจิโจมั้ย!?) เฮียวกะนี่ก็เป็นงานล่าสุดของเกียวโตะอนิเมชั่น แรกเห็นโปสเตอร์ก็คิดว่าเกียวอนิจะทำอนิเมแนวในรั้วโรงเรียนแบบจริงจังไม่ฮาเรมเหรอเนี่ย (จากคียอาร์ท ตัวละครหญิงไม่มากกว่าจำนวนตัวละครชาย) มันต้องสนุกแน่เลย! หลังจากนับวันรอแล้วรอเล่าโดยไม่อ่านเรื่องย่อเลย เฮียวกะเป็นเรื่องจากมุมมองของนักเรียนวัยรุ่นชายคนนึงที่มีนิสัยขี้เกียจ รักความเรียบง่าย ได้มาเข้าชมรมโดยจำเป็นแล้วเจอหญิงสาวคนนึง แล้วก็คุยกันเกี่ยวกับเรื่องปริศนาต่างๆ อย่างแรกที่ต้องชมก็คือมันมีงานที่เนี๊ยบมาก ละเอียดมาก การขยับของตัวละครนี่อยู่ในระดับเดียวกับฮารุฮิหายไป(ภาพยนตร์)เลย ฉากหลัง ความพลิ้วของเส้นผม การขยับของตัวละคร คงไม่มีใครทำได้ดีกว่าเกียวอนิแล้ว (แต่ถ้าถามว่าดูแล้วน่าไปเที่ยวนี่ผมว่า P.A. เหนือกว่า)
โอเคพอข้ามเรื่องคุณภาพอนิเมชั่นไป เนื้อเรื่องกลับเป็นอะไรที่เข้าใจยาก ไม่สนุก และไม่น่าติดตาม อนิเมจะเดินเรื่องด้วยมุมมองของพระเอกที่มีนิสัยขี้บ่น(แบบไม่มีมุกตลกเสียดสีอย่างเคียน) คาแรกเตอร์เพื่อนพระเอกก็พิมพ์นิยม ตัวนางเอกนั้นนอกจากวาดสวยแล้วก็ไม่มีอะไรน่าประทับใจเลย เป็นยุยครึ่งนึง/ฮารุฮิครึ่งนึง โดยจับเอาส่วนที่ไม่ได้เรื่องมารวมกัน เดินเรื่องโดยใช้บทสนทนาโต้ตอบไปมาชวนให้เบื่อ ยิ่งจากมุมมองของพระเอกที่มีนิสัยขี้เบื่อก็ยิ่งทำให้ขาดบรรยากาศสนุกสนานที่เป็นจุดแข็งของเกียวอนิไป ปริศนาในเรื่องก็สร้างสรรค์นิดหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นจะต้องจดจำ มันเป็นอนิเมที่ด่าไม่ได้(นี่ยังไม่ได้ด่านะ(หัวเราะ))แต่ก็ชมอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องคุณภาพ มันไม่มีสาวๆรุมล้อมให้โอตาคุบ้าคลั่ง แต่มันก็ไม่ได้มีความลึกซึ้งมากพอให้ชื่นชม เป็นอะไรที่กลางๆ จนถึงกับผิดหวังด้วยซ้ำ
Checkpoint: งานดีโคตรๆ, ขายไม่ได้หรอก รวยแล้ว ทำเอากล่องเฉยๆ
คะแนน: 62/100 A
ดูไป: 


• ยอร์มุงกันด์

ใครที่ดู Upotte! มาให้ดูเรื่องนี้ต่อจะได้อรรถรสยิ่งขึ้น (หรือจะสลับกันก็ได้) อนิเมแนวจารชนแบบจริงจังไม่ติดตลก เป็นเรื่องของโกโก้ เลิฟลี่ เฮคมาเทีย เป็นนักค้าอาวุธสงครามที่รับเอาทหารรับจ้างเด็กชื่อโยน่ามาอยู่ในกลุ่ม แล้วก็ไปมีปัญหาขัดผลประโยชน์กับคนโน้นคนนี้ตีกันไปตีกันมา ดูเหมือนว่า White Fox จะเลือกเรื่องมาทำอนิเมได้น่าสนใจเสมอ(ขายได้ไม่ได้อีกเรื่อง) บางคนอาจจะบ่นๆว่าทำไมหน้าตาตัวละครบูดเบี้ยวๆบางฉาก ขอบอกว่าในมังงะมันก็เบี้ยวๆแบบนี้หล่ะ…
คงจะมีหลายคนที่ดูอามางามิSS+ในซีซั่นที่แล้ว พอมาดูเรื่องยอร์มุงกันด์ก็จะรู้สึกได้ทันทีว่า….เสียงเจ๊โกโก้นี่มันเสียงฮารุกะเซมไปบิทช์ชัดๆ ถ้าหลับตาฟังอาจจะพาลคิดได้ว่าจริงๆแล้วหลังจากเรียนจบ ม.ปลาย ฮารุกะเซมไปก็ไปค้าอาวุธต่อที่เมืองนอกจนได้ดิบได้ดีมีโชตะไว้เชยชมส่วนตัว สิ่งที่ชอบที่สุดในตอนแรกก็คือตอนที่โยน่าถามว่าโกโก้ว่าทำไมถึงค้าอาวุธ โกโก้ก็ยิ้มแย้มตามปกติเหมือนไม่ใช่คำถามแปลกอะไรแล้วก็หันมาตอบว่า “เพื่อให้โลกสงบสุข”
Checkpoint: โกโก้ เลิฟลี่ เซ็กซี่ เฮคมาเทีย, แสบๆคันๆ
คะแนน: 65/100 B
ดูไป: ■■


• เอคเซลเวิร์ล

อนิเมจากไลท์โนเวลที่มีแววเข้าท่าเรื่องนึง ตอนแรกงานดีมาก สาวๆแจ่ม ตัวเรื่องเปิดมาว่าพระเอกมีปมด้อย อ้วนเป็นหมูแถมถูกรังแก มีชีวิตเป็นสุขแค่ในโลกออนไลน์ (กระทบใครหรือเปล่า!?) แต่พอๆดูไป มีปมด้อยอะไรวะทำไมสาวๆจิ้มลิ้มเทียวไล้เทียวขื่อไม่ซ้ำหน้า… สุดท้ายมันก็อีฮาเรมเหมือนดิม ประเด็นเรื่องปมด้อยไม่ได้มีอะไรสำคัญเลย
เอคเซลเวิร์ลตอนแรกนั้นดูสนุกมาก เต็มไปด้วยปริศนาและตื่นตาตื่นใจกับกลไกแปลกใหม่ในเรื่อง อนิเมชั่นคาแรกเตอร์ดีไซน์ออกแบบสาวๆได้แจ่มจรัสยิ่งนัก แต่พอดูถึงตอนที่สองที่ตัวเรื่องเริ่มอธิบายถึงหลักการต่อสู้ในเรื่องอย่างชัดเจนก็กลับรู้สึกว่ามันก็งั้นๆแฮะ ไม่ได้มีอะไรสร้างสรรค์แปลกใหม่ เซ็ตติ้งก่อนหน้าที่ดูน่าสนใจเอาเข้าจริงก็แทบไม่ได้ใช้ เป็นยูกิโอห์หยุดเวลาสู้กันแค่นั้นเอง แถมสาวๆก็มาออเซาะเซอร์วิสเอาใจโอตาคุ ไม่ได้มีความเครียดจากปมด้อยหมูชมพูเหลืออยู่เลย…. (ผมว่าอย่างนี้ไม่ใช่อ้วนแล้ว มันต้องสงสัยแล้วว่าเป็นสปีชี่โฮโมซาเปี้ยนหรือเปล่า) แต่กระนั้นเลยโดยรวมก็ไม่ได้ขี้ริ้ว ยังมีอะไรให้ติดตามได้อยู่
Checkpoint: เหมือนจะดี?, สาวๆแจ่ม
คะแนน: 70/100 B+
ดูไป: ■■■


• Kids on the Slope

ซากามิจิโนะอาโพลอน(อพอลโล่) นั้นสร้างจากหนังสือการ์ตูนสำหรับผู้หญิงโดย โคดามะ ยูกิ ซึ่งผมนั้นชอบเป็นการส่วนตัว งานของ โคดามะ ยูกิ นั้นมีวิธีคิดที่ลึกซึ้งและอบอุ่นแล้วก็แอบจิกกัดนิดหน่อย สำหรับเรื่องนี้จะจับเอาช่วงยุค 60 กับนักเรียนมัธยมและดนตรีแจ๊ซ เพลงในเรื่องนั้นคันโนะ โยโกะ รับประกันคุณภาพ อนิเมเรื่องนี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ห่างไกลจากความเป็นอนิเมมากที่สุดในซีซั่นนี้ ผมยอมรับว่ามันเป็นอนิเมที่งดงามและมีคุณภาพ จนคิดว่ามันควรเป็นละครโทรทัศน์หรือภาพยนตร์มากกว่า วิธีนำเสนอ เรื่องราว ดนตรี โครงสร้างที่ละเมียดเกินไปยากที่จะดึงดูดโอตาคุผู้หยาบกร้านหื่นกามได้ ก็ต้องชมวงการที่ให้ยังมีพื้นที่สำหรับงานแบบนี้อยู่ ส่วนตัวแล้วชอบในบรรยากาศและโทนเรื่องมาก เป็นอนิเมที่ควรดูเพื่อรักษาสมดุลย์ทางจิตใจไว้ก่อนที่จะเหลวแหลกมากไปกว่านี้…. แต่ดูๆไปแล้วฟุน่าจะแอบชอบนะ
Checkpoint: คุณดีเกินไป, จะเกย์ไหมเนี่ย
คะแนน: 80/100 A
ดูไป: ■■


• เนียลโกะ

นี่เป็นอนิเมที่ทำให้ผมสงสัยว่า อาสึมิ คานะ นั้นเมาเนื้อเวลาพากย์หรือเปล่า… หล่อนพากย์ได้รั่วเหมือนยัยบ้าวิกลจริตยังไงยังงั้น(ได้ยินว่าตัวจริงชีรั่วแบบนี้หล่ะ) เนียลโกะเป็นอีกเรื่องนึงที่พิสูจน์ว่าเจแปน’s โมเอ้ฟิลเตอร์ใช้ได้กับทุกสิ่งบนโลกใบนี้ จากนิยายของเลิฟคราฟท์ที่หลอนประสาทกลายมาเป็นยัยรั่วไม่เต็มเต็งโอตาคุหื่น มุกตลกในเรื่องเยอะมาก บางทีก็ล้ออะไรเก่ามากที่สงสัยว่าคนดู(อ่าน)มันจะเกิดทันมั้ยเนี่ย ตัวงานอนิเมชั่นดีมาก คนละเรื่องกับแฟลชอนิเมที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ (แม้ว่าตอนสองจะดรอปลงบ้าง) เป็นอนิเมแนวรั่วป่วนโอตาคุที่ทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ปกติผมไม่ให้อนิเมแนวนี้อันดับสูงนะเนี่ย เรื่องนี้พิเศษจริงๆ!
Checkpoint: ไร้สาระมากจนกลายเป็นมีสาระ, อนิเมที่โอตาคุทุกคนต้องดู?
คะแนน: 83/100 B+
ดูไป: ■■


• ซาเต็นซอมบี้

ซังกะเรอาเป็นอนิเมจาก Deen ที่งานดีจนผมต้องกลับไปดูเครดิทอีกครั้งมันของ Deen จริงๆเหรอวะ ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าซังกะเรอามันมีพล๊อทที่งี่เง่ามาก พระเอกเป็น Necrophilia กับนางเอกที่เป็นซอมบี้!? มันเป็นพล๊อทที่พอได้ยินก็เบือนหน้าและไม่เคยคิดจะอ่านมังงะเรื่องนี้เลยสักครั้ง แต่นั่นเองกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผมโชคดีเหลือเกินที่ไม่เคยอ่านมัน เพราะหลังจากดูตอนแรกจบแล้วผมรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก ก็เลยไปหามังงะ(แสกน)มาอ่านเทียบดู แล้วพบว่าอนิเมทำออกมาสนุกกว่ามังงะสักหมื่นเท่าได้ มังงะเป็นอะไรที่ดาษๆมาก ลายเส้น มุก การนำเสนอ ไม่ได้มีอะไรดีเป็นพิเศษ (ในแง่การนำเสนอนะ ก็ต้องให้เครดิทผลงานออริจินอลด้วย) อนิเมทำออกมาได้น่าติดตาม องค์ประกอบศิลป์งดงาม ชอบที่สุดก็คือการเล่นแสงสีแบบเหนือจริงและมุมกล้องแปลกตา พูดไปก็จะโดนหาว่าเป็นแฟนบอยอีก… คือมันเหมือนชาฟท์….. พอลองไปเช็คๆดูก็พบว่าผู้กำกับคือ ชินอิจิ โอมาตะ เป็นลูกหม้อชาฟท์คนนึง(กำกับมาโดกะ#8) อนิเมเล่าเรื่องออกมาได้มีชั้นเชิงกว่ามังงะ มีการดัดแปลงเรื่องที่ฉลาด พยายามดันบรรยากาศให้เหนือจริงแล้วผสมด้วยอารมณ์หม่นๆจนทำให้มองข้ามเรื่องพล๊อทที่ไม่มีเหตุผลไปได้
Checkpoint: ลงทุนมากเกินไปหรือเปล่ากับอนิเมจากมังงะธรรมดาๆ, อ่านมาก่อนจะสนุกน้อยลง, ED สวยมาก
คะแนน: 88/100 A
ดูไป: ■■■

10 thoughts on “377 | 2012 Spring”

  1. ชอบเล่นน้ำลายครับ ดูแล้วเกร็ง ดัดแปลงจากต้นฉบับดีกว่าตอนทำอนิเมยูเมะทสึไคร้อยเท่า

    1. แหม…เค้ามุกก็ไม่เก็ทอีก หมายถึงมันห่วยจนไม่ยอมรับว่ามีในโลกครับ

  2. ตอนแรกโหลดเนียลโกะมานั่งดูเพราะอยากรู้ว่าทำไมหลังจากเรื่องนี้ฉายแล้วนิยายของ Lovecraft บนอเมซอนถึงยอดขายพุ่ง
    หลังจากดูตอนแรกไป …แม่ง มุขกระจายต้องโหลดตอนสองมาดูเพื่อย้ำว่าไม่ได้คิดไปเองว่ามันสนุก
    ส่วนเรื่องอื่นยังไม่ได้ดูสักเรื่อง

  3. ดู Kids on the Slope สองตอนแล้ว สนุกดีจริงๆ ครับ ขอบคุณที่แนะนำ 🙂
    เห็นด้วยว่าจังหวะการดำเนินเรื่องแบบนี้ เหมาะแก่การทำเป็นหนังหรือละครมากกว่า อีกอย่างที่ชอบคือ อนิเมะที่เกี่ยวกับดนตรีที่ผมเคยดู ไม่เคยดูแบบที่เป็นแจ๊สเลย

  4. สอง ss ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีหุ้นตัวไหนน่าช้อนซื้อเป็นพิเศษจริงๆแฮะ
    ss นี้สงสัยจะรอดูเนียนโกะหลังจบล่ะมั้งนี่
    ปกติผมดูอนิเมแฟนซับเฉลี่ย ss ละประมาณไม่เกินสองเรื่อง
    ss ที่แล้วดูแค่ P4 ที่คุณภาพขึ้นๆลงๆ (แต่ส่วนใหญ่จะลงจนรับได้ไปแล้ว -เรียกว่าดูจนจบได้ด้วยพลังแฟนบอยล้วนๆนะเนี่ย!)
    เนียลโกะนี่เป็นเรื่องที่เห็น LP ประกาศ LC มาเป็นปีแล้ว ตั้งแต่เห็นเรื่องย่อก็อยากอ่านแปลกๆ แต่ไม่เห็นออกมาซักที(สงสัยจะรออนิเมฉายก่อนล่ะมั้งเพราะเห็นว่าใกล้ออกแล้ว)
    ส่วนนิยายของ lovecraft เนี่ยถ้าในไทยมีแปลขายผมก็อยากจะซื้ออ่านนะ เพราะชอบเซตติ้งจักวาลกับดีไซน์สัตว์ประหลาดจำพวกคลูรูธ ถึงแม้ว่าจะยังไม่เคยอ่านจริงๆจังซักทีก็เถอะ เอ้า! ใครก็ได้! ช่วยเกาะกระแสแปลนิยายของ lovecraft ออกมาทีสิ!! ผมจะซื้อจริงๆนะเอ้า!!!

  5. แหม๋ กว่าจะคลอดรีวิวออกมาได้ รออยู่นะครับเนี่ย
    ใจจริงผมรู้สึกว่าตั้งแต่ Steins;Gate จบไปก็ไม่มีอนิเมไหนที่อยากจะติดตามอีกเลยซักเรื่อง
    สงสัยเดียวนี้อนิเมแนวนั้นมันจะสูญพันธ์ไปแล้วมั้ง
    ซีซั่นนี้ที่รู้สึกว่าดีหน่อยก็เนียรุโกะที่รู้สึกพูดมากดีกับซากิอนิเมขายขาอ่อน
    แต่โดยรวมแล้วก็รู้สึกว่ามันก็เดิมๆ อยู่ดี เน้นโมเอ้ๆ น่าเบื่อ

  6. อนิเมเกรดสูงซีซั่นนี้เยอะนะเนี่ย…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *