219 | P4

เพิ่งจะได้มาเล่น เกมยอดเยี่ยมแห่งปีที่ใครๆก็พูดถึงไปหมดแล้ว
ถ้าผมเล่นเกมนี้จบก่อนสิ้นปีก็คงติดรายชื่อ top three เกมของปีแน่นอน

We’re all trapped in a maze of relationships
Life goes on with or without you
I swim in the sea of the unconscious
I search for your heart, pursuing my true self
Persona 4 เป็นภาคต่อของเกมซีรี่ส์ Persona ที่แยกออกมาจากเมงามิเทนเซย์อีกทีนึง เป็นที่รู้ๆกันว่าเมงามิเทนเซย์นั้นเป็นเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อเรื่องรุนแรงและมืดมน แม้กระทั่ง Persona เองก็มีบรรยากาศแบบนั้นติดมาด้วย แต่ว่าทันทีที่ Persona 3 วางขาย ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนไป ระบบของเกมนั้นได้ยกเครื่องใหม่หมด กลายเป็นเกม RPG ที่ผสมเกมจีบสาวกันได้อย่างลงตัว(จริงๆก็จีบหมดน่ะหล่ะ ชายหรือหญิง) บรรยากาศภายในเกมก็ดูสดใส เนื้อเรื่องหลากหลาย สาวๆห้อมล้อม ทำให้เกิดแฟนเกมกลุ่มใหม่ขึ้นมาในวงกว้าง แม้ว่าขณะเดียวกัน แฟนๆกลุ่มเก่าก็ต่างบอกว่ามันไม่ใช่เมงามิเทนเซย์ที่พวกเขาคุ้นเคย แต่ทุกฝ่ายก็ยอมรับว่าเกมนั้นสนุกและแปลกใหม่มาก ทำให้ Persona 3 ได้รับคำวิจารณ์ไปในทางที่ดีและมียอดขายที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ
Persona 4 นี้เป็นภาคต่อที่อาศัยระบบ RPG+เกมจีบสาว ที่ภาค 3 ทำไว้ โดยเอามาปรับปรุงให้ลงตัวกว่าเดิม เอนจินภาพของเกมก็ใช้ของภาค 3 มาแทบทั้งดุ้น ถ้าหากมองแต่ภายนอกแล้ว ภาค 4 นี้เป็นภาคที่มักง่ายอย่างเป็นได้ชัด และเป็นภาคที่ไม่ลงทุนเอาเสียเลย อาศัยว่าโหนกระแสนเกมที่บังเอิญบูมออกภาคต่อมาหากิน
พอได้เล่นเองถึงได้รู้ว่าทำไมเกมที่มักง่ายเกมนี้กลับได้รับคำวิจารณ์ในทางบวกจากแทบทุกสำนัก จุดแข็งของ P4 นั้นคือเนื้อเรื่องที่ดึงดูดและน่าติดตาม ผสานกับความลงตัวของเกมที่ให้ความสำคัญทั้งฝั่งที่เป็น Simulation และฝั่ง RPG เกม

Persona 4 นั้นมีเนื้อเรื่องอยู่ที่ว่าพระเอกของเรานั้นพ่อแม่ต้องไปทำงานต่างประเทศและจำเป็นต้องย้ายมาอาศัยอยู่กับน้าที่จังหวัดอินาบะซึ่งค่อนข้างจะบ้านนอกแทน และยังต้องเรียนหนังสือที่นี่ประมาณ 1 ปีอีกด้วย แต่ย้ายมาได้ไม่ทันไรก็มีคดีฆาตกรรมปริศนาเกิดขึ้น คุณพระเอกก็ได้พบเจอกับมิตรสหายและร่วมมือกันไขปริศนาและค้นหาความจริงของคดีที่เกิดขึ้น รวมถึงความลับที่ซ่อนอยู่
คนเล่นนั้นจะต้องใช้ชีวิตในโรงเรียน สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนในโรงเรียนและผู้คนมากมาย เพื่อพัฒนาจิตใจที่จะส่งผลไปถึงในส่วนของ RPG ที่จะทำให้เราสามารถผสมเปอร์โซน่าได้เก่งกาจกว่าเดิม เนื้อเรื่องในส่วนของ Simulation นั้นหลากหลายและน่าติดตาม แต่เนื้อเรื่องหลักเองก็น่าติดตามยิ่งกว่า พอเราดำเนินเนื้อเรื่องมาจนถึงจุดนึงเราก็จะต้องลุยดันเจี้ยนและเข้าสู่ส่วนของ RPG ตัวเกมให้สัดส่วนของการเล่นทั้งสองด้านได้อย่างพอเหมาะ แม้ว่าดันเจียนในเกมจะมีความยากถึงยากมาก แต่หากจับจุดได้ถูกก็สามรถเอาชนะได้ไม่ยากนัก และตัวเราก็สามารถเลเวลอัพได้ง่าย ทำให้ไม่รู้สึกน่าเบื่อเวลาเล่น เพราะรู้สึกว่ามีการก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา ต่างจากเกม RPG บางเกมที่ให้ EXP น้อยมากราวกับว่าจะกลั่นแกล้งคนเล่นให้หลงป่าตาย (เกมค่ายเดียวกันนี่ล่ะ)
เนื้อเรื่องหลักของ Persona 4 นั้นแปลกใหม่ด้วยการจับเอาคดีฆาตกรรมปริศนามารวมไว้กับเกม RPG เราต้องค้นหาความจริงไปพร้อมกับตัวละครทุกคน รวมถึงสร้างความสนิทสนมกับเพื่อนพ้องของเราด้วย ประเด็นปมของตัวละครที่ให้ค้นหาก็น่าติดตามและทันสมัย ปริศนาคดีฆาตกรรมก็ซับซ้อนซ่อนเงื่อนหลายต่อหลายชั้น ส่วนที่ซึ้งกินใจก็ทำได้ดี เป็นเกมที่ครบทุกรสชาติโดยไม่ขัดแย้งกันเองอย่างแท้จริง
จุดแข็งของเกมอีกอย่างก็คือตนตรีประกอบซึ่งได้ Shoji Meguro คนเดิมจากภาค 3 มาแต่งเพลงให้ เพลงในเกมโดดเด่นเพราะแทบทุกเพลงนั้นจะมี Vocal(เสียงร้อง) หมด ทำให้ไม่น่าเบื่อ (แต่เล่นนานๆจะหลอน เพราะร้องได้ทุกเพลงเลย…ฮาร์ทบีท! ฮาร์ทเบรค!) เนื้อเพลงของเวลาปกติก็จะพูดถึงความสัมพันธ์ของชายหญิง เวลาต่อสู้ก็จะเกี่ยวกับการค้นหาความจริง ซึ่งลงตัวกับบรรยากาศของเกม สำหรับเพลงนี้โดดเด่นมาตั้งแต่ภาค 3 แล้ว อัลบั้ม OST ของ P4 นั้นก็มียอดขายที่สูงมาก เปิดตัวติดอันดับ Oricon ถึงอันดับ 5 เลย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับประเทศที่มีการแข่งขันสูงอย่างญี่ปุ่น
อีกอย่างก็คือเสียงพากย์ของเกม ในเวอร์ชั่นอเมริกานั้นผมไม่แน่ใจเรื่องความดังของนักพากย์เท่าใหร่ (และผมก็เล่นเแผ่น Undub ด้วย) แต่เวอร์ชั่นญี่ปุ่นแล้ว นักพากย์ทุกคนนั้นเรียกได้ว่า Top Ten ของวงการเลยทีเดียว แค่สามสาวตัวเอกรับบทโดย คุกิมิยะ ริเอะ (ซันเซนอิง นางิ, ไอซากะ ไทงะ) , โคชิมิสึ อามิ (คาเรน, โฮชิโนะ ยูมิ), โฮริเอะ ยูอิ (มิโนริน, ซาคุยะ) ซึ่งสามคนนี้เรียกได้ว่าดังที่สุดในวงการตอนนี้เลย โชคดีเหลือเกินที่ไม่มี ฮิราโนะ อายะ เพราะผมไม่ชอบเสียงเธอเอาซะเลย ที่เกมสามารถขนนักพากย์ชื่อดังมาได้ขนาดนี้ก็อานิสงค์จากภาค 3 แท้ๆ ที่เกิดบูมขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ใครที่เคยเล่นคงพอจะรู้ว่าภาค 3 แค่โปรดัคชั่นของ Opening และ Animation ก็คุณภาพอยู่แค่ระดับกลางๆ-ต่ำเท่านั้น แต่ในภาค 4 นี่ Budget สำหรับโปรดัคชั่นนี่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลย

ทีนี้มาถึงเรื่องเดิมๆ ตัวละครที่ชอบประจำเกม โดยปกติแล้วเวลาผมเล่นเกมอะไรหรือดูอนิเมที่ประทับใจ มักจะมีตัวละครโปรดเสมอ โดยที่เวลาตัวละครโปรดทำอะไรผมก็จะเห็นดีเห็นงามด้วย อย่างโทร่าโดร่าเนี่ยผมชอบไทงะ แม้จะเป็นเด็กนิสัยเสียปานใด อย่างไฟนอล 12 ก็ชอบพันเนโล่ หรืออย่าง Persona 2 ผมก็ชอบกิงโกะ ef ผมก็ชอบมิยาโกะ แต่สำหรับ Perona 4 นี้แล้วผมกลับไม่ชอบใครโดดเด่นสักคน แต่เหมือนกับว่าชอบทุกคนแทนซะงั้น ตัวละครภาคนี้ดูภายนอกตอนเห็นภาพประกอบกับตอนได้สัมผัสนั้นจะแตกต่างกันอยู่พอสมควร ลืมบอกไปว่าภาพประกอบและ Art Director ภาคนี้นำทีมโดย Shigenori Soejima คนเดียวกับภาค 3 ผมสนใจงานของคนนี้ตั้งแต่ตอนเขาเป็น Illustrator ให้เกม Stella Deus แล้ว งานของเขานั้นมีกลิ่นอายวิปริตของ Kazuma Kaneko แต่ก็สามารถให้ความรู้สึกสวยงามไว้ด้วยได้ (งานของคาเนโกะจะโรคจิตแบบสุดขั้ว ไม่สามารถวาดคนที่มองแล้วให้ความรู้สึกสบายใจด้วยได้ ไม่งั้นเวลาทำคอมมูพอเห็นหน้าคงเครียดเกิน)
กลับมาที่ตัวละคร ภาคนี้ตัวละครนั้นมองแต่ภายนอกไม่ได้ อย่างโยสุเกะที่มองภายนอกเป็นตัวโจ๊กปล่อยมุข จริงๆแล้วเขาแบกรับความผิดหวังและสูญเสียที่ไม่อาจแก้ไขได้ไปพร้อมๆกัน ผมสงสารโยสุเกะตอนอาดาจิดูถูกโคนิชิมากๆ มันเจ็บปวดและทำได้เพียงปลอบประโลมตัวเองด้วยคำพูดที่ไม่มีวันส่งไปถึง ยูกิโกะนั้นดูเผินๆจะนึกว่ากุลสตรีแต่จริงๆแล้วเส้นตื้น เมาดิบแล้วเซ็กซี่มากอีกตะหาก ยูกิโกะนี่ธรรมดาสุดแล้วมั้ง จิเอะดูเผินๆเหมือนยัยบ้า แต่ก็รู้สึกสนิทสนมเหมือนเป็นเพื่อนกันจริงๆ จิเอะเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมที่สุดเลยทั้งๆที่ไม่ได้น่ารักอะไรมาก(ตามเนื้อเรื่อง) ท่าไม้ตายก็แรงบัดซบ ผมชอบท่าเตะเวลาเรียกเปอร์โซน่า เท่ดี คันจินี่เห็นที่แรกนึกว่านักเลงเก๋า เอาเข้าจริงๆกลับเป็นรุ่นน้อง ชอบอะไรน่ารักๆ แถมยังโดนตัวโจ๊กอย่างโยสุเกะข่มอยู่ตลอดเวลา และยังมีแนวโน้มว่าจะเป็นเกย์อีกตะหาก ริเสะนี่ออกจะน่ารักแบบแปลกๆ ไร้เดียงสาแต่ก็หน้าด้านด้วย บอกรักคุณพระเอกแบบไม่อายฟ้าดิน เป็นไอดอลแต่ออกจากวงการมาขายเต้าหู้! คุณเธอจะดริฟท์ลงเขาที่อินาบะตอนตีห้าทุกวัน!!(โกหก) นาโอโตะนี่ผมเฉยๆมาก แต่มีอีเวนท์ที่ชอบเป็นพิเศษเดี๋ยวจะเขียนถึง ส่วนคุมะตัวฮาประจำภาคก็น่ารักดี กวนตีนกับบ้าหม้อไปได้พร้อมๆกันได้
ถ้ารวมตัวละครที่เป็นคอมมูด้วย คนที่คิดว่าชอบที่สุดแล้วก็คงเป็น โอซาว่า ยูมิ สาวชมรมละคร ที่เนื้อเรื่องไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชมรมละครเลย หักมุมนิดๆ นึกว่าจะได้ดูละครหลังข่าวชมรมละครต้องสู้ซะแล้ว ผมชอบความอ่อนแอของยูมิและการรู้จักตัวเองของเธอ ตอนที่เธอก้าวไปข้างหน้าได้นั้นดูเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่มาก คิดว่าถ้ามีภาคต่อ คุณเธออาจจะได้โผล่หน้ามาเล็กน้อยแบบจิฮิโระจากภาค 3 ก็ได้
อีเวนท์ที่ชอบคืออีเวนท์คริสมาสกับนาโอโตะ ผมดูอีเวนท์คริสมาสแค่สองคนนะ คือริเสะกับนาโอโตะ ของคนอื่นเป็นไงไม่รู้เหมือนกัน ของนาโอโตะนี่เราจะชวนเธอมาบ้าน นาโอโตะจะอวดชุดนักเรียนหญิงให้เราดู แล้วนาโอโตะจะให้นาฬิกาข้อมือเราเรือนนึงคู่กันกับของนาโอโตะ นาฬิกานี้จะสามารถส่งสัญญาณและบอกได้ว่าอีกอันอยู่ที่ใหน แต่ด้วยที่เป็นแค่ของเล่นเลยมีระยะแค่ 5 เมตร ในคืนนั้นนาโอโตะจะขออยู่ด้วยกับเรา ภาพก็เฝดดำไปตามปกติของเกมเด็กดีที่ไม่อาจให้มี Love Scene ได้ แต่มันดันมีตัวหนังสือขึ้นว่า “ระยะห่างของเป้าหมาย < 1 เมตร" ขึ้นมานี่สิ อยากจะกรี๊ดจริงๆ อะไรมันจะหวีดวิ๊วเดเระเดเระได้ขนาดนั้น
ชมมาเยอะ ลองมาหาข้อเสียมั่ง อย่างแรกก็คือผมยอมรับว่า Game Play จนจบรอบแรก 70 ชั่วโมงของผมนั้นสนุกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สำหรับคุณค่าการเล่นซ้ำนั้น P4 มีน้อยมาก รอบสองมีบอสเพิ่มเพียงตัวเดียวและก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องเลย นอกนั้นก็ไม่มีอะไรใหม่เลย อ่านเนื้อเรื่องเดิมๆ ถ้าเพิ่งเล่นจบมาหมาดๆก็คงไม่อยากทำสักเท่าใหร่
อย่างที่สองก็คือ P4 ไม่มี End Game เกมดำเนินเนื้อเรื่องอย่างเป็นเส้นตรงไปเรื่อยๆ ไม่สามารถย้อนกลับได้ ไม่สามารถเถลไถลได้ ไม่มีดันเจี้ยนลับ ทั้งๆที่เกม RPG สมัยใหม่ทุกเกมจะมีเนื้อหาส่วนนี้เสมอ เหมือนกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้ว แต่ P4 ไม่มี และเลือกที่จะเป็นแบบนี้
อย่างที่สามก็คือภาพประกอบและโมเดลของ Persona ในเกมนั้นมี Persona มากมายนับร้อยชนิด แต่ประมาณ 90% หยิบยกมาจากภาค 3 (และ 80% ของภาค 3 ก็ยกมาจากเมงามิเทนเซย์ 3 อีกที) ภาพประกอบเปอร์โซน่าหลายๆตัวนั้นเก่ามาก อาจจะถึง 10 ปีด้วยซ้ำ โดยจะคละๆกับภาพใหม่ไป Kikuri Hime, Atropos, Michael นี่โมเดลเดิมเด๊ะๆตั้งแต่ เมงามิเทนเซย์ 3 เมื่อ 5 ปีก่อน ผมอยากให้ยกเครื่องใหม่สักครั้งตอนขึ้น Gen ใหม่จริงๆ
แต่ถึงกระนั้น นานแล้วเหลือเกินที่ผมไม่ได้รู้สึกว่าเล่นเกมดีๆเต็มที่แบบนี้ สมกับที่อุตส่าห์ไปเบียดเบียน TV เล่น

ปล. ทำไมชุดนักเรียนยูกิโกะเป็นสีแดง…
ปล2. ลง plugin ใหม่ เล่นซะหน่อย รุน่!!! พอกดดูรูปแล้วจะเป็น Overlay และสามารถดูภาพทั้งหมดที่ลิงค์ในหน้านี้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้ Upload เองก็ตาม! ขอบคุณอากิบักโกะที่ให้ลิงค์ฟรีๆ

2 thoughts on “219 | P4”

  1. ตอนเล่นไม่ได้เลือกสาวหัวเถิก ไปเลือกเด็กแป้นแทน ..เพราะอะไรก็ไม่รู้ เหอๆ
    BGM ฉากสู้นี่ค่อนข้างที่จะซ้ำนะ ถึงจะเป็นแบบ vocal ตลอดก็ตาม แต่ก็รับได้ เพราะเพลงมันเร้าดี แต่เล่นนานๆก็หลับคาจอยเหมือนเดิม
    ส่วนข้อเสียก็อย่างที่ว่ามา
    รอบ 2 ก็ไม่มีดันลับให้เข้าแบบภาค 3 ที่มันอยู่หลังบันได เพราะดันลับคือดันจบทรูเอนด์ไปแล้ว
    รวมถึงเพอโซน่า ..ก็เอาอสูรภาคเก่าๆมาทั้งดุ้น เปลี่ยนแค่ตัวที่พวกพระเอกใช้แค่ันั้นเอง
    ไอ้ที่เหมือนขอแค่ตระกูลฟรอสก็พอแล้ว

  2. สาวหัวเถิกเหมือนวิกจะหลุดตอนจบบอกว่าจะเข้าสภานักเรียนด้วยนะ
    ถ้าไม่เกรงใจมุขเดิมก็อาจจะได้เป็นประธานนักเรียน แต่ยังไงจิฮิโระ
    ก็แจ่มกว่าเยอะจริงๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *